SAP ถือได้ว่าเป็นกระดูกสันหลังของข้อมูลที่ขับเคลื่อนองค์กรเลยก็ว่าได้ ซึ่งเป็นเวลาหลายสิบปีที่ SAP อยู่คู่กับองค์กรจำนวนมากมาอย่างยาวนาน แต่เมื่อถึงยุคใหม่ของการใช้ข้อมูล SAP จึงต้องพัฒนาระบบข้อมูลสำคัญนี้ให้สามารถตอบโจทย์การประมวลผลข้อมูลมหาศาลเหล่านี้ได้อย่างเท่าทัน ซึ่งสิ่งนั้นจึงถือกำเนิดสู่ยุคใหม่ที่เรียกว่า S/4 HANA
SAP ได้ประกาศสิ้นสุดการให้บริการ SAP เวอร์ชันก่อนหน้าไว้ ณ ปี 2027 ด้วยเหตุนี้เองผู้ใช้งาน SAP จึงต้องเริ่มตื่นตัวและหาทางอัปเกรตระบบใหม่ เพราะหากท่านมีประสบการณ์เกี่ยวกับ SAP คงจะทราบได้ไม่ยากว่า การเปลี่ยนถ่ายสู่ยุคใหม่นี้ มีความท้าทายไม่น้อยซึ่งปัจจุบันเวลาเริ่มเดินถอยหลังเหลือเพียงแค่ 3 ปีกว่าแล้ว
อย่างไรก็ดีหัวข้อหลักที่ต้องถูกพิจารณาเสมอสำหรับการใช้งาน SAP S/4 HANA ก็คือเรื่องของ Infrastructure ซึ่งนอกจากจะต้องได้การรับรองจาก SAP แล้ว ยังต้องตอบโจทย์การประมวลผลแบบ In memory ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงมีความมั่นคงและปลอดภัยของการเก็บรักษาข้อมูล และมีความยืดหยุ่นเพียงพอกับการใช้งานอีกด้วย ทำให้การมีผู้ให้คำปรึกษาที่ดีจึงเป็นเรื่องสำคัญ
ในบทความนี้เราจะพาทุกท่านไปเรียนรู้ว่า ทำไม IBM Power และ G-Able ถึงเป็นคำตอบที่ลงตัวนั้น
หากพิจารณาจากเอกสารใน Datasheet ของ IBM Power ท่านจะพบกับคำว่า Performance, Flexibility, Reliability และ Security แต่อีกสิ่งหนึ่งที่เมื่อพิจารณาให้ดีจะพบว่าการใช้ IBM Power ไม่ใช่เพียงแค่ฮาร์ดแวร์ที่ประสิทธิภาพสูง แต่ IBM ยังได้มอบ Ecosystem ที่ทำให้องค์กรสามารถรัน SAP S/4 HANA ได้ด้วยทางเลือกที่หลายหลายอย่างคุ้มค่า ดังนี้
1.) ฮาร์ดแวร์ถูกออกแบบมาสำหรับ SAP S/4 HANA
สำหรับผู้สนใจ SAP S/4 HANA คงทราบกันดีอยู่แล้วว่าผู้ใช้งานจะต้องเลือกฮาร์ดแวร์ที่ผ่าน Certified กับ SAP ที่ต้องมีข้อกำหนดมากมาย โดย IBM Power คือหนึ่งในรายชื่อเหล่านั้น
การทำงานของ SAP HANA ต้องอาศัยหน่วยความจำมหาศาล ซึ่ง IBM ได้ออกแบบให้ 1 processor Core ของตนรองรับหน่วยความจำได้ถึงหลายร้อยกิกะไบต์(GB) กล่าวคือผู้ใช้งาน IBM สามารถเริ่มต้นการทำงานได้ด้วย เพียง 4 processor Core ก็สามารถรองรับ S/4 HANA ได้ถึง 1TB เลยทีเดียว
2.) ประหยัดค่าใช้จ่าย เริ่มต้นได้ทีละน้อย
การทำงานกับ SAP S/4 HANA ต้องอาศัยการลงทุนฮาร์ดแวร์เป็นอย่างมาก แต่ด้วยโมเดล IBM Power Private Cloud Solution องค์กรสามารถจัดซื้อ CPU และ RAM ในลักษณะของศูนย์กลาง(Pool) และค่อยเปิดใช้ตามจริง โดย IBM สามารถวัดค่าการใช้งานได้ตามระยะเวลาที่เปิดใช้งาน ทำให้องค์กรสามารถวางแผนการใช้จ่ายได้อย่างยืดหยุ่น ในปริมาณที่เหมาะสมก่อนขยายเพิ่มเติมเมื่อต้องการ
3.) ความแข็งแกร่งทนทานที่ตอบโจทย์ In-memory
Memory เป็นหน่วยความจำชั่วคราว ซึ่งเมื่อก้าวสู่ฐานข้อมูลแบบ in-memory นั่นหมายถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูลหาก DRAM ที่นำมาประกอบเป็น Memory นั้นเสียหายหรือทำงานผิดพลาด IBM จึงออกแบบให้ระบบหน่วยความจำของตนมีพาร์ทสำรอง(Memory Sparing) มาในตัว พร้อมทำหน้าที่แทนกันได้ถึง 2 ชั้น หากเกิดความเสียหายขึ้นระบบยังสามารถดำเนินต่อไปได้
นอกจากนี้ IBM ยังได้เพิ่มความสามารถการเข้ารหัสข้อมูล (Encryption)บน memory ให้กับลูกค้าโดยอัตโนมัติ เพื่อช่วยปกป้องความปลอดภัยของข้อมูล โดยปราศจากผลกระทบต่อประสิทธิภาพรวมของระบบอีกด้วย นั่นคือความรอบคอบที่ทำให้ IBM Power เหมาะสำหรับงานระดับองค์กรอย่างแท้จริง
4.) ยืดหยุ่นพร้อมรับทุกการใช้งาน
IBM PowerVM ถือเป็นอีกจุดหนึ่งเปลี่ยนเกมที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถรัน SAP S/4 HANA Production บนระบบ Virtualization ได้ โดยมีการการันตีจาก SAP ซึ่งจุดนี่เองยังตามมาด้วยข้อดีที่ทำให้องค์กรสามารถบริหารจัดการคละ Workload ได้อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด เช่น การรัน SAP ระบบเก่าควบคู่กับ S/4 HANA อย่างไม่กระทบต่อประสิทธิภาพ นั่นหมายความว่าในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านท่านจะยังสามารถใช้ระบบเดิมต่อไปได้ แทนที่จะต้องมีฮาร์ดแวร์ 2 ชุด นี่คือผลประโยชน์มหาศาลที่องค์กรต้องนำไปพิจารณา
นอกจากนี้ Virtualize ยังทำให้องค์กรสามารถนำทรัพยากรที่เหลือจาก SAP ไปรันบริการงานอื่นๆร่วมกันบน IBM Power ได้ เกิดความคุ้มค่าอย่างสูงสุด แถมยังไม่จำเป็นต้องลงทุนซื้อ Virtualization จาก 3rd Party ที่แสนแพงเข้ามาอีกด้วย
ไม่เพียงเท่านั้น IBM Power ยังรองรับระบบปฏิบัติการอย่างหลากหลายทั้ง AIX, IBM i และ Linux ทำให้การเปลี่ยนถ่ายจาก IBM รุ่นเก่าทำได้โดยง่าย หรือจะไปสู่โลกใหม่บน Linux ที่เปิดกว้างก็ได้เช่นกัน
5.) ตอบโจทย์ Hybrid Cloud
ในกรณีที่นโยบาย Hybrid Cloud มาถึง IBM Power Virtual Server ที่อยู่บน IBM Cloud ก็พร้อมให้บริการให้องค์กรสามารถขับเคลื่อนนโยบายแบบ Hybrid ที่อยู่บนระบบ IBM Power
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของประโยชน์ที่ท่านจะได้รับจาก IBM Power เท่านั้น เพราะอย่างที่กล่าวไป IBM Power มาพร้อมกับ Ecosystem ที่ทำให้องค์กรสามารถมีทางเลือกตอบโจทย์การทำงานได้อย่างครอบคลุม เช่น IBM PowerHA & VM Recovery Manager, Red Hat Enterprise Linux(RHEL), Red Hat Ansible Platform, Red Hat OpenShift, Cloud Paks, PowerSC เป็นต้น
G-Able จบครบทุกประสบการณ์
การเปลี่ยนผ่านสู่ S/4 HANA มีหลายความท้าทายรออยู่ ซึ่งตัว SAP Implementer เองต้องมีประสบการณ์และความเข้าใจเกี่ยวธุรกิจอยู่ไม่น้อยเพราะการใช้งานหลายอย่างที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจใน SAP ECC อาจจะไม่สามารถ Migrate ไปยังการใช้งานใหม่ได้โดยง่าย รวมถึงการคอนฟิคฟังก์ชันต่างๆอีกมากมายที่ต้องประเมิน ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของธุรกิจด้วย ที่ต้องประเมินอย่างจริงจังและอาจกินระยะเวลานานนับปี ด้วยเหตุนี้เองความเชี่ยวชาญของ SAP Implementer จึงสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
อย่างไรก็ดีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับตัวระบบโครงสร้างพื้นฐานฮาร์ดแวร์ก็เป็นเรื่องสำคัญไม่ย่อหย่อนไปกว่ากัน ที่ต้องมีประสบการณ์ในระบบฮาร์ดแวร์ ระบบปฏิบัติการ Container และ Virtualize หากมิเช่นนั้นเมื่อเกิดปัญหาขึ้นลูกค้าอาจจะต้องติดต่อทีมผู้รับผิดชอบหลายส่วนทำให้เกิดความล้าช้า ซึ่งแน่นอนว่าระบบ SAP คือศูนย์รวมข้อมูลที่ไม่อาจหยุดชะงักได้
จะดีกว่าไหมหาก SAP Implementer ของท่านจะมีความเชี่ยวชาญแบบครบวงจร ซึ่ง G-Able คือคำตอบนั้น โดยปัญหาของท่านสามารถจบลงด้วยการติดต่อเดียวไม่เกิดความล่าช้า โดย G-Able มีประสบการณ์มาอย่างยาวนานในการให้บริการระบบ IBM และบริการด้านไอทีระดับองค์กร อีกทั้งมีทีมผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการ Certified พร้อมให้บริการ
สนใจโซลูชัน SAP S/4 HANA on IBM Power สามารถติดต่อทีมงาน G-Able ได้ที่ contactcenter@g-able.com หรือศึกษาข้อมูลของ G-Able ได้ที่เว็บไซต์ www.g-able.com