Nokia ประสบความสำเร็จในการทดสอบการเดินสาย Fibre ใต้ทะเลสำหรับ Facebook ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก โดยใช้การมอดูเลตสัญญาณแบบใหม่ ทำความเร็วได้สูงสุดถึง 250 Gbps บนระยะทางกว่า 5,500 กิโลเมตร
Nokia ระบุว่า ได้ใช้เทคนิคการมอดูเลตสัญญาณแบบใหม่จาก Bell Labs เรียกว่า “Probabilistic Constellation Shaping (PCS)” ซึ่งผสานคุณสมบัติของเลเซอร์แบบ Low-linewidth และเทคนิคในการชดเชยความไม่เป็นเชิงเส้นในสาย Fibre ส่งผลให้สามารถรับส่งสัญญาณแบบ 64-QAM ได้ด้วยความเร็วสูงถึง 7.46 bits ต่อวินาทีต่อเฮิรตซ์ หรือเร็วกว่าการรับส่งข้อมูลของสายเคเบิลใต้ทะเลจากนิวยอร์กไปไอร์แลนด์ถึง 2.5 เท่า
PCS ทำงานโดยเปลี่ยนวิธีการมอดูเลตสัญญาณของ QAM (Quadrature Amplitude Modulation) กล่าวคือ QAM แบบดั้งเดิม แต่ละจุด Constellation * จะมีนำ้หนักเท่ากัน ทุกจุดจึงถูกใช้โดยคลื่นความถี่เดียวกัน แต่ PCS กลับพยายามเลือกจุด Constellation ที่ดีที่สุดตามสภาวะแวดล้อมแทน
“PCS ใช้จุด Constellation ที่มี Amplitude สูงบ่อยน้อยกว่าจุดที่มี Amplitude ต่ำกว่าในการส่งสัญญาณ ส่งผลให้ โดยเฉลี่ยแล้ว สัญญาณทนต่อนอยซ์และข้อผิดพลาดอื่นๆ ได้ดีกว่า ทำให้อัตราการรับส่งข้อมูลเหมาะสมกับช่องสัญญาณ และช่วยเพิ่มความเร็วได้สูงถึง 30%” — Nokia อธิบาย
Nokia เชื่อว่าสามารถใช้ PCS ในการส่งข้อมูลผ่านสาย Fibre ได้สูงสุดถึง 32 Tbps ในอนาคต
* Constellation คือจุดแสดงสถานะการแปลงข้อมูลในรูปของ Amplitude และ Phase ที่แตกต่างกัน ดังตัวอย่างด้านล่างแสดงรูปแบบของ 16-QAM
ที่มา: https://www.theregister.co.uk/2017/03/22/250_gbps_across_atlantic_in_optical_test_for_facebook/