[Guest Post] บริษัท Contour และ MFEC ร่วมเร่งพลิกโฉมธุรกิจการเงินเพื่อการค้าในประเทศไทย

บริษัท Contour ผู้ดูแลเครือข่ายการบริการทางการเงินเพื่อการค้าแบบดิจิทัล จับมือร่วมกับ บริษัท MFEC หนึ่งในผู้ให้บริการไอทีโซลูชันชั้นนำของประเทศไทย โดยมีวิสัยทัศน์ร่วมกันเพื่อที่จะขับเคลื่อนการค้าในรูปแบบดิจิทัลในประเทศ ความร่วมมือกันครั้งนี้จะช่วยให้ MFEC นำโซลูชันการค้าแบบดิจิทัลของ Contour มาใช้กับธนาคารและองค์กรไทยได้โดยการผสานเครือข่ายบล็อกเชนของ Contour เข้ากับระบบหลังบ้าน (Back Office) ของผู้ที่มีส่วนร่วมในการค้า

 

การแถลงการณ์ครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงการเติบโตทางด้านคู่ค้าของบริษัท Contour ที่ล่าสุดยังได้มีการร่วมงานกับ Tinhvan Technologies บริษัทที่ปรึกษาด้านไอทีของเวียดนาม เมื่อเดือนที่ผ่านมา ซึ่งจะส่งผลให้ บริษัท MFEC สามารถอำนวยความสะดวกให้กับธนาคารและองค์กรในไทยที่ต้องการก้าวเข้าสู่การทำธุรกิจในรูปแบบของดิจิทัล

กระบวนการที่ไม่มีประสิทธิภาพและต้องใช้กำลังคนในการดำเนินงานยังคงสร้างอุปสรรคในการดำเนินงานในอุตสาหกรรมการบริการด้านการเงินเพื่อการค้า และมักเป็นปัญหาสำคัญต่อการเติบโตทางการค้าในตลาดเกิดใหม่อย่างประเทศไทย นอกจากนั้นกระบวนการในการได้มาซึ่งตราสารเครดิต (Letter of Credit Transactions) ซึ่งเป็นหนึ่งในวิธีการจัดหาเงินทุนหลักในประเทศไทย ยังถูกมองว่ามีต้นทุนการบริหารที่สูง และใช้เวลาในการทำธุรกรรมที่ยาวนาน

เครือข่ายการกระจายอำนาจ (Decentralised Network) ของบริษัท Contour สามารถเอาชนะปัญหาเหล่านี้ได้ด้วยการเปลี่ยนแปลงธุรกรรมตราสารเครดิตให้เป็นดิจิทัล ซึ่งวิธีดังกล่าวจะช่วยลดความซับซ้อนของกระบวนการทางการค้า โดยลดงานเอกสารและเพิ่มการเชื่อมต่อระหว่างผู้มีส่วนร่วมในการค้า การร่วมมือกันในครั้งนี้จะส่งผลให้ลูกค้าของบริษัท MFEC ได้รับประโยชน์จากดำเนินงานด้านเอกสารทางการค้าที่สั้นลง รวมไปถึงการสื่อสารกับคู่สัญญาทางการค้าได้อย่างราบรื่น

คุณคาร์ล เวกเนอร์ ผู้บริหารของบริษัท Contour กล่าวว่า “การเป็นพันธมิตรกับบริษัท MFEC นั้นเหมาะสมอย่างยิ่ง เนื่องจากเราทั้งคู่ต่างมีเป้าหมายที่จะเพิ่มประสิทธิภาพของระบบและกระบวนการต่าง ๆ ที่ธนาคารและองค์กรต่างต้องพึ่งพาในการทำธุรกิจ  เพราะธนาคารมักถูกบังคับให้ต้องจัดการกับแพลตฟอร์มเดิม ๆ ที่ระบบหลังบ้านไม่มีประสิทธิภาพ และมักเวลาการทำธุรกรรมที่ยาวนาน ทำให้ความสามารถในการเข้าถึงทางการเงินลดลง โซลูชันดิจิทัลที่เป็นนวัตกรรมใหม่อย่างบริษัท Contour จะเข้ามาช่วยในการย่นระยะเวลา ลดต้นทุนและความเสี่ยง โดยคำนึงถึงความท้าทายในการบูรณาการที่ไม่ควรขัดขวางการนำไปใช้จริง  เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ร่วมงานกับบริษัท MFEC รวมไปถึงขับเคลื่อนระบบดิจิทัลและขยายธุรกิจในประเทศไทยไปพร้อมๆ กัน”

คุณอาร์ม ศิวะดิตถ์ Chief Transformation Officer ของบริษัท MFEC กล่าวว่า “บริษัท MFEC ยินดีที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับบริษัท Contour เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการเสริมสร้างเครือข่ายการบริการทางด้านการเงินเพื่อการค้า ที่ดำเนินการบนเทคโนโลยี R3 Corda Enterprise Blockchain โดยแนวปฏิบัติในการใช้บล็อคเชนในทางการเงินเพื่อการค้าเป็นวิธียกระดับความได้เปรียบขององค์กรและประเทศ ผ่านการเพิ่มประสิทธิภาพ การลดความเสี่ยง และการเพิ่มระดับความโปร่งใสเพื่อเสริมให้การทำงานของระบบมีประสิทธิภาพเพิ่มมากยิ่งขึ้น เนื่องจากปัจจุบันเรามีทีมผู้เชี่ยวชาญทางด้าน Corda เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การเป็นพันธมิตรและการทำงานร่วมกันกับบริษัท Contour จึงเป็นโอกาสที่ดีในการขยายทั้งฐานลูกค้าองค์กรและลูกค้าธนาคาร ผ่านการนำระบบ Contour มาปรับใช้และเชื่อมต่อกับกระบวนการภายในเพื่อลดอุปสรรคในการดำเนินงาน รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพด้านระยะเวลาในการทำงานและต้นทุน ซึ่งจะทำให้ตลาดในไทยเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในอนาคต”

 

ช่องทางการติดต่อ

Contour: 

E: contourcomms@chatsworthcommunications.com

Tel. 020 7 440 9780

MFEC: 

E: anuchard@mfec.co.thpanya_p@mfec.co.th

Tel. 02 821 7999

 

เกี่ยวกับ Contour:

Contour เป็นเครือข่ายการบริการทางการเงินเพื่อการค้าแบบดิจิทัลชั้นนำที่สร้างมาตรฐานระดับโลกสำหรับการค้าโดยรวบรวมธนาคาร องค์กร และพันธมิตร เข้าสู่เครือข่ายดิจิทัลที่มีความน่าเชื่อถือ ทั้งนี้บริษัท Contour ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ความไว้วางใจ และการทำงานร่วมกัน โดยการใช้เทคโนโลยีแบบกระจายอำนาจผสมผสานกับระบบเอกสารดิจิทัลชั้นนำของตลาดและเครือข่ายดิจิทัลอื่น ๆ ได้อย่างราบรื่น ทำให้สามารถนำส่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือเข้าสู่เส้นทางการค้าระดับโลกได้ในทันที นอกจากนั้น บริษัท Contour ยังได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้นำทางด้านการค้าแบบดิจิทัลของงาน GTR Awards 2021 อีกด้วย www.contour.network

 

เกี่ยวกับ MFEC:

MFEC เป็นบริษัทผู้ให้บริการทางด้านโซลูชันและเทคโนโลยีชั้นนำของประเทศไทย ที่เน้นเทคโนโลยีทางด้านโครงสร้างพื้นฐานไอทีเป็นหลัก และก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2540 ด้วยความสามารถในการเปลี่ยนแปลงและการปรับตัวของเราที่ไม่เพียงแค่ให้คำปรึกษาด้านไอทีเท่านั้น แต่ยังมีการพัฒนาโซลูชันไอทีที่ซับซ้อน การบริการด้านไอทีอื่น ๆ ที่หลากหลาย รวมไปถึงการออกแบบและติดตั้งโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีแก่ลูกค้าระดับสูงในภาคธุรกิจต่าง ๆ และนอกจากนั้นเรายังมีการสร้างธุรกิจร่วมทุนเพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมผ่านธุรกิจ Startup และการเป็นพันธมิตรกับองค์กรต่าง ๆ ทั้งในไทยและต่างประเทศ https://www.mfec.co.th/en/

 

 

About Maylada

Check Also

Google Cloud เพิ่ม BigQuery datasets บน Marketplace แล้ว

Google Cloud ประกาศเปิดให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงชุดข้อมูล BigQuery datasets ผ่าน Google Cloud Marketplace ด้วยการผสานการทำงานร่วมกับ BigQuery Analytics Hub เพื่อเพิ่มช่องทางการเข้าถึงข้อมูลสำหรับองค์กร

Goldman Sachs คาดการณ์การใช้พลังงานของศูนย์ข้อมูลจะเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าภายในปี 2030 เหตุจาก AI

การแข่งขันด้าน AI ส่งผลให้ความต้องการใช้พลังงานในศูนย์ข้อมูลทั่วโลกพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก โดย Goldman Sachs คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 55 GW เป็น 122 GW ภายในปี 2030