แซส ซอฟท์แวร์ แนะวิธีการนำเทคโนโลยีการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเข้ามาใช้ในวงการอุตสาหกรรมการเงิน และบริการด้านประกันภัยเพื่อป้องกันความเสี่ยงและเป็นการรองรับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน สร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจ รองรับธุรกิจประกันภัยที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
กรุงเทพฯ – 28 สิงหาคม 2558 – นายเคนเน็ธ โคท ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าอัจฉริยะสายงานประกันภัยประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก, แซส กล่าวว่า ในปัจจุบันบริษัท ประกันหลายแห่งมีความเชี่ยวชาญในเรื่องของการวิเคราะห์ข้อมูลด้านความเสี่ยงของลูกค้า และมีข้อมูลเชิงสถิติต่าง ๆ ทำให้สามารถประมาณการต้นทุนค่าความเสี่ยงภัยที่แตกต่างกันออกมาได้ ไม่ว่าจะเป็นกรณีการเจ็บป่วย หรือกรณีเสียชีวิต แต่การประมวลผล และการจำลองข้อมูลที่มีความซับซ้อน ในบริษัทประกันใหญ่ ๆ ยิ่งมีความจำเป็น เพื่อรองรับสถานการณ์ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น โดยผ่านการทำแบบจำลองการเกิดภัยพิบัติขนาดใหญ่(CAT modelling) เพื่อให้ได้ค่าพื้นฐานในการกำหนดความเสี่ยงที่บริษัทรองรับได้ และมีกำไรจากสัญญาตามที่ประมาณการเอาไว้
ปัจจุบันจะเห็นได้ว่ามีบริษัทประกันภัยหลายแห่งในต่างประเทศ ที่กำหนดอัตราเบี้ยประกันภัยตามลักษณะของภัย (by-peril rating) ที่จำเป็นต้องอาศัยข้อมูลลักษณะภัยชนิดต่าง ๆ เช่น ภัยจากลูกเห็บ, ไฟป่า, คลื่นพายุถล่มชายฝั่ง, อาชญากรรม, ระยะเวลาที่ทำประกัน ฯลฯ มาวิเคราะห์ต่อผู้เอาประกันรายบุคคล (individual perils) และจำลองรูปแบบเพื่อประเมินความเสี่ยงภัยเหล่านี้ ร่วมกับการประเมินสินทรัพย์ส่วนบุคคล หรือกลุ่มสินทรัพย์ที่รับประกันไว้ ซึ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการประเมิน เพื่อให้สามารถตั้งราคาความเสี่ยงเฉพาะได้อย่างเหมาะสม
โดยกระบวนการเหล่านี้ ถ้าบริษัทประกันต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ หรือหลายเดือนในการสร้างแบบจำลองความเสี่ยง บริษัทประกันจะสูญเสียความได้เปรียบทางการแข่งขัน ทั้งนี้หากบริษัทประกันเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม มาใช้วิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง (high performance analytics) ได้ในเวลาที่รวดเร็ว จะช่วยประเมินความเสี่ยงตามหมวดหมู่ ข้อมูลที่แตกต่างกันได้อย่างรวดเร็ว และทำได้หลายครั้งภายใน 1 วัน จะทำให้บริษัทประกันก้าวนำคู่แข่งได้แบบก้าวกระโดดเลยทีเดียว ถึงเวลาแล้วที่บริษัทประกันหลายแห่ง จะต้องเดินหน้านำเทคโนโลยีการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกมาใช้อย่างจริงจัง โดยแซส พร้อมเดินหน้านำเทคโนโลยีวิเคราะห์ข้อมูลระดับสูง รุกขยายตลาดให้บริษัทประกันภัยให้มีศักยภาพเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากธุรกิจประกันภัยมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นายทวีศักดิ์ แสงทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท แซส ซอฟท์แวร์ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า ข้อมูลเชิงลึกที่ได้จากตัวแทนประกันภัย, นายหน้าประกันภัย และพนักงานของบริษัท มีความสำคัญต่อลูกค้า อย่างไรก็ตาม การที่จะเปลี่ยนแปลงไปสู่การเป็นองค์กรที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริงนั้น จำเป็นต้องมีการวิเคราะห์ที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ซึ่งเป็นเรื่องที่สลับซับซ้อน นอกจากนี้ บริษัทประกันจำเป็นต้องมองถึงความเป็นไปได้ทุกด้านให้มากที่สุด เพื่อรวบรวมประเภทข้อมูลข่าวสารใหม่ ๆ ที่มีส่วนสัมพันธ์กับลูกค้า ซึ่งรวมถึงข้อมูลข่าวสารจากเว็บไซต์ สื่อสังคมออนไลน์ และข้อมูลจากภายนอกอื่น ๆ เกี่ยวกับลักษณะประชากร และภัยจากการระบุตำแหน่ง ซึ่งมีความสำคัญเพื่อช่วยในการดูแลและรักษาลูกค้า
“เนื่องจากข้อมูลในการนำมาวิเคราะห์ มีโครงสร้างการทำงานอยู่บนแพลตฟอร์มหลากหลาย ทั้งแบบมีโครงสร้าง และแบบไม่มีโครงสร้าง ที่มาจากแหล่งข้อมูลมากมาย ทำให้เกิดความต้องการเทคโนโลยีแพลทฟอร์ม ที่ได้รับการออกแบบเฉพาะสำหรับการทำงานเพื่อสนองตอบได้ตามจุดประสงค์ เนื่องจากระบบฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์สำหรับการใช้งานทั่วไป แม้ประมวลผลเอกสารได้นับสิบล้านชุด แต่มีบ่อยครั้งที่การประมวลผลของคอมพิวเตอร์ ต้องใช้เวลาหลายวัน หรือหลายสัปดาห์ เพื่อให้การประมวลผลนั้นได้สมบูรณ์ ทั้งนี้ปัจจัยที่ทำให้เทคโนโลยีแพลทฟอร์มการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง แตกต่างจากระบบสำหรับการใช้งานทั่วไป คือ ความสามารถในการนำเอกสารข้อมูลหลายพันล้านชุด หรือปริมาณข้อมูลระดับเทราไบต์ มาทำการวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อน และนำเสนอผลลัพธ์ได้ภายในไม่กี่วินาที” นายทวีศักดิ์ กล่าวสรุป
เกี่ยวกับบริษัท แซส
บริษัท แซส เป็นผู้นำในตลาดซอฟต์แวร์และบริการด้านการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงธุรกิจ (Business Analytics) ด้วยโซลูชั่นเชิงนวัตกรรมที่ให้ลูกค้าในรูปของ Integrated Framework ทำให้บริษัท แซส สามารถช่วยลูกค้าเพิ่มประสิทธิภาพและมูลค่าผ่านการตัดสินใจทางธุรกิจที่ดีและรวดเร็วขึ้น สำหรับจำนวนลูกค้าที่ได้นำโซลูชั่นของแซสไปใช้แล้วนั้นมีมากกว่า 75,000 แห่งทั่วโลก และนับตั้งแต่ปี 2519 เป็นต้นมา แซส เดินหน้าอย่างมุ่งมั่นในการเป็น “พลังแห่งการรอบรู้” (The Power to Know®) สำหรับลูกค้าทั่วโลก