Black Hat Asia 2023

ชิปประมวลผล Optical Network ใหม่ของ Nokia ทำให้ประสิทธิภาพการรับส่งข้อมูลใกล้ถึงขีดจำกัดทางทฤษฎี Shannon Limit แล้ว

Nokia ได้ออกมาประกาศเปิดตัว Nokia Phonotic Service Engine 3 (PSE-3) ซึ่งเป็นชิปสำหรับใช้ประมวลผลการรับส่งข้อมูลในระบบเครือข่ายแบบ Optical Network ซึ่งทาง Nokia ระบุว่าชิปรุ่นนี้สามารถช่วยให้การรับส่งข้อมูลนั้นเข้าใกล้ขีดจำกัดเชิงทฤษฏีทางด้านการรับส่งข้อมูลบนสาย Fiber แล้ว

 

Credit: Nokia

 

Nokia PSE-3 นี้ใช้เทคนิคที่มีชื่อว่า Probalistic Constellation Shaping (PCS) ในการทำ Wavelength Modulation เพื่อปรับคลื่นสัญญาณให้เข้ากับคุณสมบัติของสาย Optical Fiber ให้มากที่สุด ทำให้การรับส่งข้อมูลสามารถเป็นไปได้ใกล้เคียงกับ Capacity ของสาย และสามารถเลือกใช้ความยาวคลื่นที่สามารถทนทานต่อสัญญาณรบกวนได้ดียิ่งขึ้น โดยรวมแล้ว Nokia PSE-3 สามารถเพิ่มปริมาณการรับส่งข้อมูลได้มากขึ้นถึง 65% ในขณะที่ใช้พลังงานน้อยลงถึง 60% เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีก่อนหน้า

ขีดจำกัดเชิงทฤษฎีของการส่งข้อมูลบนสาย Fiber นี้มีชื่อเรียกว่า Shannon Limit ซึ่งเป็นค่าที่ถูกกำหนดขึ้นมาโดย Claude Shannon นักวิจัยจาก Bell Labs เมื่อปี 1948 โดยค่า Shannon Limit นี้หมายถึงปริมาณข้อมูลที่สามารถรับส่งได้สูงสุดโดยแทบจะไม่มีการรับส่งข้อมูลที่ผิดพลาดเกิดขึ้นเลย ภายใต้สภาวะที่มีสัญญาณรบกวนในปริมาณต่างๆ

การใช้ PCS นี้นอกจากจะได้ความเร็วที่สูงขึ้นและประหยัดพลังงานมากขึ้นแล้ว ระยะในการรับส่งข้อมูลยังครอบคลุมตั้งแต่ 10 กิโลเมตรจนถึงระยะเกินกว่า 10,000 กิโลเมตรด้วย

นอกจากนี้ Nokia PSE-3 ยังรองรับความสามารถในการควบคุมด้วยโปรแกรม พร้อมทั้งยังมี Open Interface เพื่อเชื่อมต่อกับระบบอื่นๆ ทำให้สามารถทำ Automation ได้ตามความต้องการ

สำหรับผู้ที่สนใจรายละเอียดฉบับเต็ม สามารถศึกษาได้ที่ https://networks.nokia.com/photonic-service-engine-3 ครับ

 

ที่มา: https://www.sdxcentral.com/articles/news/nokia-optical-chipset-pushes-limits-of-speed-efficiency/2018/03/


About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

พลิกมุมคิดการจัดการคลาวด์ไอทีอย่างสมาร์ตฉบับวีเอ็มแวร์ [Guest Post]

แม้คลาวด์จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของการพาองค์กรก้าวข้ามวิกฤตไปสู่การสร้างสรรค์โมเดลธุรกิจหรือกลยุทธ์การแข่งขันใหม่ ด้วยคุณลักษณะที่คล่องตัว (Agility) ในการปรับความต้องการใช้งานโดยอัตโนมัติ (Auto-Scaling) ได้ด้วยตัวเอง (Self-Services) ทว่าหลายองค์กรซึ่งเลือกปฏิวัติระบบธุรกิจขึ้นสู่คลาวด์กลับประสบปัญหาการจัดการทรัพยากรที่ยิบย่อยบนคลาวด์ไม่ไหว แถมหัวจะปวดกับภัยคุกคามที่ยุ่งยากในการป้องกัน ด้วยเหตุนี้ ความคาดหวังต่อไอทีคลาวด์ยุคถัดไป คือ การปรับแต่งแอปพลิเคชันและแพลตฟอร์มคลาวด์ไอทีให้ทันสมัยตรงต่อความต้องการทางธุรกิจ ภายใต้ระบบการรักษาความปลอดภัยแบบองค์รวมที่แข็งแกร่ง ทั่วถึง และเป็นอัตโนมัติกว่าเดิม

Microsoft Teams, VirtualBox, Tesla ถูกเจาะ Zero-days ในงาน Pwn2Own

Microsoft Teams, VirtualBox, Tesla ถูกเจาะ Zero-days ในงาน Pwn2Own Vancouver 2023 ผู้เข้าแข่งขันกวาดเงินรางวัลสูงสุด 475,000 เหรียญ หรือประมาณ 16 …