สถิติที่น่าสนใจของการทำ Disaster Recovery และบริการ Disaster-Recovery-as-a-Service ทางเลือกใหม่ที่มาแรงของการทำ Disaster Recovery สำหรับองค์กร

ez_cloud_logo

ยิ่งระบบ IT มีความสำคัญมากต่อธุรกิจมากขึ้นเท่าใด ระบบ Disaster Recovery ก็ยิ่งมีความสำคัญต่อองค์กรนั้นๆ มากยิ่งขึ้นไปเป็นเงาตามตัว เทคโนโลยีในการทำ Disaster Recovery จึงได้มีการปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่องอยู่ตลอดเพื่อตอบรับกับความต้องการของตลาด และมีค่าใช้จ่ายที่ถูกลงเรื่อยๆ จนกระทั่งการมาของการทำ Disaster Recovery บน Cloud หรือบริการ Disaster-Recovery-as-a-Service ที่ถือเป็นทางเลือกที่่คุ้มค่ามากที่สุดสำหรับทุกๆ องค์กรในการทำ Business Continuity Management ทางหนึ่งนั่นเอง

EZ-Cloud ในฐานะของผู้เชี่ยวชาญด้านการให้บริการ Disaster-Recovery-as-a-Service ในประเทศไทย และมีระบบ Cloud ที่พัฒนาต่อยอดจากการใช้ Nutanix และ VMware จึงขอนำเสนอข้อมูลที่น่าสนในประเด็นด้านการทำ Disaster Recovery สำหรับองค์กรในประเทศไทยเอาไว้ดังนี้

ez-cloud_banner

 

ผลการสำรวจชี้ ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นมีความรุนแรงมากกว่าที่คิด

Forrester ได้ทำการสำรวจข้อมูลแนวโน้มทางด้าน Disaster Recovery และมีผลลัพธ์ที่น่าสนใจดังนี้

  • ในทุกๆ ปี องค์กรที่มีการใช้งาน Server, PC และ Notebook เกินกว่า 100 เครื่องนั้น จะมีการสร้างข้อมูลใหม่ๆ เพิ่มเติมถึง 40TB ต่อปี และการปรับปรุงระบบ Disaster Recovery นั้นก็มีความสำคัญเป็นอันดับ 1 ของการลงทุนขององค์กร
  • 43% ขององค์กรที่ประสบภัยพิบัติร้ายแรง ไม่สามารถกลับมาเปิดกิจการได้อีก
  • ประมาณ 25% ของธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางนั้นยังไม่มีการสำรองข้อมูลต่างสาขา ในขณะที่มากกว่า 50% ยังคงทำการสำรองข้อมูลลงบน Tape หรือ Disk
  • 87% ขององค์กรกล่าวว่าการที่กู้คืนข้อมูลไม่สำเร็จนั้นจะสร้างความเสียหายแก่ธุรกิจ ในขณะที่ 23% กล่าวว่านั่นเป็นความเสียหายร้ายแรง

 

นอกจากนี้ IDC ก็ได้เปิดเผยผลสำรวจจากองค์กรใน Fortune 1000 และพบว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นเมื่อ Application ใดๆ หยุดทำงานนั้น สามารถสร้างความเสียหายได้มากถึง 500,000 – 1,000,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อชั่วโมงเลยทีเดียว

จะเห็นได้ว่าไม่ว่าเทคโนโลยีจะเปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหน ระบบสำรองข้อมูลและระบบก็ยังคงมีความสำคัญต่อธุรกิจ และนับวันความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการที่ระบบ IT ใดๆ ขององค์กรไม่สามารถทำงานได้นั้น ก็จะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นไปตามความสำคัญที่ระบบ IT มีต่อธุรกิจด้วยเช่นกัน

 

การเติบโตของการทำ Disaster Recovery ด้วย Cloud และ Disaster-Recovery-as-a-Service

ด้วยการเติบโตอย่างรวดเร็วของการใช้งานระบบ IT ในการทำธุรกิจที่มากขึ้นเรื่อยๆ ภายในทุกๆ องค์กร การสำรองข้อมูลและระบบนั้นจึงยิ่งกลายเป็นประเด็นสำคัญของทุกๆ องค์กรที่จะต้องลองทุนให้ครอบคลุมต่อระบบ IT ต่างๆ ให้มากที่สุด ในขณะที่มีค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมในระดับที่องค์กรรับได้ การเลือกใช้เทคโนโลยีที่แตกต่างกันในการสำรองข้อมูลและระบบที่แตกต่างกันให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด จึงกลายเป็นทางเลือกหลักขององค์กรไป และการทำ Disaster Recovery ด้วย Cloud นั้นก็ได้กลายเป็นหนึ่งในทางเลือกหลักขององค์กรที่คุ้มค่าที่สุด

ทั้งนี้ทาง IDG ก็ยังได้เปิดเผยอีกว่า 43% ขององค์กรนั้นก็เริ่มมีการทำ Hybrid Cloud เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการทำ Disaster Recovery ขององค์กรโดยเฉพาะอีกด้วย ในขณะที่นักวิเคราะห์จาก Enterprise Strategy Group (ESG) ก็ได้ให้ข้อคิดไว้ว่า การมาของระบบ Cloud สำหรับการทำ Disaster Recovery จะทำให้มุมมองที่มีต่อการออกแบบระบบ Disaster Recovery ที่เคยต้องมีข้อถกเถียงที่ซับซ้อน ลดเหลือเพียงแค่เรื่องของการทำ Capacity Planning เท่านั้น ส่วนทางด้านนักวิเคราะห์จาก Stillwater ได้ชี้ถึงความสำคัญของการตกลง SLA กับผู้ให้บริการ Cloud ว่าจะเป็นเรื่องที่จำเป็นที่สุดในการทำ Disaster Recovery

นอกจากนี้ การที่องค์กรชั้นนำต่างๆ ทั่วโลกเริ่มมีการใช้ระบบ Cloud ให้กลายเป็น Production หลักขององค์กรแล้ว ความเชื่อมั่นในการใช้งาน Cloud ในฐานะของระบบ Disaster Recovery เองก็จึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน

ez-cloud_disaster-recovery-as-a-service

 

5 ข้อดีของการทำ Disaster Recovery ด้วย Cloud และการใช้งานระบบ Disaster-Recovery-as-a-Service

ทั้งนี้โดยสรุปแล้ว สาเหตุที่ทำให้การทำ Disaster Recovery ด้วย Cloud และการทำ Disaster-Recovery-as-a-Service กลายเป็นที่นิยมนั้น มีดังนี้

  1. เริ่มต้นใช้งานได้ง่าย: ไม่ต้องลงทุน IT Infrastructure ที่มีความซับซ้อนเพิ่มเติม
  2. เป็นทางเลือกที่ยืดหยุ่นและประหยัดค่าใช้จ่าย: รองรับการ Deploy ได้หลากหลายรูปแบบตามความต้องการขององค์กร และคิดค่าใช้จ่ายตามการใช้งานจริง
  3. ลดความซับซ้อนของระบบเครือข่ายลง: ประเด็นเดียวของการเชื่อมต่อที่ต้องให้ความสนใจ คือการเชื่อมต่อระหว่างองค์กรไปยัง Cloud และแทบจะไม่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในระบบเครือข่ายเดิม
  4. บริหารจัดการได้ง่ายเสมือนมีเพียงระบบเดียว: ด้วยการที่บริการ Cloud เดียวสามารถรองรับการสำรองข้อมูลและระบบได้หลากหลายรูปแบบ ก็ทำให้การติดตามการทำงานและบริหารจัดการเป็นไปได้จากศูนย์กลาง
  5. สามารถเลือกใช้เทคโนโลยีการสำรองข้อมูลและระบบให้แตกต่างไปตาม Application ได้: ด้วยการใช้ Cloud เป็น Infrastructure สำหรับการสำรองข้อมูล ทำให้การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีการสำรองข้อมูลและระบบให้เหมาะสมที่สุดต่อแต่ละ Application เป็นจริงขึ้นมาได้อย่างง่ายดายและไม่ซับซ้อน

 

EZ-Cloud บริการ Cloud ที่ตอบโจทย์การทำ Disaster-Recovery-as-a-Service ในประเทศไทยสำหรับทุกองค์กร พร้อมบริการระดับมืออาชีพ

เพื่อตอบรับกับความต้องการในการสำรองและกู้คืนระบบต่างๆ ไปยัง Cloud ที่ต้องมีประสิทธิภาพสูงและปลอดภัยเพียงพอสำหรับการใช้งานระดับองค์กร EZ-Cloud จึงได้ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นบริการ Disaster Recovery สำหรับองค์กรต่างๆ ในประเทศไทยโดยเฉพาะ และมีจุดเด่นดังต่อไปนี้

 

Latency ต่ำ ด้วยการเชื่อมต่อไปยัง Cloud Data Center ในประเทศไทย

ในขณะที่บริการ Cloud จากต่างชาตินั้นไม่มีการตั้ง Data Center ภายในประเทศไทยเลย ทำให้องค์กรต้องสูญเสียทั้งค่า Bandwidth Inter อย่างมหาศาล และระบบเครือข่ายที่เชื่อมต่อยังมี Latency ที่สูง ไม่เหมาะสมต่อการทำ Disaster Recovery สำหรับระบบที่มีความสำคัญสูงในประเทศไทย EZ-Cloud ได้เข้ามาแก้ไขจุดอ่อนตรงนี้ด้วยการตั้งบริการ Disaster-Recovery-as-a-Service บน Cloud Data Center ในประเทศไทย ทำให้นอกจากจะลดค่าใช้จ่ายในการเช่า Bandwidth ลงได้มหาศาลแล้ว EZ-Cloud ยังมีคุณภาพในการเชื่อมต่อระบบเครือข่ายที่ดีกว่าอย่างชัดเจนอีกด้วย

 

บริการจากวิศวกรมืออาชีพชาวไทย ทำให้ทุกการประสานงานเป็นไปได้อย่างสมบูรณ์

นอกจากปัญหาทางด้านค่าใช้จ่ายและ Network Latency แล้ว อีกประเด็นหนึ่งที่องค์กรจะต้องพบจากการใช้บริการ Cloud ต่างชาติก็คือการติดต่อสื่อสารที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษ ซึ่งหลายๆ ครั้งทำให้การประสานงานร่วมกันระหว่างทีมงานนั้นเกิดความผิดพลาดได้ ทีมงาน EZ-Cloud มีวิศวกรผู้เชี่ยวชาญชาวไทยคอยให้บริการคุณทั้งการให้คำปรึกษา, การติดตั้งระบบสำรองข้อมูล และการกู้คืนข้อมูลหรือระบบสำคัญของคุณ ให้ทุกการสื่อสารไม่ผิดพลาด และลดเวลา Downtime ของคุณให้น้อยที่สุดได้จริง

 

ระบบ Cloud ประสิทธิภาพสูงด้วย Hardware จาก Nutanix และ Software จาก VMware พร้อมกู้คืนทุกข้อมูลและระบบสำหรับคุณ

ไม่ว่าองค์กรของคุณจะใช้งาน Application ชั้นนำจาก SAP, Oracle, Microsoft และอื่นๆ หรือมีการมีการพัฒนาระบบ Software เพื่อใช้งานเองก็ตาม ทุกการสำรองและกู้คืนข้อมูลและระบบนั้นจะสามารถเป็นไปได้อย่างราบเรียบสมบูรณ์ด้วยระบบ Virtualization จาก VMware ที่ทำงานอยู่บน Hardware ทรงประสิทธิภาพจาก Nutanix ร่วมกันเป็นระบบ Cloud สำหรับการทำ Disaster Recovery โดยเฉพาะ และยิ่งทำให้องค์กรที่มีการใช้งานเทคโนโลยีเหล่านี้อยู่แล้ว สามารถทำระบบ Disaster Recovery ได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นอีกด้วย

ez-cloud_inside_ez_cloud

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมเว็บไซต์ EZ-CLOUD ได้ที่   https://www.ez-cloud.net/ ทันที หรือโทร (+66) 02-579-9452 ได้เช่นกัน

About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

จีเอเบิล ชี้ 3 Mega Trend ไอที เปลี่ยนโฉมธุรกิจองค์กรไทย พร้อมเป็น Tech Enabler ขับเคลื่อนองค์กรสู่อนาคต [PR]

ในยุคที่ธุรกิจองค์กรแข่งขันกันด้วยความเร็ว เพื่อให้ได้ผลลัพธ์และผลกำไรที่มากขึ้น การลดต้นทุนและการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานที่เพิ่มขึ้น เป็นสิ่งที่เจ้าของธุรกิจรวมถึงผู้บริหารระดับสูงในธุรกิจองค์กรต่างๆ กำลังมองหา เพราะการดำเนินธุรกิจองค์กรในสถานการณ์ปัจจุบัน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้าง Competitive Advantage เพื่อเป็นฐานในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งแน่นอนว่าอาวุธที่เป็นฟันเฟืองสำคัญในการผลักดันให้เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืน นอกจากการพัฒนาคนในองค์กรให้เรียนรู้ทักษะด้านเทคโนโลยีอยู่เสมอ การเลือกใช้เทคโนโลยีที่ตรงกับกระแสทิศทางเทรนด์ได้อย่างถูกต้องเหมาะสมและตอบโจทย์ในการสร้างผลกำไรของแต่ละธุรกิจองค์กรในทุกภาคอุตสาหกรรมก็เป็นหัวใจสำคัญไม่แพ้กัน

อาลีบาบา คลาวด์ เปิด ดาต้าเซ็นเตอร์ แห่งที่สองในประเทศไทยมาพร้อมกลุ่มผลิตภัณฑ์หลากหลายเพื่อรองรับ Generative AI และโซลูชันเฉพาะทางสำหรับแต่ละอุตสาหกรรม [PR]

อาลีบาบา คลาวด์ ธุรกิจด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและหน่วยงานหลักด้านอินเทลลิเจนซ์ของอาลีบาบา กรุ๊ป ประกาศเปิดตัวดาต้าเซ็นเตอร์แห่งที่สองในประเทศไทย มุ่งเพิ่มสมรรถนะในการตอบสนองความต้องการบริการคลาวด์คอมพิวติ้งที่เพิ่มขึ้นในประเทศไทย โดยเฉพาะเพื่อรองรับแอปพลิเคชัน generative AI และสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลไทยที่มุ่งส่งเสริมนวัตกรรมดิจิทัลและการพัฒนาเทคโนโลยีที่นำสู่ความยั่งยืน