6 ข้อแนะนำสำหรับการไปออกบูธ เก็บตกจากงาน Startup Thailand

พอดีทางทีมงาน TechTalkThai มีโอกาสได้ไปช่วยเฝ้าบูธหนึ่งในงาน Startup Thailand มาครับ ก็ได้ไปเดินเล่นดูภาพบรรยากาศในงาน และมีข้อแนะนำอยากจะแนะนำเหล่าบริษัทต่างๆ ที่ไปออกบูธดังต่อไปนี้ครับ ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกๆ บริษัทที่ต้องออกบูธ และผู้ที่ต้องเตรียม Artwork ต่างๆ สำหรับใช้ในงานครั้งหน้ากันดังนี้ครับ

Credit: ShutterStock.com
Credit: ShutterStock.com

1. Artwork ทุกอย่างควรจะต้องสื่อว่าบริษัททำอะไรให้ได้เร็วที่สุด (และควรมีภาษาไทยด้วย)

หนึ่งในความผิดพลาดที่ผมเห็นคือ Banner และ Backdrop ของหลายๆ เจ้าอ่านแล้วไม่เข้าใจว่าตกลงทำธุรกิจอะไร แถมยังใช้ศัพท์ภาษาอังกฤษกันค่อนข้างเยอะทั้งๆ ที่คนมาเดินงานเป็นคนไทย ในการตั้งบูธที่พื้นที่ค่อนข้างจำกัดและหลายๆ บูธต่างก็มี Artwork ของตัวเองกันเต็มที่แบบนี้ การพยายามสื่อคุณค่าของสิ่งที่ทำให้ลูกค้าเข้าถึงได้ง่ายที่สุด ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีครับ

ภาพที่เห็นในช่วงจัดงานคือ ไปเดินในแต่ละโซนที่ผู้จัดจัดเอาไว้ให้ธุรกิจแต่ละกลุ่มอยู่ด้วยกัน เจ้าที่ไม่สื่อว่าตัวเองทำอะไรในโซนนั้นนี่ก็คือต้องเข้าไปเดินคุย ซึ่งถ้ามีคนอื่นเคุยอยู่ หรือทางเดินมันค่อนข้างแน่น ผู้เข้าชมอย่างผมก็คงไม่ได้ทำความรู้จักธุรกิจนั้นๆ ด้วยซ้ำครับ

 

2. การมี Brochure จะช่วยให้คนเฝ้าบูธมีเรื่องไปคุยกับผู้เข้าชมบูธได้ง่ายขึ้น

โบรชัวร์เป็นอุปกรณ์เปิดบทสนทนาที่ง่ายที่สุดอันหนึ่งของการไปออกบูธเลยครับ อย่างน้อยๆ ตอนเดินเข้าไปยื่นโบรชัวร์ให้ เราก็มีเวลาประมาณ 5-10 วินาทีในการพูดคุยสั้นๆ กับผู้เข้าร่วมงานแต่ละคน และถ้ายิ่งในโบร์ชัวร์เป็นการอธิบายธุรกิจ และมีข้อเสนอพิเศษให้กับผู้เข้าร่วมงาน บทสนทนาก็จะยิ่งยาวได้ครับ

เช่นเดียวกัน โบรชัวร์ควรจะอ่านง่าย ดังนั้นถ้าผู้เข้าร่วมงานส่วนใหญ่เป็นคนไทย ก็ทำโบรชัวร์ภาษาไทยนะครับ และกระดาษที่ใช้ก็ควรเป็นกระดาษดีๆ นิดนึง ไม่ใช่กระดาษพิมพ์เอกสารทั่วๆ ไปครับ

 

3. ผู้เฝ้าบูธควรซ้อมสรุปเนื้อหาต่างๆ ในบริการของตัวเองมาให้ดี

หลายๆ บูธเหมือนให้ลูกน้องมาเฝ้า และลูกน้องก็นำเสนอได้ไม่ดี ถึงธุรกิจจะน่าสนใจ แต่ถ้าหากผู้เฝ้าบูธอธิบายธุรกิจหรือปัญหาการใช้งานเชิงลึกให้ดีๆ ไม่ได้แล้ว ภาพรวมของธุรกิจก็จะดูไม่ดีตามไปด้วยนะครับ

แต่อีกมุมนึงก็เข้าใจว่าจริงๆ เวลาที่มาใช้เฝ้าบูธ เอาไปทำอะไรอย่างอื่นได้อีกเยอะ 55 ดังนั้นอย่างน้อยๆ ก็ซ้อมคนที่มาเฝ้าบูธให้นำเสนอได้ดีๆ ถามตอบลึกๆ ได้หน่อยก็น่าจะดีขึ้นครับ

 

4. เตรียมนามบัตรกันไปให้เยอะๆ

เป็นอีกปัญหาเลยที่หลายๆ บูธเตรียมนามบัตรกันไปไม่พอ เวลามีคนอยากติดต่อภายหลังในเชิง Partnership ก็กลายเป็นเรื่องยาก ทางคนจัดบูธก็บอกให้ติดต่อทางเว็บไซต์ แต่ในมุมคนที่ไปคุยคืออยากโทรคุยกับเจ้าของหรือคนที่ตัดสินใจได้มากกว่า ดังนั้นนามบัตรถือเป็นเรื่องสำคัญมากนะครับสำหรับงานแบบนี้ เจอหลายบูธมากๆ ที่นามบัตรหมด

 

5. การ Demo ผลิตภัณฑ์เป็นสิ่งที่สำคัญ

พลังของบูธที่มี Demo ให้ลูกค้าชม กับไม่มี Demo ใช้วิธียืนคุยนั้นจะแตกต่างกันมาก รวมถึงลูกเล่นที่มีในการนำเสนอด้วย ดังนั้นขอแนะนำว่าถ้าจะจริงจังกับการออกบูธ มีตัวอย่างผลิตภัณฑ์ หรือมีจอ 30-50 นิ้วมาเปิด Application ให้ลูกค้าดูได้ก็จะดีครับ

มีบูธนึงที่เห็นคือของ REFUN เป็น Startup ทำธุรกิจแยกขยะ ก็มีตู้แยกขยะมาโชว์จริงๆ และคนก็มายืนดูแน่นตลอด การนำเสนอก็เลยเป็นแบบ 1:N เรียกได้ว่ามีประสิทธิภาพสูงมากครับ

 

6. นำเสนอให้ชัดเจนว่าจบงานแล้ว ผู้เข้าชมจะติดตามเราต่อได้อย่างไร

บางบูธไปออกงานแบบไม่มี Website, ไม่มีนามบัตร, ไม่มี Contact บางบูธไปออกงานแบบคนมาอธิบายบอกไม่ได้ว่าผลิตภัณฑ์ของตนมีวางจำหน่ายที่ไหนยังไงบ้าง ก็ถือเป็นเรื่องที่น่าเสียดายครับ อย่างน้อยๆ คิดมาให้แตกครับว่าหลังจากนี้ไปถ้าลูกค้าเค้าคิดถึงผลิตภัณฑ์หรือบริการของเรา เค้าจะมาเข้าใช้ได้ยังไงกันบ้างแบบง่ายๆ

 

ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยครับ วันนี้คงไม่เขียนข่าวเยอะ ขอพักฟื้นก่อนครับ 55


About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

Confluent ผู้พัฒนา Commercial Apache Kafka เตรียมเข้า IPO ในตลาดหุ้นสหรัฐ

Confluent บริษัทสตาร์ทอัพระดับ Unicorn ผู้พัฒนาโซลูชัน Commercial ของ Apache Kafka Open-source Data Platform ประกาศเตรียมเข้า IPO ในตลาดหุ้นสหรัฐเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ประกาศเปิดกรุ๊ป TechTalkThai Marketplace ให้ทุกธุรกิจ IT ฝากร้านกันได้ฟรีๆ

จากการที่ช่วงนี้หลายธุรกิจต้องชะงักไปจากการมาของ COVID-19 ก็ทำให้วงการ IT ที่เติบโตตามเศรษฐกิจนั้นต้องหยุดชะงักไปด้วย ทีมงาน TechTalkThai จึงเล็งเห็นว่าการยื่นมือเข้าไปช่วยธุรกิจ IT ไทยในตอนนี้น่าจะเป็นสิ่งที่เหมาะสม จึงได้ทำการเปิด Facebook Group ภายใต้ชื่อ "TechTalk Thai Marketplace กลุ่มแนะนำผลิตภัณฑ์ บริการ และโปรโมชันไอที" ขึ้นมา