IBM พัฒนาหน่วยความจำแบบใหม่สำเร็จ! มี 3-bit ต่อ Cell และอาจทดแทน DRAM และ Storage ได้ในอนาคต

IBM ได้ออกมาประกาศความสำเร็จในงานวิจัยจากทีมนักวิทยาศาสตร์ที่สามารถวิจัย Phase-Change Memory (PCM) ที่มีคุณสมบัติคือมีความจุ 3-bit ต่อ Cell โดยสามารถทำหน้าที่ทดแทน DRAM, Hard Drive และ Flash Storage ได้ ซึ่งเทคโนโลยีนี้อาจกลายเป็นอีกจุดเปลี่ยนของเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลได้ในอนาคต

ibm_3-bit_pcm

ก่อนหน้านี้ IBM เคยประสบความสำเร็จในการวิจัยการจัดเก็บข้อมูลขนาด 1-bit ลง PCM จำนวน 1 Cell มาก่อนแล้ว การประสบความสำเร็จในการจัดเก็บได้มากถึง 3-bit ใน PCM จำนวน 1 Cell นี้จะช่วยให้ต้นทุนของ PCM นั้นถูกลงไปกว่า DRAM เป็นอย่างมาก และเข้าใกล้กับ Flash เสียมากกว่า

นอกจากนี้ด้วยคุณสมบัติอื่นๆ ของ PCM เช่น ความเร็วในการเขียนอ่านข้อมูล, ความทนทาน, การทำงานได้แบบ Non-Volatile หรือยังคงสามารถจัดเก็บข้อมูลได้แม้จะไม่มีไฟฟ้าหล่อเลี้ยง และรวมถึงความหนาแน่นต่อพื้นที่ ก็ทำให้ PCM กลายมาเป็นทางเลือกที่อาจจะมาทดแทนเทคโนโลยี DRAM ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันได้

ถ้าจะเปรียบเทียบตัวอย่างการใช้งานแล้ว PCM นี้มีความทนทานในการเขียนข้อมูลขั้นต่ำ 10 ล้านรอบ ในขณะที่ Flash USB ทั่วๆ ไปมีความทนทานเพียงแค่ 3,000 รอบเท่านั้น นอกจากนี้ PCM ยังสามารถนำไปใช้งานได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นบนอุปกรณ์ Mobile Device เพื่อใช้จัดเก็บระบบปฏิบัติการและบูทได้ด้วยความเร็วสูง, การใช้จัดเก็บฐานข้อมูลทั้งหมดเพื่อเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงการนำไปใช้กับระบบ Machine Learning ให้มีความรวดเร็วสูงยิ่งขึ้น

ที่มา: http://www-03.ibm.com/press/us/en/pressrelease/49746.wss

About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

IBM Storage Scale System 6000 ได้รับการรับจาก NVidia ในฐานะคลาวด์พาร์ทเนอร์

การการันตีจาก NVIDIA สำหรับ IBM Storage Scale System 6000 เป็นการยืนยันคุณภาพของระบบที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการด้าน I/O สำหรับงานด้าน AI และ inference รองรับกับ …

Cohesity ผนึกกำลังพันธมิตรเสริมแกร่งความสามารถตอบสนองภัยคุกคาม

Cohesity Cyber Event Response Team (CERT) เพิ่มความร่วมมือกับ Third Party หลายราย เพื่อยกระดับประสิทธิภาพในการตอบสนองภัยคุกคามทางไซเบอร์ เช่น ข้อมูลรั่วไหล แรนซัมแวร์ เป็นต้น