TechTalkThai ศูนย์รวมข่าว Enterprise IT ออนไลน์แห่งแรกในประเทศไทย
เมื่อการสร้างอุปกรณ์เครือข่ายใช้งานเองจาก Open Source สามารถลดค่าใช้จ่ายใน Data Center ได้ถึง 10 เท่า
ใน Business Insider มีการพูดถึง LinkedIn กับเทคโนโลยี Open Source Data Center Networking ที่ค่อนข้างน่าสนใจ ทาง TechTalkThai จึงขอสรุปให้ได้อ่านกันดังนี้ครับ
หลังจากที่ LinkedIn ได้พัฒนาเทคโนโลยีทางด้าน Data Center ของตัวเองและเปิดเป็น Open Source มาได้ระยะหนึ่ง โดยที่ผ่านมา LinkedIn ตั้งเป้าพัฒนาเทคโนโลยีระบบเครือข่าย ให้ค่าใช้จ่ายต่อ 1Gbps ลดเหลือเพียง 1 เหรียญหรือราวๆ 35 บาทให้ได้ และได้ทำการเปิดตัว Pigeon อุปกรณ์ Open Source Switch ที่มีความเร็วระดับ 100Gbps จำนวน 32 พอร์ต (https://www.techtalkthai.com/linkedin-own-100g-switch/) รวมถึงวางมาตรฐาน Open 19 ตู้ Rack ขนาด 19 นิ้วแบบ Open Source ในราคาประหยัด อีกทั้ง LinkedIn เองก็ยังเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง OpenSwitch โครงการของ Open Source Linux-based Switch ของทาง HPE อีกด้วย จนในตอนนี้ LinkedIn ก็พร้อมจะเดินหน้าไปอย่างต่อเนื่องในตลาด Open Source Data Center Networking แล้ว
ล่าสุดหลังจากที่ Microsoft ได้เข้าซื้อกิจการของ LinkedIn เป็นที่เรียบร้อย ทาง Microsoft เองที่ได้เข้าร่วมโครงการ Open Compute Project (OCP) ซึ่งเป็นโครงการพัฒนา Open Source Data Center Hardware ที่คล้ายคลึงกันกับสิ่งที่ LinkedIn ทำอยู่ ก็ได้ปล่อยให้ LinkedIn ทำโครงการของตนเองต่อไปอย่างอิสระ และได้มีการจ้าง Doug Hanks อดีต Director of Product Management and Strategy จาก Juniper Networks มาเพื่อเสริมทีม Network Engineering ของ LinkedIn โดยเฉพาะ ทำให้น่าติดตามมากว่าต่อไป Open Source Networking จะเติบโตต่อไปอีกมากน้อยแค่ไหน
แนวโน้มการสร้างอุปกรณ์เครือข่ายเพื่อใช้งานเองในธุรกิจ Data Center ขนาดใหญ่เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ ทั้ง Google, Amazon, Facebook และ Microsoft ต่างก็ดำเนินตามแนวทางนี้ทั้งนั้น นอกจากนี้ก็ยังมีบุคคลผู้ทำงานในธุรกิจ Data Center ขนาดใหญ่ที่ไม่ประสงค์รจะออกนามได้ให้สัมภาษณ์กับทาง Busniess Insider ด้วยว่าหลังจากที่บริษัทของเขาได้เริ่มพัฒนาอุปกรณ์เครือข่ายเพื่อใช้เอง ค่าใช้จ่ายทางด้านอุปกรณ์เหล่านี้ก็ลดลงมาถึง 10 เท่าเมื่อเทียบกับการซื้ออุปกรณ์จากผู้ผลิตรายต่างๆ อีกทั้งยังสามารถปรับแต่ง Software ภายในได้ตามต้องการอีกด้วย ในขณะที่มุมของ LinkedIn เองนั้นก็ต้องการที่จะลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาต่างๆ และต้องการควบคุมหรือแก้ไขปัญหาทั้งหมดเกี่ยวกับระบบเครือข่ายให้ได้ด้วยตนเอง
Open Source จะส่งผลกับตลาด Data Center Networking ที่มีมูลค่ามากถึง 6.1 ล้านล้านบาทอย่างไรบ้าง? คำถามนี้คงต้องใช้เวลาติดตามเราถึงจะทราบคำตอบกัน
