สรุปผลทดสอบการใช้งาน Huawei OceanStor Dorado V3 กรณีศึกษาก่อนลงทุน All-Flash Storage

ทาง Enterprise Strategy Group หรือ ESG ได้ออกมาเผยผลทดสอบการใช้งาน Huawei OceanStor Dorado V3 All-Flash Storage และตีพิมพ์ออกมาในเอกสาร ESG Lab Review เพื่อเป็นแนวทางให้เหล่าองค์กรที่ต้องการลงทุนระบบ All-Flash Storage ได้นำไปศึกษา โดยนอกจากจะเล่าถึงจุดเด่นและประเด็นที่ต้องสนใจและทดสอบใน All-Flash Storage แล้ว ก็ยังเปรียบเทียบกับระบบ Hybrid Storage และ First-Generation All Flash Storage Systems ให้ได้เห็นถึงความแตกต่างกันอีกด้วย

 

ความท้าทายขององค์กรในการใช้งานระบบ Storage ในปัจจุบัน

เอกสารนี้เริ่มต้นด้วยการเล่าถึงความท้าทายที่เหล่าองค์กรต้องเผชิญกับการใช้งานและดูแลรักษาระบบ Storage ซึ่ง 5 ประเด็นแรกที่ผู้ถูกสำรวจกว่า 356 คนได้ตอบรับมามากที่สุดนั้นมีดังนี้

  • 35% การปกป้องข้อมูล
  • 28% ค่าใช้จ่ายของ Hardware
  • 26% ปริมาณข้อมูลที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
  • 22% การบริหารจัดการ, การปรับแต่งใช้งานให้คุ้มค่า และการย้ายข้อมูลโดยอัตโนมัติ
  • 21% การไม่เหลือพื้นที่ติดตั้ง Storage ภายในศูนย์ข้อมูล

ซึ่งผลตอบรับในประเด็นดังกล่าวนี้เองได้นำมาสู่การโหวตถึงข้อดีของเทคโนโลยี Solid-state Storage ที่ทำให้เหล่าองค์กรตัดสินใจเลือกใช้งานอย่างสอดคล้องกัน ดังนี้

  • 58% การเพิ่มประสิทธิภาพให้ระบบจัดเก็บข้อมูล
  • 34% ความทนทานที่สูงขึ้น
  • 31% ราคาต่อ I/O
  • 30% ค่าใช้จ่ายในการลงทุนโดยรวมที่ต่ำลง (TCO)

ส่วนในมุมของ ESG Lab นั้น ระบบ Desktop Virtualization และ Application Virtualization นั้นเป็นสองกรณีหลักที่ทำให้องค์กรหันมาเลือกใช้ All-Flash Storage ด้วยความต้องการในแง่ของประสิทธิภาพที่สูงมาก ในขณะที่ระบบ Application ต่างๆ และเหล่า Mission-critical Application ขององค์กรเองที่ได้ทวีความซับซ้อนขึ้นทุกวันนี้ ก็ได้เริ่มกลายเป็นอีกแรงผลักดันให้เหล่าองค์กรเลือกใช้ All-Flash Storage กันมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วย

 

ทดสอบ Huawei OceanStor Dorado V3 กับการทดลองด้าน Performance, Availability และคำนวนค่า TCO

Credit: Huawei

 

หัวข้อถัดมาภายใน ESG Lab ฉบับนี้ก็จะพาทุกท่านไปรู้จักกับ Huawei OceanStor Dorado V3 ซึ่งเป็นโซลูชัน All-Flash Storage จากทาง Huawei พร้อมแสดงผลทดสอบที่น่าสนใจกันทันที

 

ภาพรวมของเทคโนโลยีภายใน Huawei OceanStor Dorado V3

Huawei OceanStor Dorado V3 นี้เป็นระบบ All-Flash Storage ที่ถูกออกแบบมาสำหรับรองรับ Mission-critical Application โดยเฉพาะ โดยภายในใช้การออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมแบบ Dual Controller เชื่อมต่อไปยัง NVMe SSD เพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้งยังสามารถเพิ่มขยายแบบ Scale-out รวมกันสูงสุดได้ถึง 16 Controller ด้วยกัน

เทคโนโลยีที่ถูกเสริมเข้ามาใน Huawei OceanStor Dorado V3 นี้มีทั้ง RAID-TP ซึ่งเป็นเทคโนโลยี RAID เฉพาะของ Huawei เองที่รองรับการชำรุดของ Disk ได้สูงสุด 3 ชุดพร้อมกัน อีกทั้งยังซ่อมแซมข้อมูลได้รวดเร็วกว่าทั่วไป, HyperSnap สำหรับการทำ Snapshot ที่กู้คืนได้ด้วยความเร็วสูงและไม่ส่งผลกระทบต่อระบบ, HyperReplication สำหรับการทำ Remote Replication ไปยัง Stand-by Data Center และ HyperMetro ที่รองรับการทำงานแบบ Active-Active ข้ามสาขาระยะไกล เพื่อรองรับ Mission-critical Application ให้ทำงานได้อย่างทนทานสูงสุด อีกทั้งยังสามารถทำ Deduplication, Compression และ Thin Provisioning เพื่อประหยัดพื้นที่จัดเก็บข้อมูล และเพิ่มความคุ้มค่าในการใช้งานได้ในระยะยาว

ภายในการทดสอบครั้งนี้ ทาง ESG Lab ได้ทำการเชื่อมต่อ Huawei OceanStor Dorado5000 V3 Storage Systems จำนวน 2 เครื่องผ่านทาง 16Gbps FC ไปยัง Huawei Fusion Server จำนวน 10 เครื่อง ที่มีทั้ง VMware Horizon View, Microsoft Exchange, Oracle OLTP ติดตั้งเอาไว้เพื่อทำการทดสอบพร้อมๆ กัน

 

ทดสอบ Performance: รับ IOPS หลักแสนจากการใช้งาน Application ที่หลากหลายพร้อมกันได้ในระบบเดียว

ในการทดสอบนี้จะเป็นการเปิดเรียกใช้งาน Application ต่างๆ พร้อมๆ กันเพื่อทดสอบประสิทธิภาพของระบบในการทำงานภายใต้แต่ละ Scenario ที่แตกต่างกันไป ดังต่อไปนี้

  • ทดสอบ Oracle OLTP และ Microsoft Exchange พร้อมกัน ทำงานได้ที่ 105,000 IOPS และมี Response Time เฉลี่ยที่ 300 μs
  • ทดสอบ 1,000 Virtual Desktop Boot Storm สามารถทำงานได้ที่ 160,000 IOPS และมี Response Time สูงสุดไม่ถึง 500 μs
  • เพิ่มการทำงานของ Virtual Desktop ให้สูงขึ้นด้วย View Planner ทำให้มี IOPS สูงขึ้นได้อีก 20,000 IOPS พร้อมเปิดให้ระบบอื่นๆ ทำงานทั้งหมด จนมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 125,000 IOPS และมี Response Time เฉลี่ยที่ 320 μs
  • การทดสอบทั้งหมดนี้มีการเปิดใช้ทั้ง Deduplication และ Compression โดยอัตราการทำ Data Reduction นั้นอยู่ที่ 7:1 และหากรวมการทำ Thin Provisioning เข้าไปด้วยก็จะกลายเป็น 14:1 เลยทีเดียว

 

ทดสอบ Availability: ประสิทธิภาพสูงแม้จะเกิด Failover ขึ้น

สำหรับการทดสอบ RAID-TP นั้น ในกรณีที่ Disk เสียพร้อมกันถึง 3 ชุด ระบบโดยรวมก็ยังคงทำงานต่อเนื่องไปได้โดยจะมี Response Time ที่สูงขึ้นจากการซ่อมแซมข้อมูล และมี IOPS โดยรวมลดลงตามสัดส่วนไป ในขณะที่เวลาที่ใช้ในการ Rebuild ข้อมูลขนาด 7.4TB นั้น สามารถทำเสร็จได้ภายในเวลาเพียงแค่ 9 นาทีเท่านั้น

ส่วนการทดสอบ HyperMetro เพื่อดูประสิทธิภาพและความเร็วในการทำ Failover ข้าม Array ในระบบแบบ Active-Active นั้น ระบบ Oracle OLTP ก็ยังคงทำงานต่อเนื่องไปได้เมื่อมี Array ชุดหนึ่งหยุดทำงานไป โดยใช้เวลาเพียง 3 วินาที ระบบทั้งหมดก็ถูกย้ายไปใช้งานบน Array อีกชุดหนึ่งเรียบร้อย พร้อม Response Time ที่ Spike ขึ้นมา 3 วินาทีเท่านั้น จากนั้นระบบก็สามารถทำงานต่อเนื่องได้เสมือนไม่เคยเกิดอะไรขึ้นเลย

 

คำนวน Total Cost of Ownership (TCO): คุ้มค่ากว่า Hybrid Storage และ First-Generation All-Flash Storage

ในหัวข้อนี้จะเป็นการเปรียบเทียบ Huawei OceanStor Dorado5000 V3 กับระบบ Hybrid Storage ที่ใช้ SSD ร่วมกับ HDD และระบบ First-Generation All-Flash Array ที่ไม่ได้พัฒนาเทคโนโลยีมารองรับ Flash Storage โดยเฉพาะ แต่ใช้ SSD ทั้งหมดในการทำงาน โดยออกแบบให้แต่ละระบบสามารถรองรับ Oracle RAC OLTP ได้ที่ 100,000 IOPS, 1,000-seat VDI (20 IOPS/User) และ Microsoft Exchange สำหรับ 5,000 ผู้ใช้งาน (1 IOPS/User) ได้เหมือนกัน พร้อมทั้งต้องรองรับการรับประกันอีก 5 ปีเป็นอย่างน้อย

ผลการออกแบบนั้นพบว่า Hybrid Storage มีราคาสูงสุดที่ 697,568 เหรียญหรือราวๆ 24.4 ล้านบาท ในขณะที่ First-Generation All-Flash Array นั้นมีราคาตามมาที่ 636,134 เหรียญหรือราวๆ 22.3 ล้านบาท ในขณะที่ Huawei OceanStor Dorado5000 V3 นี้มีราคาเพียง 186,137 เหรียญหรือราวๆ 6.5 ล้านบาทเท่านั้น

 

อ่านรายงานฉบับเต็มจาก ESG Lab

สำหรับผู้ที่สนใจรายงานฉบับเต็มจาก ESG Lab เพื่อนำไปศึกษาประเมินความคุ้มค่าของการลงทุนใช้งาน Huawei OceanStor Dorado V3 สามารถโหลดเอกสารฉบับนี้ได้ที่ http://research.esg-global.com/reportaction/HuaweiOceanStorDoradoV3AllflashStorage/Toc ครับ โดยภายในเอกสารฉบับเต็มนี้จะมีภาพ Diagram ของระบบที่ใช้ทดสอบ พร้อมกราฟแสดงผลการทดสอบในแต่ละประเด็นโดยละเอียดอยู่เพื่อเป็นข้อมูลเพิ่มเติมเชิงลึกให้นำไปประกอบการพิจารณาได้ด้วย

 

ติดต่อทีมงาน Huawei ประเทศไทยได้ทันที

ผู้ที่สนใจในเทคโนโลยี Big Data Analytics จาก Huawei สามารถติดต่อทีมงาน Huawei ประเทศไทยได้ทันทีที่

Huawei Enterprise Business ; Marketing Contact Center
Mobile 095-878-7475 e-mail : Th_enterprise@huawei.com
Follow us on : www.twitter.com/huaweiEntTH
www.facebook.com/HuaweiEnterpriseThailand

Website : e.huawei.com

About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

SYSPRO Webinar : ปลดล็อกเส้นทาง Smart Manufacturing ปูทางสู่ Industry 5.0 อย่างยั่งยืน [25 มีนาคม 2568 – 14:00 น.]

ขอเรียนเชิญผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานด้าน IT รวมถึงหัวหน้าแผนก ผู้จัดการ วิศวกรฝ่ายผลิต ตลอดจนผู้ที่สนใจ เชิญเข้าร่วมงานสัมมนาออนไลน์ “ปลดล็อกเส้นทาง Smart Manufacturing ปูทางสู่ Industry 5.0 อย่างยั่งยืน” เพื่ออัปเดตเทรน …

BMSP Webinar: Next-Gen Cyber Defense – ปกป้ององค์กรจาก AI Threats ด้วย EDR, MDR และ SOC

BMSP ร่วมกับ Kaspersky ขอเรียนเชิญผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานด้าน IT Security เข้าร่วมงานสัมมนาออนไลน์เรื่อง “Next-Gen Cyber Defense – ปกป้ององค์กรจาก AI Threats ด้วย …