CDIC 2023

6 ความสามารถการจัดการใหม่ใน Synology DSM 7.0 ที่ผู้ใช้ Synology ต้องรู้จัก

หลังจากที่ Synology ได้ออกมาประกาศเปิดตัว Firmware รุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง DSM 7.0 ที่เพิ่มทั้งประสิทธิภาพและความสามารถให้กับ Synology NAS ทั่วโลกกันแล้ว อัปเดตใหม่นี้ก็ได้สร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในการใช้งาน Synology NAS ให้กับผู้ใช้งานทั่วไปและธุรกิจองค์กรเพิ่มเติมหลากหลายแนวทาง

ในบทความนี้ เราจะแนะนำถึง 6 ความสามารถใหม่ใน Synology DSM 7.0 ที่ผู้ใช้งานทุกคนควรรู้จักเอาไว้ เพื่อให้สามารถใช้งาน Synology NAS ได้อย่างคุ้มค่าและมั่นคงปลอดภัยยิ่งขึ้น ดังนี้

1. Storage Manager ใหม่ ใช้งานง่ายกว่าเดิม

ในการอัปเดตครั้งนี้ Synology ได้ปรับโฉม Storage Manager สำหรับใช้ในการบริหารจัดการอุปกรณ์, Storage Pool, Volume และ SSD ใหม่ ให้เข้าใจง่ายขึ้น ใช้งานง่ายขึ้น และมองเห็นความสัมพันธ์ของการกำหนดค่าต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงยังตั้งค่าด้าน Disk Redundancy หรือ Availability ได้หลากหลายมากขึ้น โดยมีความสามารถเด่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น

Credit: Synology
  • Volume Usage Details แจกแจงรายละเอียดการใช้งานของแต่ละ Volume ให้เข้าใจภาพรวมได้โดยง่าย
  • Replace Drive สามารถเพิ่ม Drive ใหม่ติดตั้งเข้าไปในช่อง Disk Tray ที่ยังว่างอยู่ และสั่งให้ Drive ใหม่นี้ทำงานแทน Drive เดิมที่อาจจะเริ่มมีปัญหาหรือมีการแจ้งเตือนได้เลยโดยไม่ทำให้เสียประสิทธิภาพการใช้งาน ทำให้การเปลี่ยน Disk สามารถทำได้อย่างง่ายดายและมั่นใจมากขึ้น (รองรับเฉพาะ  SHR 1, SHR 2, RAID 1, RAID 5, RAID 6, RAID 10, RAID F1 เท่านั้น)
  • Auto Replacement เดิมทีการติดตั้ง Hot Spare Drive นั้นจะใช้งานได้เฉพาะกรณีที่ Disk ใน RAID เสียหายจนไม่สามารถใช้งานได้แล้วเท่านั้น แต่ด้วยความสามารถนี้ Synology จะนำ Hot Spare Drive ไป Clone ข้อมูลจาก Drive ที่มีสถานะ Critical หรือ Failing แต่ยังไม่ได้หยุดทำงานไป แล้วนำ Drive ดังกล่าวเข้าไปทดแทน Drive ที่มีปัญหาเหล่านี้ให้ก่อนที่จะส่งผลกระทบต่อ RAID โดยตรง
  • Fast Repair เมื่อมี Drive ใน Storage Pool มีปัญหา การตั้งค่า Fast Repair เอาไว้จะทำให้เกิดการประมวลผลเฉพาะในส่วนที่เป็นพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่ถูกจองเอาไว้ใช้งานใน Volume เท่านั้น และไม่ประมวลผลในพื้นที่จัดเก็บข้อมูลส่วนที่ยังไม่ถูกใช้งาน ทำให้การซ่อมแซมข้อมูลเหล่านี้รวดเร็วขึ้นได้สูงสุดถึง 50%
  • Auto Repair เมื่อมี Drive ใน Storage Pool เสียหายจนเกิดผลกระทบต่อประสิทธิภาพ หากตั้งค่า Auto Repair เอาไว้ ผู้ใช้งานจะสามารถเปลี่ยน Drive ที่มีปัญหาได้ทันที แล้วระบบจะทำการซ่อมแซมข้อมูลให้อัตโนมัติโดยที่ผู้ใช้งานไม่ต้อง Log In เข้าระบบไปสั่งให้ระบบทำการ Repair ด้วยตัวเองอีกต่อไป
  • Space Reclamation Schedule โดยทั่วไปเมื่อมีการเลิกใช้งานพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบางส่วน ระบบจะต้องมีการประมวลผลเพื่อนำพื้นที่คืนกลับมายังส่วนกลางและนำไปใช้งานอื่นๆ ได้ในภายหลัง แต่การประมวลผลเหล่านี้มักใช้พลังประมวลผลที่สูง Synology จึงเปิดให้ผู้ใช้งานทำการตั้งค่าได้ว่าจะให้เกิดการ Reclaim พื้นที่เหล่านี้ในช่วงเวลาใด เพื่อไม่ให้กระทบต่อประสิทธิภาพการใช้งานระบบ

ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Storage Manager : https://sy.to/ielir

2. รองรับ Volume ขนาดใหญ่ระดับ Petabyte ได้แล้ว

สำหรับธุรกิจที่มีการใช้งาน Synology ในการจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการ Archive ข้อมูลย้อนหลังเป็นเวลานาน, การจัดเก็บข้อมูล Video, การจัดเก็บข้อมูลกล้องวงจรปิด หรือระบบ File Server ขนาดใหญ่ ในอัปเดตล่าสุดนี้ Synology สามารถเปิดให้ผู้ใช้งานสร้าง Volume ขนาด 1PB ได้แล้วจากเดิมที่เคยสร้างได้สูงสุดเพียงแค่ 200TB เท่านั้น

แต่ปัจจุบัน ความสามารถนี้ยังเปิดให้ใช้ได้กับเฉพาะ Synology รุ่น XS, XS+, SA และ FS เท่านั้น โดยอุปกรณ์ต้องติดตั้งหน่วยความจำไม่น้อยกว่า 64GB และต้องตั้งค่า RAID 6 จึงจะใช้งานได้

ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ PetaSpace : https://sy.to/ygvij

3. ปรับปรุงการควบคุมสิทธิ์ของผู้ใช้งาน

ใน DSM 7.0 นี้มีการปรับปรุงความสามารถในการควบคุมสิทธิ์ครั้งใหญ่ โดยเพิ่มความสามารถที่น่าสนใจเข้ามาหลายส่วน เช่น

Credit: Synology
  • Permissions Change Tracking มีระบบ Log บันทึกการเปลี่ยนแปลงสิทธิ์ในการเข้าถึง File หรือ Folder ต่างๆ ได้ ทำให้สามารถทำการ Audit ในส่วนนี้ได้ง่ายขึ้น
  • Permissions Exporting ผู้ดูแลระบบสามารถทำการ Export การตั้งค่าด้านการกำหนดสิทธิ์ในการเข้าถึง File หรือ Folder ต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย เพื่อใช้ในการตรวจสอบโดยไม่ต้องเสียเวลาไปไล่ดูตามแต่ละ Folder ด้วยตนเอง
  • Kill Connections to Opened Files โดยทั่วไปแล้วหากไฟล์หนึ่งๆ ถูกเปิดใช้งานโดยผู้ใช้งานหลายคน จะมีเพียงผู้ใช้งานคนแรกเท่านั้นที่สามารถแก้ไขไฟล์นั้นๆ ได้ ในขณะที่ผู้ใช้งานคนอื่นจะเปิดได้ในแบบ Read-only เท่านั้น ซึ่งใน DSM 7.0 นี้ผู้ดูแลระบบจะสามารถตัดการเชื่อมต่อของผู้ใช้งานคนแรกเพื่อให้ผู้ใช้งานคนอื่นๆ ทำการแก้ไขไฟล์ได้ โดยไม่ต้องติดต่อไปยังผู้ใช้งานคนแรกให้ทำการปิดไฟล์ด้วยตนเอง
  • Administrative Role Delegation ผู้ดูแลระบบสามารถทำการตั้งสิทธิ์ในการบริหารจัดการระบบบางส่วนให้กับผู้ใช้งานได้ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถช่วยทำการบริหารจัดการระบบได้ เหมาะสำหรับระบบที่มีขนาดใหญ่ หรือมีหลายแผนก และองค์กรต้องการแบ่งอำนาจการบริหารจัดการระบบ Synology เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการทำงาน

ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Role Delegation : https://sy.to/mc2ve

4. Active Insight  การจัดการอุปกรณ์หลายเครื่องแบบเรียลไทม์ที่สะดวกยิ่งขึ้น

Credit: Synology

ถึงแม้เดิมที Synology จะมีความสามารถในการทำ Centralized Management ด้วย CMS อยู่แล้ว แต่ใน DSM 7.0 นี้ ทาง Synology ก็ได้เพิ่มทางเลือกใหม่ในการบริหารจัดการ Synology NAS จำนวนมากที่กระจัดกระจายอยู่ตามสาขาต่างๆ ที่ระบบเครือข่ายอาจจะเชื่อมถึงกันบ้างหรือไม่เชื่อมถึงกันบ้าง ด้วย Active Insight ซึ่งเป็นระบบ Cloud Management นั่นเอง

นอกจากนี้ Active Insight ก็ยังมีการรวบรวมข้อมูลสถิติการใช้งาน Synology NAS และนำมาแสดงผล เพื่อให้ธุรกิจได้เห็นถึงแนวโน้มการใช้งานอุปกรณ์แต่ละชุด และทำนายแนวโน้มของพื้นที่จัดเก็บข้อมูลและประสิทธิภาพการใช้งาน เพื่อให้สามารถวางแผนการอัปเกรดระบบและอุปกรณ์ได้อย่างแม่นยำ

ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Active Insight : https://sy.to/p1rhe

5. “Secure SignIn” App & FIDO2 Support การตรวจสอบยืนยันตัวตนที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น

DSM 7.0 นี้ได้เสริมความมั่นคงปลอดภัยเพิ่มขึ้นมาอีกระดับด้วยการรองรับ Multi-Factor Authentication และ Passwordless Authentication ได้สองแนวทาง ได้แก่

Credit: Synology
  1. Secure SignIn ใช้ Application บน Smartphone ในการช่วยยืนยันตัวตน
  2. FIDO2 ใช้ Windows Hello หรือ macOS Touch ID ในการช่วยยืนยันตัวตน

วิธีการดังกล่าวนี้จะช่วยลดโอกาสที่ผู้ประสงค์ร้ายจะสามารถเข้าถึงอุปกรณ์ Synology NAS ได้จากการสุ่มเดารหัสผ่านหรือขโมยรหัสผ่านจากผู้ดูแลระบบหรือผู้ใช้งานลงได้เป็นอย่างมาก

Credit: Synology

ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Secure Signin : https://sy.to/hvidb

6. Hybrid Share การจัดการไฟล์ระหว่างสาขาที่ยืดหยุ่น

หลังจากที่ Synology ได้ทำการเปิดตัวบริการ Cloud Storage ของตนเองที่มีชื่อว่า C2 Storage ทาง Synology ก็ได้พัฒนาความสามารถ Hybrid Share เพิ่มเติมเพื่อให้ภาคธุรกิจสามารถทำ File Sharing ด้วย Hybrid Storage ได้

แนวคิดของ Hybrid Share นี้คือการที่ธุรกิจทำการสร้าง Folder กลางเอาไว้บน C2 Storage ซึ่งเป็นบริการ Cloud และเชื่อมต่ออุปกรณ์ Synology NAS เข้ากับบริการ Cloud ดังกล่าว ทำให้ผู้ใช้งานในธุรกิจที่เชื่อมต่อกับ Synology NAS ในแต่ละชุดซึ่งอาจจะกระจายกันอยู่ตามแต่ละสาขา สามารถเข้าถึงข้อมูลจาก Folder กลางเดียวกันและทำงานร่วมกันได้ โดยไม่ต้องมีระบบเครือข่ายที่เชื่อมแต่ละสาขาเข้าด้วยกัน

Credit: Synology

ทั้งนี้อุปกรณ์ Synology NAS แต่ละชุดนั้นก็จะทำการ Cache ข้อมูลที่ถูกเข้าถึงและใช้งานเอาไว้ เพื่อให้ผู้ใช้งานที่เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ชุดนั้นๆ สามารถจัดการกับข้อมูลเหล่านั้นได้อย่างรวดเร็วด้วย Latency ที่ต่ำ และทำงานได้อย่างต่อเนื่องไม่สะดุดติดขัด

การเชื่อมต่อระหว่าง Synology NAS แต่ละชุดไปยัง C2 Storage นี้จะมีการเข้ารหัสด้วย AES-256 อยู่เสมอ ทำให้มั่นใจได้ในความมั่นคงปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล

ปัจจุบันความสามารถ Hybrid Share นี้ยังอยู่ในสถานะ Beta โดยผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโปรแกรม Hybrid Share Beta พร้อมรับพื้นที่จัดเก็บข้อมูล C2 Storage 1 TB ได้ที่ https://sy.to/ohgme

 

ติดต่อ Synology ได้ทันที

สำหรับผู้ที่สนใจโซลูชันของ Synology สามารถติดต่อทีมงาน Synology ได้ที่ https://sy.to/9ysy8
หรือตัวแทนจำหน่าย https://sy.to/wxy18


About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

ยกระดับบริการขององค์กรอย่างมั่นใจด้วย HPE Aruba Networking SASE โดย ยิบอินซอย

HPE Aruba Networking นำเสนอ Unified SASE ที่รวมเอาความสามารถของเทคโนโลยี SD-WAN และ SSE เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อความง่ายดายในการบริหารจัดการ SD-WAN, Routing, WAN Optimization ตลอดจนการบังคับใช้นโยบายความปลอดภัยได้แบบ end-to-end เพื่อให้การทำงานของแอปพลิเคชันมีประสิทธิภาพสูงขึ้น มั่นคงปลอดภัย ลดต้นทุน และพร้อมให้บริการเสมอ

Microsoft แพตช์แก้ไขช่องโหว่เร่งด่วน 2 รายการให้ Edge, Teams และ Skype

Microsoft ได้แก้ไขช่องโหว่ Heap Buffer Overflow 2 รายการอย่างเร่งด่วนในไลบรารีที่ผลิตภัณฑ์ของตนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้มีรายงานพบว่าช่องโหว่ได้ถูกนำไปใช้โจมตีจริงแล้ว