6 เหตุผลที่ IBM สามารถช่วยให้การใช้งาน SAP HANA มีความคุ้มค่าสูงสุด

จากการที่ SAP ECC6 กำลังจะหมดระยะเวลาการสนับสนุนจาก SAP ภายในปี 2027 นั้น ก็ทำให้เหล่าธุรกิจองค์กรที่ใช้งาน SAP อยู่ต้องเร่งวางแผนย้ายสู่ระบบใหม่ซึ่งใช้ SAP HANA เป็นหัวใจหลักในการทำงาน

แน่นอนว่าการวางแผนย้ายระบบครั้งนี้ การออกแบบ IT Infrastructure ใหม่เพื่อให้รองรับการใช้งาน SAP HANA ได้อย่างคุ้มค่ายาวนานนั้นก็ถือเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่องค์กรจะละเลยไปไม่ได้ และ IBM ก็พร้อมนำเสนอระบบ Infrastructure สำหรับองค์กรชั้นนำ อันประกอบด้วย IBM Power Systems รุ่นล่าสุดคือ Power10 และ IBM All Flash Storage อย่าง IBM FlashSystem เพื่อช่วยให้การลงทุน SAP HANA ครั้งนี้มีความคุ้มค่าสูงสุด ด้วยเหตุผล 6 ประการ ดังนี้

1. รองรับ SAP HANA Instance ได้มากกว่าและเร่งการประมวลผลข้อมูลด้วย IBM FlashSystem และ IBM Power10

ในเอกสาร Whitepaper หัวข้อ IBM FlashSystem Max Configuration With SAP HANA ได้แสดงถึงผลการทดสอบประสิทธิภาพการใช้งาน IBM FlashSystem รุ่นต่าง ๆ ร่วมกับ SAP HANA และพบว่า IBM FlashSystem 9200 จำนวน 4 Nodes นั้นสามารถรองรับ SAP HANA Instance ได้มากขึ้นถึง 75% รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 164 Instances ภายในระบบเดียว โดยเทียบผลการทดสอบระหว่างเดือนตุลาคม 2020 และเดือนมิถุนายน 2019 ด้วยมาตรฐานเดียวกัน

ข้อมูลการทดสอบนี้ได้ชี้ให้เห็นว่าในระยะยาว การลงทุนใช้งาน IBM FlashSystem นั้นจะทำให้องค์กรมีทางเลือกในการเพิ่มขยายระบบ SAP HANA ได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องจัดซื้อระบบ Storage ใหม่เพิ่มเติมในเวลาอันสั้นนัก เพราะ IBM FlashSystem นั้นมีทั้งประสิทธิภาพและพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่เพียงพอต่อการใช้งานได้ในระยะยาวอยู่แล้วในตัว รองรับได้ทั้งระบบ Production Development และ Test ได้ในอุปกรณ์สตอเรจเพียงชุดเดียวตั้งแต่วันแรกที่เริ่มต้นใช้งาน และสามารถเพิ่มขยายได้ทั้งพื้นที่และประสิทธิภาพเมื่อมีความต้องการเพิ่มขึ้น

IBM FlashSystem 7200 Storage- Credit: IBM

ในส่วนของ IBM Power10 Server เองนั้นก็มีประสิทธิภาพสูง ทั้งด้วยพลังประมวลผลที่เหนือกว่า CPU สถาปัตยกรรม x86 มากกว่า 2 เท่า และการรองรับ RAM ขนาดหลายเทระไบต์ (TB) เป็นเครื่องเซิร์ฟเวอร์เพียงยี่ห้อเดียวที่ทาง SAP ออกเอกสารรับรองว่า ด้วยสถาปัตยกรรมของ IBM Power Systems สามารถติดตั้ง SAP HANA Instance สำหรับงาน Production ได้สูงสุดถึง 16 Instances หรือ 16 VMs ได้ภายใน IBM Power เพียงเครื่องเดียว และรองรับ SAP HANA Instance สำหรับ Non-production เช่น Dev/Test หรือ QA บนเครื่องเดียวกับงาน Production ได้โดยไม่มีผลกระทบทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของระบบ SAP HANA ลดลงแต่อย่างใด ซึ่งทั้งสองปัจจัยนี้ล้วนสอดคล้องกับความต้องการของ SAP HANA ได้เป็นอย่างดี

IBM Power E1080 Server – Credit: IBM

2. ลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มขยาย SAP HANA ได้ยืดหยุ่นยิ่งขึ้น ด้วย SAP HANA Native Storage Extension (NSE)

ในการใช้งาน SAP HANA ซึ่งเป็นระบบที่ทำงานแบบ In-memory เป็นหลักนั้น หน่วยความจำหลักหรือ RAM บนเครื่อง Server ถือเป็นทรัพยากรสำคัญที่จะส่งผลต่อความเร็วในการทำงานและความจุของระบบโดยตรง และด้วยราคาของ RAM เมื่อเทียบกับ Disk Storage มักเป็นส่วนที่ทำให้ระบบ SAP HANA ขนาดใหญ่นั้นต้องมีการลงทุนด้าน IT Infrastructure ที่สูงมากขึ้นไปด้วย เพราะต้องใช้เครื่องเซิร์ฟเวอร์รุ่นที่ใหญ่ขึ้นหรือจำนวนหลายเครื่องมากขึ้นมาทำงานร่วมกัน เพื่อให้รองรับการทำงานแบบ In-memory หรือ ความจุของ RAM ปริมาณมากขึ้นได้อย่างเพียงพอ

อย่างไรก็ดี ความสามารถที่มีชื่อว่า SAP HANA Native Storage Extension หรือ NSE นี้ ทำให้ IBM All Flash Storage สามารถประมวลผลได้เร็วมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และองค์กรสามารถนำพื้นที่บน IBM FlashSystem ที่ติดตั้ง Flash Drive ความเร็วสูงอย่าง NVMe Flash Drive และ IBM FlashCore Module (FCM) ซึ่งเป็น Flash Drive Tier-0 ที่มีประสิทธิภาพและเสถียรภาพสูงมาก มาทำงานร่วมกับการใช้งาน RAM บน IBM Power เพื่อการเก็บข้อมูลและการประมวลผลความเร็วสูง ในฐานะของพื้นที่ต่อขยายสำหรับ RAM เพื่อรองรับความต้องการของระบบ SAP HANA ที่มีขนาดใหญ่มากขึ้นได้ทันที โดยไม่ต้องเปลี่ยนเครื่องเซิร์ฟเวอร์หรืออุปกรณ์สอตเรจใหม่ ช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับองค์กรในระยะยาวได้เป็นอย่างดี

แนวทางดังกล่าวนี้จะทำให้ SAP HANA มองเห็นพื้นที่สำหรับใช้ประมวลผลแบบ In-memory ได้ขยายใหญ่ขึ้นทันที โดยไม่ต้องแก้ไขหรือปรับแต่งค่าในระบบ SAP HANA ด้วยการนำพื้นที่ความจุของ RAM บนเครื่องเซิร์ฟเวอร์มาผสานเข้ากับพื้นที่บน FlashSystem Storage ความเร็วสูง เสมือนเป็นพื้นที่ผืนเดียวกัน โดยข้อมูลที่จะถูกนำมาเก็บไว้ใช้งานบน All Flash Storage นี้โดยหลักแล้วจะเป็นข้อมูล 75% บน SAP HANA หรือข้อมูลส่วนใหญ่ของระบบที่ไม่ได้ถูกเรียกใช้งานบ่อยมากนัก ทำให้ในการใช้งานปกติ ไม่ว่าจะเป็นการเรียกใช้งานข้อมูลที่อยู่ใน RAM หรือใน Storage ที่เปิดใช้งานฟีเจอร์ NSE นั้น ผู้ใช้จะไม่รู้สึกถึงความต่างด้านประสิทธิภาพของระบบแต่อย่างใด แต่ช่วยให้องค์กรประหยัดค่าใช้จ่ายได้อย่างมาก

กราฟแสดงค่าใช้จ่ายที่ลดลง เมื่อเปิดการทำงานของฟีเจอร์ SAP HANA Native Storage Extension ร่วมกับพื้นที่ RAM ของระบบ SAP HANA บน Power9 Server – Credit: IBM

3. เสริมความมั่นคงทนทานด้วย IBM Power Systems ที่เสถียรที่สุด และระบบสำรองแบบ Always On อัตโนมัติด้วย HyperSwap

การเลือกใช้ IBM Power Systems สำหรับระบบ SAP HANA ไม่ว่าจะเลือกใช้ระบบปฏิบัติการ Red Hat Enterprise Linux (RHEL) หรือ SUSE Linux Enterprise Server (SLES) หรือแม้แต่ลูกค้าเดิมที่ยังใช้งาน SAP ECC6 โดยไม่ได้อัพเกรดเป็น SAP HANA หรือ S/4 HANA และเลือกใช้ระบบปฏิบัติการ IBM AIX ก็ตาม สามารถมั่นใจได้ว่า IBM Power รุ่นล่าสุด สามารถทำให้ระบบ ERP หลักขององค์กรมีความมั่นคงทนทานที่สูงมาก การันตีได้จากรายงานของสถาบันกลางที่ชื่อว่า Information Technology Intelligence Consulting Corp. (ITIC) โดย IBM Power Systems นั้นได้รับการรับรองจากสถาบันมาตลอดระยะเวลา 12 ปีที่ผ่านมา ว่าเป็นเครื่องเซิร์ฟเวอร์และระบบปฏิบัติการที่มีความเสถียรและมีระยะเวลา Uptime ดีที่สุด และล่าสุดกับสถิติ Unplanned Downtime เมื่อปี 2020 ของเครื่องรุ่น Power9 มีเพียง 1.54 นาทีต่อปีเท่านั้น นั่นหมายความว่า เพียงแค่องค์กรเลือกใช้ IBM Power Systems สำหรับระบบงานหลักทางธุรกิจอย่าง SAP HANA จะช่วยลดปัญหาระบบใช้งานไม่ได้หรือเครื่องเซิร์ฟเวอร์เดิมมี Downtime บ่อยเนื่องจากอุปกรณ์เสียหรือทำงานผิดปกติอย่างเห็นผล

กราฟเปรียบเทียบความเสถียรและระยะเวลา Unplanned Downtime ของเซิร์ฟเวอร์รุ่นต่าง ๆ พร้อมระบบปฏิบัติการที่ใช้งาน (ค่าน้อยกว่าดีกว่า) – Credit: ITIC

และไม่ว่าลูกค้าจะใช้เครื่องเซิร์ฟเวอร์อะไรก็ตาม หากติดตั้งใช้งานร่วมกับสตอเรจ IBM FlashSystem ที่มาพร้อมกับความสามารถ HyperSwap ในตัว โดย HyperSwap นั้นสามารถทำให้องค์กรออกแบบ Infrastructure ของระบบ SAP HANA ให้เป็นแบบ Active-Active หรือ Storage Mirroring ภายในดาต้าเซ็นเตอร์เดียวกันหรือระหว่าง 2 ดาต้าเซ็นเตอร์ได้ง่าย ๆ ทำให้บริการของระบบ SAP HANA ขององค์กรไม่มีทางล่มได้ง่าย ๆ รองรับ Uptime SLA สูงกว่า 99.999% หรือเรียกได้ว่า Always On กันเลยทีเดียว

IBM FlashSystem HyperSwap with SAP HANA on IBM Power – Credit: IBM

ความสามารถดังกล่าวนี้สามารถถูกนำมาใช้งานร่วมกับ SAP HANA เพื่อเสริมความมั่นคงทนทานให้กับข้อมูลสำคัญของธุรกิจในระดับ Enterprise Class Data Availability ได้เป็นอย่างดียิ่ง เพราะหากมีระบบ SAP HANA ในฝั่งใดฝั่งหนึ่งมีปัญหา ระบบที่เหลือก็พร้อมจะทำงานทดแทนได้ทันที โดยการทำ Failover Service ของระบบ SAP HANA ให้เป็นไปโดยอัตโนมัติทั้งหมด ผู้ดูแลระบบไม่ต้องดำเนินการใด ๆ ด้วยตนเอง ในขณะที่ข้อมูลพร้อมใช้งานและเข้าถึงได้ตลอดเวลา เรียกได้ว่ารองรับ Business Continuity ด้วยความสามารถที่ทำให้ RTO (Recovery Time Objective) และ RPO (Recovery Point Objective) เท่ากับ 0 เลยก็ว่าได้ อีกทั้งประสิทธิภาพของ IBM FlashSystem นั้นก็เหนือกว่าข้อกำหนดขั้นต่ำของ SAP อยู่หลายระดับ ทำให้ในการใช้งานจริงนั้น องค์กรสามารถทำ HA/DR ให้กับ SAP HANA ได้อย่างง่ายดายและมั่นใจเต็มที่

4. ลดพื้นที่จัดเก็บข้อมูลได้อย่างคุ้มค่า ด้วยเทคโนโลยี Data Reduction หลากหลายรูปแบบ

การใช้ระบบ SAP HANA บน IBM FlashSystem นั้นจะสามารถลดพื้นที่จัดเก็บข้อมูลลงไปได้มากกว่า 50% จากความสามารถทุกอย่างที่อุปกรณ์ SAN Storage พึงมี ไม่ว่าจะเป็น Thin Provisioning, Deduplication, Data Reduction และเหนือกว่าด้วย Storage Compression ด้วยความสามารถของ FlashCore Module (FCM) เองซึ่งเป็น Hardware Inline Compression ลิขสิทธิ์เฉพาะของ IBM FlashSystem ช่วยให้รองรับ SAP HANA ระบบเดียวหรือหลาย ๆ ระบบร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพและความคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น ไม่ต้องเพิ่มขยายอุปกรณ์สตอเรจบ่อย ๆ เมื่อธุรกิจเติบโตหรือต้องการเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลเป็นครั้งคราวตามช่วงเวลาหรือช่วงโปรโมชั่น

กราฟแสดงพื้นที่ของข้อมูลระบบ SAP HANA ที่ลดลงเมื่อใช้ฟีเจอร์ Data Reduction Pool (DRP) ใน IBM FlashSystem – Credit: IBM

5. ประสิทธิภาพเหลือเฟือ เพิ่มขยายได้ง่าย รองรับงานต่าง ๆ ของธุรกิจองค์กรให้ใช้งานร่วมกันได้ภายในระบบเดียว

ด้วยประสิทธิภาพและความสามารถต่าง ๆ ที่กล่าวมาก่อนหน้านี้ของทั้ง IBM FlashSystem และ IBM Power Systems นั้น ถึงแม้จะติดตั้งใช้งานเพื่อระบบ SAP HANA เป็นหลัก แต่หลายบริษัทก็ได้พบและพิสูจน์แล้วว่าทรัพยากรของระบบยังมีอย่างเหลือเฟือ ดังนั้น สิ่งที่มักเกิดขึ้นตามมากับบริษัทเหล่านั้นก็คือ การคิดหาทางใช้ทรัพยากรของระบบทั้งพื้นที่ว่างของ FlashSystem และการประมวลของเครื่องเซิร์ฟเวอร์ Power ที่ยัง idle อยู่ให้คุ้มค่ามากที่สุด และนั่นทำให้องค์กรสามารถนำทรัพยากรส่วนที่เหลือนี้ไปใช้ต่อยอดได้หลากหลายแนวทางหรือนำเอาระบบงานอื่น ๆ มารันควบคู่ไปด้วย เพื่อประหยัดต้นทุนและค่าใช้จ่ายทางด้าน Infrastructure ได้เป็นอย่างดี เช่น

  • การติดตั้งระบบ SAP BW on HANA หรือ BW/4 HANA ร่วมกับระบบ SAP ERP ใน Infrastructure เดียวกัน
  • การติดตั้ง SAP HANA สำหรับ Development, Test และ QA โดยการแบ่ง LPAR (เทียบเท่า Virtual Machine) และ Storage Pool ที่เหลือบนระบบเดียวกัน โดยไม่กระทบประสิทธิภาพของงาน Production
  • ติดตั้งใช้งาน Database หรือ Business Application อื่น ๆ จากทรัพยากรของระบบที่เหลือ
  • การแบ่งทรัพยากรของระบบสำหรับรองรับ Virtual Machine เพิ่มเติม
  • การใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชันใหม่ ๆ หรือ Cloud-Native Application บนพื้นฐานของแพลตฟอร์ม Kubernetes Container หรือ Red Hat OpenShift Container Platform ภายในเครื่องเดียวกัน
  • ต่อยอดการใช้งานระบบสู่ Hybrid Cloud หรือ Offload การทำงานของ SAP HANA ด้วย Power Virtual Server บน IBM Cloud ได้ทันที

โดยการเพิ่มขยายระบบโดยการติดตั้งใช้งานระบบต่าง ๆ ตามตัวอย่างข้างต้น หรือการเพิ่มขยาย SAP HANA Instance ใหม่ ๆ เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคตนั้น ทั้ง IBM FlashSystem และ IBM Power Systems ต่างก็รองรับการเพิ่มขยายได้อย่างยืดหยุ่น ทั้งในแง่ของเทคโนโลยีที่อัดแน่นสามารถเปิด-ปิดการใช้งานได้ง่ายดาย การรองรับการติดตั้งส่วนประกอบ Hardware เพิ่มเติมเข้าไปเพื่อเพิ่มทรัพยากรให้มากขึ้น การบริหารจัดการระบบแบบรวมศูนย์ทำให้มองเห็นภาพรวมของระบบงานทั้งหมด การปรับแต่งทรัพยากรสำหรับ Workload ต่าง ๆ โดยแทบไม่ต้องทำการปิดระบบ

และเนื่องจากตัวอย่างระบบทั้งหมดที่กล่าวมา เป็นการติดตั้งบน Infrastructure หรือบนฮาร์ดแวร์เดียวกัน ดังนั้นจึงสามารถถูกบริหารจัดการด้วยเครื่องมือต่าง ๆ จาก IBM หรือ 3rd Party ที่นิยมได้ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น SAP Landscape Management, IBM PowerVC, IBM Spectrum Virtualize, IBM Spectrum Control, IBM Storage Insights หรือ Red Hat Ansible Automation

6. ก้าวสู่การใช้งาน SAP HANA และ S/4 HANA อย่างมั่นใจ ด้วย SAP TDI Certified และ IBM Rapid Move

โซลูชันของ IBM นี้ผ่านการรับรองทั้งประสิทธิภาพและเป็น Infrastructure Platform ทางเลือกตามข้อกำหนดของ SAP ตามมาตรฐาน TDI Certified ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเซิร์ฟเวอร์หรืออุปกรณ์สตอเรจรุ่นใดจาก IBM ก็ตาม ทำให้ธุรกิจองค์กรสามารถเลือกใช้ IBM FlashSystem และ IBM Power Systems รุ่นหรือโมเดลที่เหมาะสมตามขนาดของลูกค้าและปริมาณข้อมูลที่ทาง SAP ได้ออกแบบไว้ได้อย่างมั่นใจ ในขณะที่ IBM เองก็มีโปรแกรม IBM Rapid Move ที่จะช่วยให้ธุรกิจองค์กรอัปเกรดระบบไปเป็น SAP HANA หรือ S/4 HANA ได้ง่ายดายยิ่งขึ้น พร้อมบริการระดับมืออาชีพที่ครอบคลุมทั้งการออกแบบติดตั้งระบบใหม่ทั้งหมด การวางแผนย้ายจากระบบเก่า การปรับปรุงงานทำงานให้ดีขึ้นเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีของผู้ใช้ การย้ายข้อมูลจากระบบเดิม การปรับปรุงกระบวนการทำงานหรือ Business Process รวมไปถึงการจัดการและลดความเสี่ยงของการย้ายระบบ

ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อช่วยเหลือธุรกิจองค์กร และการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายทางด้านไอที IBM ก็มีทางเลือกในการลงทุนวางระบบ IT Infrastructure ใหม่หรือทดแทนระบบเดิมสำหรับ SAP HANA และการอัปเกรดจากเวอร์ชัน SAP ECC 6.0 มาสู่ SAP S/4 HANA ได้อย่างหลากหลาย เหมาะสมกับความต้องการขององค์กรที่แตกต่างกัน โดยลูกค้าสามารถทำการลงทุนในส่วนของ IBM Power Systems และ IBM FlashSystem แบบลงทุนครั้งเดียว หรือการทยอยจ่ายค่าฮาร์ดแวร์ตามปริมาณการใช้งานจริงแบบ Pay-per-use หรือการเช่าใช้งาน IBM Infrastructure-as-a-Service บนคลาวด์ของ IBM หรือบริษัทคู่ค้า (IBM Business Partner) ที่ให้บริการทั้งในและนอกประเทศได้อีกด้วย

สนใจโซลูชัน IBM FlashSystem และ IBM Power Systems สำหรับ SAP HANA อย่างมีประสิทธิภาพและคุุ้มค่า ติดต่อทีมงาน Metro Connect ได้ทันที

สำหรับผู้ที่สนใจในโซลูชันใดๆ ของ IBM สามารถติดต่อทีมงาน Metro Connect ได้ทันทีที่ mktmcc@metroconnect.co.th หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ Metro Connect ได้ที่ https://www.metroconnect.co.th/

About nattakon

จบการศึกษา ปริญญาตรีและโท สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ KMITL เคยทำงานด้าน Engineer/Presale ดูแลผลิตภัณฑ์ด้าน Network Security และ Public Cloud ในประเทศ ปัจจุบันเป็นนักเขียน Full-time ที่ TechTalkThai

Check Also

พบช่องโหว่ใน Kubernetes ที่อาจถูกใช้ยึดควบคุม Windows Node

พบช่องโหว่ใน Kubernetes ที่อาจถูกใช้ยึดควบคุม Windows Node ทั้งหมดในคลัสเตอร์

SonicWall เตือนช่องโหว่ Zero-day ใน SMA 1000 ให้ผู้ใช้อัปเดตด่วน!

พบการโจมตีในโซลูชัน SonicWall SMA 1000 Appliance Management Console (AMC) และ Central Management Console (CMC) ที่เป็นโซลูชันสำหรับรวมศูนย์การบริหารจัดการ โดยช่องโหว่มีความร้ายแรงที่ …