การโจมตี DDoS ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์นี้ เกิดขึ้นจากเหล่าอุปกรณ์ IoT ที่ไม่ได้รับการรักษาความปลอดภัยทั่วโลก
Akamai ผู้ให้บริการ CDN ที่สามารถยับยั้งการโจมตี DDoS ขนาด 665Gbps มาได้เป็นเวลานานถึง 3 วันก่อนตัดสินใจจะหยุดเพราะค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นอย่างมหาศาลนั้น ได้ออกมาเผยข้อมูลแล้วว่าการโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์นี้เกิดขึ้นจากฝีมือของอุปกรณ์ Internet of Things (IoT) ที่ถูกโจมตีและฝัง Botnet ลงไปเพื่อใช้ในการทำ DDoS โดยเฉพาะ
จำนวนของอุปกรณ์ IoT ที่ถูกนำมาใช้ในการโจมตีครั้งนี้ยังไม่เป็นที่เปิดเผย แต่ก็อาจมีจำนวนมากถึงล้านอุปกรณ์ก็เป็นได้ อย่างไรก็ดีแนวโน้มลักษณะนี้ถือว่าอันตรายมากเพราะในอนาคตที่มีการคาดการณ์กันว่าอุปกรณ์ IoT นั้นอาจมีจำนวนมากถึง 21,000 ล้านอุปกรณ์ภายในปี 2020 การโจมตีในลักษณะนี้ก็จะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นไปอีกเป็นอย่างมาก
ยังมีการเปิดเผยข้อมูลอีกด้วยว่า การโจมตีในครั้งนี้ไม่ได้มีการใช้เทคนิค Reflection หรือ Amplification แต่อย่างใด แต่ Traffic ทั้งหมดนั้นเป็น HTTP Request ของจริง ในขณะที่การสืบสวนไปถึงต้นตอก็ยังคงไม่ประสบความสำเร็จและยังไม่ทราบถึงจุดประสงค์ที่ชัดเจนในการโจมตีครั้งนี้ แต่ทาง Akamai เองก็จะทำการวิเคราะห์และค้นหาวิธีการเพื่อรับมือการโจมตีลักษณะนี้ต่อไปในอนาคต