ใช้ OpenStack แล้วดีอย่างไร? Private Cloud จะแก้ไขปัญหาอะไรให้กับองค์กรบ้าง? บทความนี้มีคำตอบ
ความคล่องตัวของระบบ IT จะกลายเป็นหัวใจของการแข่งขันของ Digital Business
การทำ Digital Transformation ภายในองค์กรเพื่อเปลี่ยนธุรกิจให้กลายเป็น Digital Business นั้นกลายเป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกองค์กรต้องทำอย่างเร่งด่วนในปัจจุบันเพื่อความอยู่รอดในอนาคต และการที่จะกลายเป็น Digital Business ที่สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ทาง IT ผสานเข้ากับธุรกิจในอุตสาหกรรมที่องค์กรอยู่ได้นั้นก็ต้องอาศัยระบบ IT Infrastructure ที่มีความยืดหยุ่นสูง และคุ้มค่าต่อการลงทุนในระยะยาว Public Cloud และ Private Cloud จึงกลายเป็นคำตอบของระบบ IT Infrastructure ในทุกๆ วันนี้สำหรับองค์กรที่ต้องการจะก้าวไปข้างหน้าอย่างรววดเร็ว
สำหรับองค์กรที่ต้องการเลือกใช้ไปทาง Public Cloud นั้น ตัวเลือกก็มีมากมายในตลาด แต่ถ้าหากองค์กรต้องการที่จะทำ Private Cloud ภายในองค์กรเพื่อใช้งานเองนั้น ตัวเลือกกลับมีไม่มากนัก และ OpenStack ซึ่งเป็นโครงการ Open Source สำหรับการสร้าง Cloud IT Infrastructure เพื่อใช้งานเองได้นั้นก็เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ขององค์กรในแทบทุกธุรกิจในทุกอุตสาหกรรมเวลานี้ไปเรียบร้อยแล้ว
การเพิ่มขยายระบบ IT Infrastructure และการลงทุน: 2 ปัญหาที่ทุกองค์กรต้องเผชิญ
เพื่อตอบรับต่อการทำ Digital Transformation ที่ระบบ IT Infrastructure จะต้องมีความยืดหยุ่นสูงนี้ ปัญหาที่องค์กรจะต้องเผชิญต่อมาก็คือ วิธีการในการเพิ่มขยาย IT Infrastructure ให้เติบโตตามนวัตกรรมทัน โดยที่การลงทุนนั้นจะต้องยังคงคุ้มค่าอยู่นั่นเอง
โดยทั่วไปแล้ว เทคโนโลยี IT Infrastructure แบบเดิมๆ นั้นมักเป็นเทคโนโลยีจากผู้ผลิตค่ายใดค่ายหนึ่ง และมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงในการเพิ่มขยาย รวมถึงนำเทคโนโลยีอื่นๆ ที่มีราคาถูกกว่าเข้ามาทำงานร่วมกันได้ค่อนข้างยากด้วยเงื่อนไขและประเด็นต่างๆ มากมาย ประเด็นปัญหาเหล่านี้ทำให้ทางเลือกที่เป็น Open Source อย่าง OpenStack นั้นถือว่าน่าสนใจขึ้นมาไม่น้อย
OpenStack นั้นเป็นโครงการ Open Source ที่ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Linux เป็นหลัก และสามารถเชื่อมต่อกับ IT Infrastructure ได้หลากหลายทั้ง Commercial และ Open Source ดังนั้น Open Stack จึงถือเป็นเทคโนโลยีทางเลือกสำหรับองค์กรที่เหมาะสมสำหรับการลงทุนในระยะยาว เพราะนอกจากจะสามารถใช้งานกับเทคโนโลยีเดิมที่มีอยู่ได้อย่างครอบคลุมแล้ว การเพิ่มขยายในอนาคตเองก็สามารถเลือกได้ทั้งการใช้เทคโนโลยีที่เป็น Commercial และ Open Source ได้ตามความเหมาะสมอีกด้วย
ประโยชน์และความคุ้มค่าของการใช้ OpenStack ในการสร้าง Private Cloud ภายในองค์กร
OpenStack นั้นจะเข้ามาแก้ปัญหาและสร้างคุณค่าใหม่ๆ ให้กับระบบ IT Infrastructure ขององค์กรได้ดังต่อไปนี้
- เป็นระบบ Cloud ที่สามารถควบคุมและบริหารจัดการ Hardware Resource เดิมที่องค์กรมีการใช้งานอยู่และทำ Consolidation เพื่อเพิ่มความคุ้มค่าในการใช้งานทั้งการทำ Compute, Storage และ Network ได้อย่างครบวงจร
- สามารถเลือกและปรับแต่งระบบทั้งส่วนของ Hardware และ Software ภายในระบบ Cloud ให้ตอบโจทย์ความต้องการของ Workload ที่หลากหลายรูปแบบได้
- สามารถเพิ่มขยาย Resource ต่างๆ ภายใน Cloud ได้อย่างอิสระ ไม่ผูกติดกับผู้ผลิตใดๆ ทำให้องค์กรมีทางเลือกที่หลากหลายในการเพิ่มขยายในอนาคต
- มีความทนทานสูง ด้วยการใช้เทคโนโลยี Virtual Machine (VM) เป็นหลัก ทำให้สามารถกำจัด Single Point of Failure ออกไปได้ง่าย
- รองรับการทำ Network Functions Virtualization (NFV) ได้ ทำให้องค์กกรสามารถก้าวสู่การทำ Software Defined Networking (SDN) ได้อย่างง่ายดาย
Lenovo พร้อมช่วยองค์กรสร้าง Private Cloud ทันทีด้วย OpenStack Reference Architecture สำหรับ Red Hat Enterprise Linux และ SUSE
สำหรับผู้ที่เริ่มสนใจใน OpenStack หรือมีประสบการณ์ทางด้าน OpenStack อยู่แล้วและต้องการเริ่มต้นนำไปใช้งานภายในองค์กร ทาง Lenovo นั้นมีตัวอย่างการออกแบบระบบ OpenStack ว่า Component ใดควรติดตั้งอยู่บน Server Hardware แบบไหนและจะรองรับ Workload ได้เพียงใดให้ดูเป็นแนวทางสำหรับวางแผนการออกแบบระบบ OpenStack หรือจะนำไปประยุกต์ใช้ตามต้องการก็ได้เช่นกัน โดย Reference Architecture นี้จะครอบคลุมถึงทั้งการติดตั้ง OpenStack บน Red Hat Enterprise Linux และ SUSE Linux
ผู้ที่สนใจสามารถศึกษา Reference Architecture เหล่านี้ได้ทันทีที่ https://lenovopress.com/software/cloud/openstack
แนะนำ Server และ Switch หลากหลายรุ่นจาก Lenovo พร้อมใช้งานภายใน OpenStack ได้ทันที
Lenovo นั้นมี Server และ Switch หลากหลายรุ่นที่สามารถใช้งานได้ภายในโซลูชัน OpenStack เพื่อทำหน้าที่เป็นส่วนประกอบต่างๆ ที่สำคัญภายในระบบ Cloud ดังนี้
- Lenovo System x3650 M5 Server ขนาด 2U ที่ติดตั้ง CPU Intel E5-2600 v4 ได้ 2 Socket พร้อม RAM และ SSD/HDD จำนวนมาก เหมาะสำหรับทำหน้าที่เป็นได้ทั้ง Compute Node และ Storage Node
- Lenovo System x3550 M5 Server ขนาด 1U ที่ติดตั้ง CPU Intel E5-2600 v4 ได้จำนวน 2 Socket พร้อม RAM ขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับทำหน้าที่เป็น Control Node
- Lenovo RackSwitch G8124E อุปกรณ์ Switch เอนกประสงค์ที่รองรับทั้ง Converged Enhanced Ethernet (CEE), Fibre Channel over Ethernet (FCoE) และ iSCSI ได้ในตัว สำหรับการเชื่อมต่อระบบ Storage ทั้งภายในและภายนอกเข้ากับ OpenStack
- Lenovo RackSwitch G8272 อุปกรณ์ Switch เอนกประสงค์ที่รองรับทั้ง 10GbE SFP+, 40GbE QSFP+ สำหรับเชื่อมต่อเครือข่ายประสิทธิภาพสูง
- Lenovo RackSwitch G7028 อุปกรณ์ Top of Rack Switch สำหรับเชื่อมต่อเครือข่ายระหว่าง Server ทั้งหมดภายในระบบ OpenStack เข้าด้วยกัน
ผู้ที่สนใจโซลูชันเหล่านี้สามารถติดต่อทีมงาน Lenovo Thailand ได้ทันที