หลังจากที่ Facebook ได้หันมาใช้ JavaScript ที่ทำการ Render ในฝั่ง Client เป็นหลักแทน Server รวมถึงมีการใช้ React มากขึ้น ทาง Facebook เองก็ได้พัฒนาระบบสำหรับตรวจสอบประสิทธิภาพการ Render เหล่านั้นโดยอัตโนมัติและเปิด Open Source ภายใต้ชื่อโครงการ BrowserLab แล้ว
BrowserLab นี้จะทำหน้าที่วิเคราะห์ประสิทธิภาพของโค้ดทุกบรรทัดที่มีการเปลี่ยนแปลงในทุกๆ Commit ของ Facebook และตรวจสอบประเด็นทางด้านประสิทธิภาพที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้เหล่าวิศวกรจาก Facebook สามารถตรวจหาโค้ดที่ทำงานได้ช้าเกินกว่า 350ms ในแต่ละหน้าและทำการปรับปรุงโค้ดเหล่านั้นให้ดีขึ้นได้ เพื่อให้ประสบการณ์การใช้งานของเหล่าผู้ใช้งานทั่วโลกยังคงดีอยู่
ในโครงการนี้ทาง Facebook ได้ลองผิดลองถูกมาอย่างต่อเนื่อง โดยการเริ่มต้นจากการใช้ WebDriver, การปรับขยายระบบการทดสอบให้ใหญ่ขึ้น, การใช้ HTTP Proxy และปรับแต่งฝั่ง Server เพื่อช่วยลดความซับซ้อนส่วนที่ไม่จำเป็น, การปรับแต่งฝั่ง Client เพื่อลดความซับซ้อนในการตรวจวัดผล, การจัดการโค้ดที่แสดงผลลัพธ์ส่วนที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด และอื่นๆ จนในที่สุดทาง Facebook ก็สามารถตรวจวัดประสิทธิภาพของหน้าเว็บที่เกิดขึ้นในฝั่ง Client ได้อย่างชัดเจน, แบ่งส่วนประสิทธิภาพการ Render ในด้านต่างๆ เช่น Parsing, Painting, Layout, Style และ Scripting ออกจากกันได้, ตรวจสอบความเปลี่ยนแปลงเชิงประสิทธิภาพในแต่ละ Commit ได้ และทำให้ทีมงานวิศวกรของ Facebook แก้ไขปัญหาเชิงประสิทธิภาพได้ดีขึ้น
ด้วยการมาของ BrowserLab นี้ทำให้ปัจจุบัน Facebook สามารถตรวจสอบประสิทธิภาพของเว็บบนฝั่ง PC ได้เป็นอย่างดี และมีระบบ CT-Scan สำหรับตรวจสอบประสิทธิภาพของ Native Mobile Apps แล้ว ส่วนในอนาคต Facebook เองก็วางแผนที่จะขยายไปทำ Mobile Device Lab เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพของเว็บบน Mobile Device บ้างเช่นกัน รวมถึงจะเริ่มพัฒนาประสิทธิภาพของ Interaction ต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนหน้าเว็บเพิ่มเติมไปจากการวัด Load Time เฉยๆ อีกด้วย