Microsoft Azure by Ingram Micro (Thailand)

[Guest Post] Amity บริษัทเทคโนโลยีสัญชาติไทยเพียงหนึ่งเดียว ได้รับการจัดอันดับโดย ไฟแนนเชียล ไทมส์ ให้เป็นหนึ่งในบรรดา “บริษัทที่เติบโตเร็วที่สุดในยุโรป”

กรุงเทพฯ 17 พฤษภาคม 2565 – เอมิตี้ (Amity) ผู้ให้บริการโซลูชันด้านการสื่อสาร หรือ โซเชียลฟีเจอร์ (social features) แบบบูรณาการสำหรับองค์กร ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในบรรดาบริษัทที่เติบโตเร็วที่สุดในยุโรป โดยติดอยู่ใน 150 อันดับแรกจากทั้งหมด 1,000 อันดับในรายการ FT 1000 ของไฟแนนเชียล ไทมส์ (Financial Times) หนังสือพิมพ์ที่ทรงอิทธิพล เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ ธุรกิจ และการเงิน Amity เป็นบริษัทเทคโนโลยีไทยเพียงหนึ่งเดียวที่ติดอันดับอยู่ในรายการดังกล่าว โดยอยู่ในอันดับที่ 132 ของยุโรปโดยรวม ด้วยอัตราการเติบโตสัมบูรณ์ (absolute growth rate) อยู่ที่ 1,020 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของบริษัทเทคโนโลยีไทยที่สามารถเติบโตสู่ระดับโลกได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว

Amity ภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติ เป็นหนึ่งในบรรดาบริษัทที่ติดอยู่ในรายการจัดอันดับประจำปีของ FT 1000 ในสาขาของบริษัทที่เติบโตเร็วที่สุดของยุโรป ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 6 สะท้อนให้เห็นว่าธุรกิจของ Amity ในยุโรปและที่อื่น ๆ มีการขยายตัวอย่างรวดเร็วเพียงใด นับตั้งแต่ที่ Amity ได้เปิดตัวสู่ตลาดโลกเมื่อเดือนมีนาคม 2564 เอมิตี้ โซเชียล คลาวด์ (Amity Social Cloud: ASC) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เรือธงของ Amity ได้ลงนามและเปิดตัวร่วมกับแบรนด์ระดับโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เบย์เลอร์ สก็อตต์ แอนด์ ไวท์ เฮลธ์ (Baylor Scott & White Health) เพอร์นอต ริคาร์ด (Pernod Ricard) และ Thryv

จากรายงานวิเคราะห์การจัดอันดับของ Financial Times และ Statista ระบุไว้ว่าหลายบริษัทที่สามารถผ่านเข้ามาติดอันดับในปีนี้ได้นั้นมีความยืดหยุ่น (resilient) เพียงพอที่จะยังคงอยู่รอดและเติบโตได้ ในขณะที่อุปสงค์ดิ่งลงอันเนื่องมาจากผลกระทบของโควิด-19 ในช่วงปีที่ผ่านมา มีบริษัทเทคโนโลยีเข้ามาติดอันดับด้วยจำนวนถึงหนึ่งในห้าของบริษัททั้งหมดที่ได้รับการจัดอันดับ ตามมาด้วยอุตสาหกรรมการก่อสร้างและการค้าปลีก อิตาลีเป็นประเทศที่มีบริษัทติดอันดับมากที่สุด รองลงมา ได้แก่ เยอรมนี และสหราชอาณาจักร

นับเป็นครั้งแรกของ Amity ที่ได้เข้าร่วมการจัดอันดับจาก FT 1000 ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่ธุรกิจได้ดำเนินเติบโตแบบก้าวกระโดดทั้งในสหรัฐอเมริกาและยุโรป นำไปสู่หมุดหมายครั้งสำคัญ ได้แก่ การเปิดสำนักงานของ Amity แห่งใหม่ในยุโรป ณ เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี เมื่อต้นปีนี้ นอกเหนือจากสำนักงานที่ลอนดอน สหราชอาณาจักร โดยรวมแล้วในปัจจุบัน Amity มีจำนวนพนักงานมากกว่า 200 คน และมีความหลากหลายประกอบไปด้วยพนักงานกว่า 30 สัญชาติ

ฟรานเชสกา การ์กาเกลีย 

ผู้ร่วมก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Amity (Francesca Gargaglia, Co-founder and COO of Amity) กล่าวสะท้อนถึงความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่นี้ว่า 

“การได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในบริษัทที่เติบโตเร็วที่สุดของยุโรปนับเป็นสิ่งที่เราภาคภูมิใจอย่างเหลือเชื่อ ผลลัพธ์ดังกล่าวไม่มีอะไรมากไปกว่าการทำงานด้วยความเพียรพยายาม ตลอดจนความร่วมมือร่วมใจและความอุตสาหะจากพนักงานทุกคนในแผนกต่าง ๆ ทุกคนที่ Amity มีส่วนร่วมในการทำให้ความสำเร็จครั้งนี้เป็นจริงขึ้นมา”

หากมองสู่อนาคต แผนงานต่าง ๆ ของ Amity เรียกได้ว่าเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ โอกาสเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ยังมีอีกหลายภาคอุตสาหกรรมที่ยังไม่มีโอกาสได้สัมผัสกับช่วงเวลาแห่งโซเชียล Amity เห็นผู้ใช้รายแรก ๆ ในบางอุตสาหกรรมที่ตัวลูกค้าเองได้ยกระดับผลิตภัณฑ์ของตนไปสู่ชุมชนในโซเชียล และเนื่องด้วยผลิตภัณฑ์ประเภทต่าง ๆ นับวันยิ่งตระหนักถึงพลังของโซเชียลมากยิ่งขึ้น Amity จึงตั้งเป้าที่จะเติบโตอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นไปอีกในเวลาอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

“Amity เป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีเพียงไม่กี่แห่งจากประเทศไทยที่สามารถแข่งขันกับแบรนด์ต่าง ๆ ทั่วโลก อีกทั้งยังสามารถเติบโต และขยายตัวไปสู่ระดับโลก เราหวังว่าการเติบโตอย่างต่อเนื่องของเราจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับสตาร์ทอัพไทย โดยมุ่งเน้นไปที่โอกาสต่าง ๆ มากมายทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลกมากยิ่งขึ้น” 

กรวัฒน์ เจียรวนนท์ ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Amity กล่าว

หากต้องการเรียนรู้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชันของ Amity ที่ช่วยให้บริษัทต่าง ๆ เปลี่ยนผลิตภัณฑ์ดิจิทัลของตนให้กลายเป็นชุมชนดิจิทัลที่มีชีวิตชีวาผ่านโซเชียลฟีเจอร์แบบสำเร็จรูป โปรดติดต่อที่นี่

###

เกี่ยวกับ Amity

เอมิตี้ (Amity) เป็นแพลตฟอร์มเทคโนโลยีชั้นนำที่ขับเคลื่อนประสบการณ์และชุมชนดิจิทัล เอมิตี้ โซเชียล คลาวด์ (Amity Social Cloud: ASC) เป็นแพลตฟอร์มเรือธงของ Amity ช่วยให้บริษัทต่าง ๆ รวมถึงนักพัฒนาสามารถเพิ่มโซเชียลฟีเจอร์แบบ plug-and-play ลงในแอปพลิเคชันหรือแพลตฟอร์มดิจิทัลใด ๆ ก็ตามได้อย่างง่ายดาย ในตลาดแอปพลิเคชันโทรศัพท์มือถือที่ทั้งเฟื่องฟูและพลุกพล่าน สิ่งนี้ช่วยให้ทีมผลิตภัณฑ์และการตลาดสามารถสร้างชุมชน ขับเคลื่อนการมีส่วนร่วม สนับสนุนการรักษาลูกค้า ไปจนถึงสร้างรายได้

About Pawarit Sornin

- จบการศึกษา ปริญญาตรี สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต - เคยทำงานด้าน Business Development / Project Manager / Product Sales ดูแลผลิตภัณฑ์ด้าน Wireless Networking และ Mobility Enterprise ในประเทศ - ปัจจุบันเป็นนักเขียน Full-time ที่ TechTalkThai

Check Also

เอชพี เปิดตัวพอร์ตโฟลิโอที่หลากหลายที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ AI PCs [PR]

เอชพี เปิดตัวพอร์ตโฟลิโอที่หลากหลายที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ AI PCs ขับเคลื่อน ด้วยขุมพลัง AI ยกระดับประสิทธิภาพการทำงาน การสร้างสรรค์ และประสบการณ์ของผู้ใช้ในสภาพแวดล้อม การทำงานแบบไฮบริด

Imperva ออกรายงาน The State of API Security ประจำปี 2024

Imperva ผู้ให้บริการชั้นนำด้าน Web, API และ Data Security ออกรายงาน The State of API Security ประจำปี 2024 …