CDIC 2023

NTT ลงทุน 500 ล้านบาทใน Nexcenter BKK2 ขยายเฟส 3 มุ่งรองรับการทำงาน High Processor ใน Data Center และใช้พลังงานอย่างคุ้มค่าด้วย ISO50001

หากพูดถึง Data Center ที่มีคุณภาพและมาตรฐานสูงในประเทศไทยนั้น Nexcenter ของ NTT Communications เองก็ถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าจับตามองไม่น้อย และยังได้รับเสียงตอบรับจากลูกค้าในภาคธุรกิจองค์กรและโรงงานเป็นอย่างดี จนล่าสุดในปี 2019 นี้เอง ทาง NTT Communications ก็ได้ประกาศขยาย Nexcenter BKK2 เป็นเฟสที่ 3 ให้เปิดจองพื้นที่กันได้ อีกทั้งยังประกาศความสำเร็จในการผ่านการรับรองมาตรฐาน ISO50001 ซึ่งจะช่วยให้ Nexcenter นั้นสามารถใช้พลังงานได้อย่างคุ้มค่าเหนือกว่า Data Center ทั่วๆ ไป ให้เกิดความมั่นคงและยั่งยืนด้านการใช้พลังงานในประเทศไทยไปด้วยอีกทางหนึ่ง

Nexcenter: บริการ Data Center มาตรฐานระดับโลกตอบโจทย์ธุรกิจองค์กรจาก NTT Com

Credit: NTT Communications

Nexcenter นี้มีที่มาของชื่อจากการนำคำว่า Next และ Center มาผสานรวมกัน เพื่อให้แสดงถึงบริการเบื้องหลังของ NTT Communications ที่ต้องการจะเป็นผู้นำทางด้านตลาด Data Center ด้วยการก้าวนำให้เหนือกว่า Data Center ทั่วๆ ไปหนึ่งก้าวอย่างเสมอ ทั้งในแง่ของคุณภาพในการให้บริการ, ความยืดหยุ่นในการนำเสนอโซลูชันเพื่อตอบโจทย์ทางธุรกิจ และความคุ้มค่าในการลงทุนที่จะช่วยให้ธุรกิจองค์กรต่างๆ นั้นมั่นใจในการมาลงทุนใช้งานบริการของ Nexcenter

หากเทียบกับบรรดา Data Center อื่นๆ ที่มีอยู่ในประเทศไทย Nexcenter นั้นต้องการวางตัวเองให้อยู่ในระดับของ Premium Data Center ด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีและการออกแบบที่เหนือชั้นที่สุดให้กับเหล่าลูกค้าองค์กร ไม่ว่าจะเป็น SLA ทางด้านพลังงานที่ระดับ 100% พร้อมระบบ Fully Redundant สำหรับพลังงานและระบบเครือข่าย ที่มีการเชื่อมต่อไปยังผู้ให้บริการหลากหลายทั้ง CAT, Jastel, UIH, True, Symphony, AWN, Interlink และ TOT รวมถึงยังเชื่อมต่อกับเครือข่ายของ NTT Com ออกไปยังต่างประเทศได้โดยตรง ทำให้สามารถตอบโจทย์ของเหล่าธุรกิจองค์กรที่มีการใช้งานบริการ Cloud ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์ธุรกิจข้ามชาติที่มีสาขากระจายอยู่หลายประเทศได้เป็นอย่างดี

Credit: NTT Communications

Data Center ภายใต้แบรนด์ Nexcenter นี้ในไทยมีด้วยกัน 2 แห่ง ได้แก่ BKK1 ที่อยู่ในบริเวณกรุงเทพมหานคร และ BKK2 ซึ่งเป็น Data Center แห่งใหม่ที่ตั้งอยู่ใน Amata Data Center Park ห่างจากกรุงเทพมหานครออกไปถึง 70 กิโลเมตร เป็นพื้นที่ที่ไม่เคยมีการชุมนุมทางการเมืองหรือเกิดเหตุอุทกภัยมาก่อน รวมถึงยังไม่อยู่ในแนวพื้นที่อันตรายจากเหตุแผ่นดินไหวด้วย ด้วยเหตุนี้เองเหล่าธุรกิจองค์กรจำนวนมากที่มองหา Data Center ที่มีความมั่นคงและน่าเชื่อถือ จึงได้เลือกใช้ Nexcenter BKK2 เป็นอย่างมากจนพื้นที่ในเฟส 1 และเฟส 2 ของการลงทุนนั้นถูกจับจองจนเกือบเต็มพื้นที่อย่างรวดเร็ว

Nexcenter BKK2 มีพื้นที่โดยรวมมากกว่า 10,000 ตารางเมตร และมีพื้นที่สำหรับบริการ Colocation มากกว่า 5,000 ตารางเมตร รองรับการติดตั้งตู้ Rack ขนาด 42U ได้สูงสุดถึง 1,500 ตู้เลยทีเดียว

การออกแบบ Nexcenter BKK2 นี้ได้ออกแบบสอดคล้องตามมาตรฐาน Uptime Institute Standard ระดับ Tier 3 และ Tier 4 ผสมกัน เพื่อให้ Data Center นี้มีคุณภาพสูงสำหรับให้บริการลูกค้าได้อย่างมั่นใจ ดังนี้

Credit: NTT Communications

ส่วนมาตรฐานต่างๆ ที่ Nexcenter ได้รับนั้นก็ได้แก่ ISO27001:2013 มาตรฐานด้านความปลอดภัยของข้อมูล, Payment Card Industry Data Security Standard หรือ PCI DSS มาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยสำหรับธุรกิจที่ต้องจัดการกับข้อมูลบัตรเครดิต, ISAE 3402 Type 2 Report รายงานเพื่อรับรองถึงการควบคุมการให้บริการภายในองค์กร และล่าสุดนี้เองก็ยังได้รับ ISO50001:2011 ซึ่งเป็นมาตรฐานด้านการบริหารจัดการพลังงานโดยเฉพาะอีกด้วย

ความปลอดภัยเองก็ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญของบริการ Nexcenter ดังนั้นก่อนที่ลูกค้ารายใดๆ จะสามารถเข้าถึง Hardware ของตนเองภายในตู้แร็คได้นั้น ก็ต้องผ่านด่านการตรวจสอบด้านความมั่นคงปลอดภัยมากถึง 8 ชั้นเลยทีเดียว

สำหรับบริการต่างๆ ที่เปิดให้ใช้งานได้ใน Nexcenter มีด้วยกันดังนี้

  • Colocation สำหรับวาง Server หรือ Hardware ต่างๆ
  • BCP Office เช่าใช้งานพื้นที่ทำงานยามเกิดภัยพิบัติ
  • Connectivity บริการเชื่อมต่อเครือข่ายผ่าน UTP และ Fiber
  • Remote Hands เจ้าหน้าที่ช่วยดูแลรักษาระบบต่างๆ ทั้งการจัดการการแจ้งเตือน, การแก้ไขการเดินสาย, การเปิดปิดเครื่อง ไปจนถึงการจัดการกับ Tape Backup, การออกรายงาน, การทำหน้าที่ที่กำหนดรายวัน และอื่นๆ ตามแต่จะตกลง
  • Network มีทั้งการเชื่อมต่อเครือข่ายระหว่าง NexcenterTM ทั้ง 2 สาขาเข้าด้วยกันด้วยความเร็วสูง, บริการ Internet ทั้งภายในและนอกประเทศ รวมถึง Arcstar Universal One สำหรับเชื่อมต่อเครือข่ายใน 196 ประเทศทั่วโลกเข้าด้วยกัน

สำหรับผู้ที่สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Nexcenter สามารถศึกษาข้อมูลเบื้องต้นเพิ่มเติมได้ที่ https://www.th.ntt.com/en/services/data-center/nexcenter/thailand.html ครับ

ลงทุน 500 ล้านบาท ขยาย Nexcenter BKK2 ในเฟส 3 รองรับการเติบโตของภาคธุรกิจและ EEC พร้อมตอบรับ Workload แบบ High Density สำหรับ Advanced Solution

สำหรับการประกาศแรกที่ใหญ่มากในปี 2019 ของ Nexcenter ในประเทศไทยนั้น ก็คือการลงทุนเพิ่มเติมอีก 500 ล้านบาทโดย NTT Communications เพื่อเปิดโครงการในเฟส 3 ของ Nexcenter BKK2 ภายใต้แนวคิด High Density Data Center โดยเฉพาะ โดยในการเฟส 3 นี้จะมีพื้นที่ 1,200 ตารางเมตร และกำลังไฟฟ้าที่สูงถึง 2,000 กิโลวัตต์ เพื่อรองรับ Workload แบบใหม่ๆ ที่จำเป็นต้องใช้พลังงานสูงภายในพื้นที่ตู้ Rack ขนาดเล็กอย่างเช่นการใช้ GPU ประมวลผลงานทางด้าน AI โดยเฉพาะเป็นต้น ในขณะที่ระบบทั้งหมดยังคงมีความมั่นคงทนทานตามมาตรฐาน

เฟส 3 ของ Nexcenter BKK2 นี้ตอบโจทย์ต่อการทำ Digital Transformation ของภาคธุรกิจองค์กร และโครงการ Eastern Economic Corridor หรือ EEC ที่ต้องมีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้าไปใช้ในภาคส่วนต่างๆ ของธุรกิจที่จะมีการลงทุนในประเทศไทยด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง AI ที่จะกลายเป็นเทคโนโลยีหลักที่ถูกใช้งานในธุรกิจหลากหลาย และการนำ GPU มาเปิดให้บริการภายใน Data Center ที่จะช่วยให้การประมวลผล AI มีประสิทธิภาพมากขึ้น และการใช้งาน Software ด้านการออกแบบต่างๆ เป็นไปได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งทั้งคู่นี้ต่างก็จำเป็นต่อภาคอุตสาหกรรมการผลิตทั้งสิ้น รวมไปถึงการทำแอดวานซ์โซลูชันอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น IoT, Hybrid Cloud หรือ Blockchain และอื่นๆ เพื่อรองรับการขยายตัวทางธุรกิจ

การออกแบบเพื่อรองรับ Workload เฉพาะทางนี้ได้ถือว่าน่าสนใจไม่น้อยทีเดียว เพราะหลายธุรกิจในประเทศไทยเองนั้นก็เริ่มมีแผนในการพัฒนาเทคโนโลยีทางด้าน AI ของตนเองกันมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลทางธุรกิจปริมาณมหาศาลที่มีอยู่และเกิดขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะธุรกิจในกลุ่มการเงินของประเทศไทยที่มักเป็นผู้บุกเบิกการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาประยุกต์ใช้งาน และธุรกิจกลุ่มพลังงานที่พร้อมจะสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ขึ้นมาอย่างต่อเนื่องอยู่เสมอ และแน่นอนว่าด้วยมาตรฐานที่ Nexcenter มีอยู่นั้นก็ย่อมจะทำให้ธุรกิจสองกลุ่มนี้มั่นใจและเลือกใช้บริการได้อย่างไม่ยากเย็นนัก

เฟส 3 ของ Nexcenter BKK2 นี้เริ่มเปิดให้เหล่าธุรกิจองค์กรที่สนใจได้เข้าไปจับจองพื้นที่สำหรับใช้งานกันแล้ว และมีแผนที่จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการภายในเดือนกรกฎาคม 2019 ที่จะถึงนี้

ได้รับการรับรองตามมาตรฐาน ISO50001 ใช้พลังงานอย่างคุ้มค่ามากยิ่งขึ้นเพื่อความยั่งยืน

ประเด็นด้านการใช้พลังงานภายใน Data Center นี้ถือเป็นอีกหนึ่งประเด็นใหญ่ที่เหล่าธุรกิจ Data Center ทั่วโลกต่างให้ความสำคัญกันเป็นอย่างมาก เพราะไม่เพียงแต่พลังงานนั้นจะเป็นต้นทุนที่ส่งผลเป็นอย่างมากต่อการดำเนินธุรกิจ Data Center แต่การประหยัดพลังงานให้ได้นั้นถือเป็นวาระสำคัญของหลายๆ ประเทศทั่วโลกในภาวในยามนี้ และธุรกิจองค์กรหลายๆ แห่งเองก็ให้ความสำคัญทั้งในเชิงของความคุ้มค่าและการรักษาสิ่งแวดล้อมไปด้วยพร้อมๆ กัน

ISO50001 นี้เป็นมาตรฐานด้านการบริหารจัดการพลังงานที่อ้างอิงจากหลักการ Continuous Improvement ด้วยการนำ Plan-Do-Check-Act หรือ PDCA เข้ามาประยุกต์ใช้งาน โดยมีภาพรวมของ Framework ดังนี้

  • สร้างนโยบายใหม่ๆ และบังคับใช้เพื่อเพิ่มความคุ้มค่าในการใช้พลังงาน
  • ตั้งเป้าหมายและวัตถุประสงค์ให้ตอบรับต่อนโยบาย
  • ใช้ข้อมูลในการทำความเข้าใจและตัดสินใจด้านการใช้พลังงาน
  • วัดผลที่เกิดขึ้นจากการทำตามนโยบาย
  • ทบทวนว่านโยบายที่กำหนดเอาไว้นั้นได้รับผลเป็นอย่างไร
  • ปรับปรุงการบริหารจัดการด้านการใช้พลังงานอย่างต่อเนื่อง
  • การฝึกอบรมบุคลากร เพื่อสร้างความต่อเนื่องในการรักษามาตรฐานการดำเนินงาน

การนำ ISO50001 มาปฏิบัติใช้งานจริงนี้จะทำให้ธุรกิจที่มีพลังงานเป็นต้นทุนหลักอย่าง Data Center สามารถเพิ่มความคุ้มค่าในการใช้พลังงานไปพร้อมๆ กับผลกำไรได้ในเวลาเดียวกัน ซึ่งการชี้วัดความคุ้มค่าในการใช้พลังงานนี้จะมีการวัดค่า Power Usage Effectiveness หรือ PUE นั่นเอง

ค่า PUE นี้คิดจากการนำพลังงานทั้งหมดที่ใช้ หารด้วยพลังงานที่ใช้สำหรับอุปกรณ์ IT ภายในระบบ โดยหากค่ายิ่งเข้าใกล้ 1.0 ได้นั้นก็ถือว่ายิ่งดี นั่นแปลว่าหากธุรกิจ Data Center ยิ่งสามารถลดการใช้พลังงานในส่วนที่นอกเหนือจากอุปกรณ์ IT โดยตรงได้เท่าไหร่ ค่า PUE ก็จะยิ่งลดต่ำลง และแปลว่าธุรกิจนั้นๆ ยิ่งสามารถใช้พลังงานได้คุ้มค่ามากขึ้นนั่นเอง

หลังจากที่ Nexcenter ได้นำ ISO50001 เข้ามาใช้งานนั้น ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายประการ เช่น

  • ปรับการตั้งค่า Compressor จาก 70% เป็น 100% เพื่อให้ Compressor ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และลดปริมาณการทำงานของ Compressor อีกชุดหนึ่งลง
  • การเปลี่ยนหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ T5 เป็นหลอด LED แทนทั้งสิ้นจำนวน 432 หลอด
  • การติดตั้งเครื่องลดความชื้นและปรับแต่งการทำงานของเครื่องปรับอากาศในห้อง Maintenance Corridor
  • การปรับตั้งอุณหภูมิน้ำเย็นจากเครื่องทำน้ำเย็น (Chiller) ให้สูงขึ้นจาก 45 °F เป็น 49 °F

กิจกรรมเหล่านี้สามารถช่วยลดค่า PUE ของ Nexcenter ลงได้มากทีเดียว โดยจากเดิมในปี 2017 ที่มีค่า PUE อยู่ที่ 2.5 นั้น ก็สามารถลดได้ลงถึงต่ำกว่า 2.0 ในปี 2018 และการวัดผล PUE ของเดือนกุมภาพันธ์ นั้นก็สามารถลดค่า PUE ลงไปได้ถึง 1.65 เลยทีเดียว ที่ผ่านมาค่า เรียกได้ว่าภายในเวลาเพียงหนึ่งปีนั้น ก็สามารถลดค่า PUE ลงไปได้มากกว่า 30% แล้ว

แน่นอนว่าทาง Nexcenter เองก็จะไม่หยุดกิจกรรมด้านการบริหารจัดการพลังงานลงเพียงแต่เท่านี้ และหลังจากนี้ก็จะมีการปรับเปลี่ยนกระบวนการหรือการตั้งค่าและทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้การใช้พลังงานภายใน Nexcenter นั้นมีความคุ้มค่าสูงยิ่งขึ้น ให้สามารถรองรับต่อการเติบโตทางด้านระบบ IT ภายใน Nexcenter ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างคุ้มค่าและใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นไปด้วยในอนาคต

สนใจ Nexcenter ติดต่อทีมงาน NTT Communications ได้โดยตรง

สำหรับผู้ที่สนใจในบริการ Nexcenter สามารถติดต่อทีมงาน NTT Communications เพื่อขอคำปรึกษาหรือใบเสนอราคาได้ทันทีที่ nttct-marketing-gl@ap.ntt.com


About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

Gartner Hype Cycle ด้าน AI ปี 2023

Gartner ได้ออกคาดการณ์สำหรับการพัฒนาของ AI ในปี 2023 ซึ่งเจาะจงไปที่ Generative AI โดยหัวข้อแบ่งได้ 2 ส่วนคือ นวัตกรรมที่ได้รับการกระตุ้นจาก Generative AI และอีกส่วนคือ …

[รีวิว] Asus Zenbook 14X OLED รุ่น Sandstone Beige สีเบจ ให้ความรู้สึกเหมือนเซรามิก

Asus Zenbook 14X OLED มีการออกแบบที่โดดเด่นในสีเบจ Sandstone Beige เคลือบผิวด้วยเซรามิกรูปแบบใหม่ที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนบนฝาแล็ปท็อป มีรูปทรงบางเบา ขนาดหน้าจอ 14.5” (2880×1800) OLED มาพร้อมพลังขับเคลื่อนชิป CPU …