DARPA หน่วยงานวิจัยเทคโนโลยีของสหรัฐฯ เผยยุทธศาสตร์ใหม่ เตรียมพัฒนาระบบเพื่อปกป้องเจ้าหน้าที่ทางทหารจาก Drone ติดอาวุธ ภายใต้โปรแกรมชื่อ Mobile Force Protection โดยแบ่งออกเป็น 3 เฟส พร้อมทุ่มเงินแต่ละเฟสกว่า $3,000,000 หรือประมาณ 100 ล้านบาท
Mobile Force Protection เป็นโปรแกรมเพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่ทางทหารที่จะเริ่มในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ โดยมีจุดประสงค์เพื่อพัฒนาระบบต้นแบบที่สามารถตรวจจับการโจมตี ระบุเป้าหมาย และใช้เทคนิคต่างๆ เพื่อยับยั้ง Drone ติดอาวุธ ตั้งแต่การรบกวนการสื่อสารไปจนถึงการจับ Drone จากกลางอากาศ
DARPA ระบุว่า ปัจจุบันนี้ระบบต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ เช่น UAV หรือ Drone จะใช้เทคโนโลยีเกี่ยวกับการควบคุมผ่านคลื่นสัญญาณวิทยุ หรือ GPS อย่างไรก็ตาม วิวัฒนาการถัดไปของ UAV จะไม่มีการใช้ GPS หรือการสื่อสารผ่านคลื่นสัญญาณวิทยุแต่อย่างใด แต่อาจจะใช้เทคนิคทางด้าน Visual และระบบอัตโนมัติต่างๆ เพื่อเชื่อมต่อหากันและปฏิบัติตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายให้ประสบความสำเร็จ จึงต้องเตรียมความพร้อมสำหรับภัยคุกคามที่อาจจะเกิดขึ้นจาก UAV ในอนาคต
DARPA ยังระบุเพิ่มเติมอีกว่า ถึงแม้ว่าทาง DARPA จะเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ แต่เทคโนโลยีเฉพาะบางอย่างจะไม่ถูกนำมาพัฒนาภายใต้โปรแกรม Mobile Force Protection เนื่องด้วยความปลอดภัยของผู้ใช้ เช่น
- ระบบที่ออกแบบให้ใช้พลังงานในการทำลายเป้าหมายสูง
- ปืนลำกล้องขนาดใหญ่ที่ไม่สามารถควบคุมวิถีการยิงได้ ส่งผลให้เกิดเศษชิ้นส่วนที่มีพลังงานสูง
- ระบบที่ไม่เหมาะต่อการป้องกันพลเรือนจากผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ระหว่างทำให้เป้าหมายไร้ผล
- ระบบที่มีขนาด น้ำหนัก และกินพลังงานสูงเกินกว่ารถและยานพาหนะทางการทหารจะรับไหว
โดยในเฟสแรกจะเริ่มทำการพัฒนาระบบต้นแบบออกมาก่อน จากนั้นจึงเพิ่มขีดความสามารถในเฟสถัดไป และสุดท้ายคือการติดตั้งร่วมกับรถหรือยานพาหนะที่เคลื่อนไหวได้ในเฟสที่ 3