Credit: ra2studio/ShutterStock

12 เมตร !! รัศมีที่ระบบตรวจสอบม่านตาสามารถระบุบุคคลได้

cmu_logo

ระบบสแกนม่านตา เป็นหนึ่งวิธีพิสูจน์ตัวตนทางชีวภาพ (Biometric) ผ่านการตรวจสอบรูปแบบของม่านตา ซึ่งนับว่าเป็นอีกหนึ่งวิธียอดนิยมของการพิสูจน์ตัวตนนอกจากการใช้ลายนิ้วมือ โดยงานวิจัยล่าสุดของมหาวิทยาลัย Carnegie Mellon สหรัฐอเมริกาแสดงให้เห็นว่า เทคโนโลยีตรวจสอบม่านตาล่าสุดสามารถระบุบุคคลได้ระยะทางไกลถึง 40 ฟุตหรือประมาณ 12 เมตร

ระบบสแกนม่านตาเริ่มเป็นที่นิยมใช้งาน

ระบบสแกนม่านตาเป็นหนึ่งในความต้องการพื้นฐานของการพิสูจน์ตัวตนตามข้อกำหนด FIDO 2.0 ซึ่งในปัจจุบันหลายบริษัทและองค์กรเริ่มหันมาใช้การพิสูจน์ตัวตนรูปแบบดังกล่าวเนื่องจากผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องจดจำรหัสผ่านให้ยุ่งยาก และข้อมูล Biometric ก็เป็นเอกลักษณ์เฉพาะบุคคลที่ไม่สามารถลอกเลียนแบบได้ NTT Docomo ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือชื่อดังของญี่ปุ่นเองก็ได้มีการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่รองรับการตรวจสอบม่านตาของผู้ใช้เมื่อไม่นานมานี้เช่นเดียวกัน นับว่าการพิสูจน์ตัวตนแบบ Biometric จะเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ

ระบุตัวตนได้ไกลถึง 12 เมตร

จากการพัฒนาระบบตรวจสอบม่านตาของทีมนักวิจัยมหาวิทยาลัย Carnegie Mellon (CMU) ด้วยเทคโนโลยีล่าสุด ระบุว่า ทีมนักวิจัยสามารถระบุตัวตนของคนขับรถผ่านทางรูปภาพดวงตาที่ถ่ายสะท้อนกับกระจกมองข้างของรถยนต์ซึ่งอยู่ห่างจากอุปกรณ์ตรวจสอบม่านตาถึง 40 ฟุต หรือประมาณ 12 เมตรได้อย่างแม่นยำ

กระแสต่อต้านจากสังคม

ทีมงานวิจัยพบว่า ถึงแม้ว่าจะมีการติดตั้งระบบพิสูจน์ตัวตนแบบระยะไกลที่ทำให้ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องต่อแถว แต่พวกเขาเหล่านั้นก็ยังมีความลังเลในการใช้เทคโนโลยีตรวจสอบม่านตาดังกล่าว โดยบางคนระบุว่า ต้องการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ตรวจสอบหรืออุปกรณ์ตรวจสอบเมื่อต้องพิสูจน์ตัวตนแบบ Biometric นอกจากนี้ บางคนยังรู้สึกว่าพวกเขาสามารถยอมรับเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย จำพวกกล้องวงจรปิด หรือระบบติดตามต่างๆได้ แต่บางทีการพิสูจน์ตัวตนจากระยะไกลแบบนี้ก็ “มากจนเกินไป”

พบปัญหาด้านการเก็บข้อมูลม่านตา

อีกหนึ่งประเด็นที่สำคัญของการพิสูจน์ตัวตนแบบ Biometric คือ การเก็บข้อมูลชีวภาพของผู้ใช้งานอย่างไรให้ปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเก็บข้อมูลเหล่านั้นลงบนวัตถุ เช่น สมาร์ทโฟน เนื่องจากถ้าสมาร์ทโฟนถูกขโมย ข้อมูลรูปแบบม่านตาของเจ้าของก็อาจหลุดรอดไปยังคนอื่นได้ หรือการเก็บข้อมูล Biometric บนระบบคลาวด์ที่มีแนวโน้มว่าจะต้องมีการส่งข้อมูลผ่านหลายเซิฟเวอร์บนหลายประเทศ ก็ทำให้การป้องกันการเข้าถึงข้อมูล Biometric จากแฮ็คเกอร์ทำได้ยากมากยิ่งขึ้น

ปลอมม่านตาจากรูปภาพบน Google Images

นักวิจัยด้านความปลอดภัย Jan Krissler จาก Chaos Computer Club ให้ข้อมูลกับทาง Forbes ว่า การปลอมม่านตาของผู้ใช้กับระบบตรวจสอบม่านตาสามารถทำได้จริง ขอเพียงสามารถหารูปภาพของเป้าหมายที่มีดวงตาสุกใส มองเห็นม่านตาใหญ่กว่า 75% และเส้นผ่านศูนย์กลางไม่น้อยกว่า 75 Pixels ก็สามารถปรินท์รูปม่านตาเพื่อหลอกเครื่องตรวจสอบได้อย่างไม่ยากเย็นนัก

ที่มา: http://www.iflscience.com/technology/iris-scanners-can-now-identify-us-40-feet-away

About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

VRCOMM จับมือ Hillstone Networks ให้บริการ NGFW, ADC และ NDR ภายในแนวคิด Integrative Cybersecurity

Digital Transformation สร้างความซับซ้อนให้แก่ระบบ IT ทลายขอบเขตการรักษาความมั่นคงปลอดภัยจากแค่ห้อง Data Center สู่ระบบ Cloud และอุปกรณ์ Endpoint การรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ในยุคดิจิทัลจึงต้องการความครอบคลุมและประสานการทำงานได้อย่างบูรณาการ VRCOMM ผู้จัดจำหน่ายโซลูชันด้าน Network …

[NETIZEN Webinar EP.1] How Can SAP AI Copilot Joule Help You Revolutionize Your Business?

NETIZEN ร่วมกับ SAP ขอเชิญเข้าร่วมงานสัมมนาออนไลน์เรื่อง “How Can SAP AI Copilot Joule Help You Revolutionize Your Business?” …