ในแวดวงธุรกิจประกันภัยช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีสิ่งหนึ่งที่ต้องเร่งพิจารณาปรับเปลี่ยนกันอย่างมากคือเรื่องของมาตรฐานรายงานทางการเงิน IFRS 17 ที่มีผลบังคับใช้มาตรฐานใหม่ตั้งแต่ปี 2021 ที่ผ่านมา เพื่อทำให้รายงานทางการเงินของบริษัทประกันภัยมีมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก รวมทั้งเพิ่มความโปร่งใส และสามารถนำข้อมูลไปใช้เปรียบเทียบกับธุรกิจอื่น ๆ ได้ดีขึ้น
บทความนี้ คือเรื่องราวความสำเร็จของ “ไทยประกันชีวิต” บริษัทประกันชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย กับการประยุกต์ใช้ SAS Solution for IFRS 17 ที่ดำเนินการโดย Yip In Tsoi ซึ่งผลลัพธ์เป็นที่น่าประทับใจอย่างมากเพราะสามารถทำให้บริษัทไทยประกันชีวิตดำเนินการตอบโจทย์ตามมาตรฐานรายงานการเงินสำหรับธุรกิจประกันภัย IFRS 17 ได้สำเร็จก่อนเวลาที่กำหนดบังคับใช้ อีกทั้งยังเสริมให้กลายเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลมากขึ้น
มาตรฐานรายงานทางการเงินธุรกิจประกันภัย IFRS 17 คืออะไร
“IFRS” เป็นคำที่ย่อมาจาก “International Financial Reporting Standards” ที่หมายความถึงมาตรฐานรายงานทางการเงินในระดับสากล เพื่อจุดมุ่งหมายให้เกิดเป็นรายงานที่มีมาตรฐานแบบเดียวกันทั่วโลก เข้าใจได้ง่าย และสามารถเปรียบเทียบกันได้ไม่ว่าธุรกิจจะอยู่ในประเทศใดหรือว่าอุตสาหกรรมใดก็ตาม
โดยมาตรฐาน IFRS ต่าง ๆ นั้นถูกกำหนดโดย International Accounting Standards Board (IASB) ซึ่งองค์กรจะต้องนำมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจไปดำเนินการจัดทำรายงานทางบัญชีการเงินให้สอดคล้องกับมาตรฐานที่กำหนดไว้ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเป็นมาตรฐาน อันจะส่งผลให้นักลงทุนหรือบุคคลทั่วไปสามารถวิเคราะห์ทางการเงินของธุรกิจและสามารถนำไปเปรียบเทียบระหว่างธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น
และ IFRS 17 คือมาตรฐานรายงานทางการเงินสำหรับธุรกิจประกันภัยที่มีการประกาศบังคับใช้มาตั้งแต่ปี 2021 ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้สำหรับงวดการรายงานประจำปีเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2023 เป็นต้นมา นั่นหมายความว่า ณ ปัจจุบันบริษัทในอุตสาหกรรมประกันภัยส่วนใหญ่จะต้องดำเนินการตามมาตรฐาน IFRS 17 ในการรายงานทางการเงินของบริษัทแล้ว
ความท้าทายของไทยประกันชีวิตในการดำเนินตามมาตรฐาน IFRS 17
ไทยประกันชีวิตในฐานะบริษัทประกันชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ พ.ศ.2485 คืออีกหนึ่งองค์กรที่ได้รับผลกระทบที่จะต้องดำเนินการจัดทำรายงานทางการเงินให้เป็นไปตามมาตรฐาน IFRS 17 เช่นกัน ซึ่งด้วยองค์กรที่ก่อตั้งมาอย่างยาวนาน การปรับเปลี่ยนให้เป็นไปตามมาตรฐานใหม่จึงมีความท้าทายอยู่มากทีเดียว
“ผมมองว่า IFRS 17 จะเพิ่มความซับซ้อนให้กับระบบรายงานการเงินของบริษัท ดังนั้นความท้าทายหลักคือ การปรับปรุงระบบให้ครอบคลุมทุกขั้นตอน นอกจากนี้ บุคลากรภายในยังจำเป็นต้องมีทักษะ พร้อมเข้ามาดูแลระบบรายงานการเงินตลอดทั้งกระบวนการ” Mr. Hsi-Ling Yang, Chief Actuary แห่งบริษัทไทยประกันชีวิต กล่าว
เพราะ IFRS 17 นั้นเป็นมาตรฐานใหม่ที่เพิ่งออกมาไม่นาน และทางผู้กำหนดมาตรฐานได้ให้เวลาในการดำเนินการไม่นานมากนัก ความท้าทายจึงมีทั้งเรื่องการปรับปรุงระบบให้ครอบคลุม การยกระดับทักษะของบุคลากรให้สามารถจัดการได้ทุกกระบวนการ และที่สำคัญคือเรื่องของข้อมูลเพื่อให้สามารถดำเนินการตามมาตรฐานได้อย่างต่อเนื่องด้วย
SAS Solution for IFRS 17 พร้อมตอบโจทย์มาตรฐานธุรกิจประกันภัย
เนื่องจากความท้าทายในการดำเนินตาม IFRS 17 นั้นมีหลากหลายส่วน ในท้องตลาดจึงมีเครื่องมือให้เลือกใช้งานเพื่อสนับสนุนการทำตามมาตรฐานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และหนึ่งในนั้นคือ SAS Solution for IFRS 17 จาก SAS ผู้ให้บริการโซลูชัน Data และ AI ระดับโลกที่มีเครื่องมือทางสถิติมากมายที่สนับสนุนการวิเคราะห์ข้อมูลได้ในหลากหลายอุตสาหกรรม
โดย SAS Solution for IFRS 17 เป็นเครื่องมือที่ทาง SAS สร้างขึ้นมาเพื่อสนับสนุนองค์กรในอุตสาหกรรมประกันภัยให้สามารถดำเนินการตามมาตรฐาน IFRS 17 โดยเฉพาะ ตั้งแต่การจัดเตรียมข้อมูล วิเคราะห์ ไปจนถึงการจัดทำรายงานทางการเงินที่สามารถบอกได้ถึงความเสี่ยงและผลกำไรขององค์กรภายในมุมมองที่ครอบคลุม
ภายในโซลูชันจาก SAS นี้มีฟีเจอร์ที่พร้อมสนับสนุนเพื่อตอบโจทย์มาตรฐาน IFRS 17 อย่างครบครัน ที่ทำให้องค์กรสามารถบริหารจัดการ ตรวจสอบ (Audit) และติดตามทุกในทุกขั้นตอน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของ IFRS 17 อาทิ
- การดำเนินการพัฒนาเป็นเฟสตาม Best Practices ในอุตสาหกรรมประกันภัย ตั้งแต่การเตรียมข้อมูล ตรวจสอบ คำนวณ และการออกรายงาน เป็นต้น
- เทมเพลต (Template) สำหรับการควบคุมคุณภาพข้อมูล จัดกลุ่มสัญญาต่าง ๆ
- การบริหารจัดการข้อมูล การรวมศูนย์ Metadata ทำความสะอาดข้อมูล ทำ ETL เชื่อมโยงแหล่งข้อมูลและแปลงข้อมูล จนกระทั่งสร้างแบบจำลองข้อมูล (Data Model)
- การคำนวณ CMS ทั้งสำหรับกลุ่มการรับประกันภัยโดยตรง (Direct Insurance) และกลุ่มสัญญาประกันภัยต่อ (Re-Insurance)
- การออกรายงานทางการเงินตามมาตรฐาน IFRS 17 ต่าง ๆ ในหลากหลายรูปแบบ เช่น XLS, XML หรือ CSV พร้อมรายละเอียดที่สามารถเจาะลึกย้อนกลับไปที่แหล่งข้อมูลได้
สำหรับรายละเอียดฟีเจอร์ของ SAS Solution for IFRS 17 สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ไทยประกันชีวิตเลือกใช้โซลูชัน SAS Solution for IFRS 17
เพราะการดำเนินการตาม IFRS 17 จะต้องใช้เวลาและมีขั้นตอนมากมายระหว่างทาง จึงทำให้บริษัทไทยประกันชีวิตเลือกใช้โซลูชัน SAS Solution for IFRS 17 เพื่อให้องค์กรสามารถดำเนินการมาตรฐาน IFRS 17 ได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นและครอบคลุมตามความต้องการที่กำหนดไว้
“การคำนวณหนี้สินสัญญาประกันภัย จำเป็นต้องพิจารณาความแตกต่างระหว่างกระแสเงินสดจริงกับกระแสเงินสดคาดการณ์ ซึ่งระบบ SAS มีโซลูช้นครอบคลุมที่ช่วยให้เราเปรียบเทียบข้อมูลเหล่านี้ได้” Mr. Hsi-Ling Yang กล่าว
นอกจากนี้ ไทยประกันชีวิตยังมีแผนที่จะนำใช้งานโซลูชันเพื่อมาวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินของธุรกิจเพิ่มเติม โดยเตรียมที่จะจัดเก็บข้อมูลของบริษัทไว้ที่ SAS เพื่อใช้ประโยชน์ในการค้นหาข้อมูลเชิงลึกจากข้อมูลองค์กรที่มีในอนาคตอันใกล้นี้อีกด้วย
“SAS ยังสามารถจัดเก็บข้อมูลทางการเงินปริมาณมากไว้ในระบบได้ด้วย ดังนั้น เราจึงวางแผนนำระบบและโซลูชันดังกล่าว มาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินเพิ่มเติม โดยมีตัวอย่างการใช้งานที่หลากหลาย เช่น การบริหารความเสี่ยง การวางแผนธุรกิจ และการสร้างโมเดลวิเคราะห์เชิงคาดการณ์” Mr. Hsi-Ling Yang กล่าวเสริม
ผลลัพธ์หลังการใช้งานโซลูชัน SAS Solution for IFRS 17
หลังจากไทยประกันชีวิตได้ปรับใช้โซลูชัน SAS เพื่อดำเนินการตาม IFRS 17 ได้สำเร็จ นอกจากจะส่งผลให้บริษัทสามารถจัดทำรายงานทางการเงินได้เป็นไปตามมาตรฐานแล้ว ยังส่งผลให้สามารถประเมิลผลการดำเนินงานตามมาตรฐานสากลได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งทำให้องค์กรเข้าใจในผลิตภัณฑ์และบริการที่มีอยู่ได้มากขึ้นกว่าเดิม และในอนาคตยังจะสามารถนำเสนอบริการใหม่ ๆ ให้ตรงกับความต้องการได้ดียิ่งขึ้นด้วย
“ระบบ SAS มีเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบริษัท ที่มุ่งสู่การเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล เราจะสามารถนำข้อมูลนั้นไปใช้ประโยชน์ ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ รวมถึงตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้” Mr.Michael, Heang Ly, Senior Executive Vice President and Chief Financial Officer แห่งไทยประกันชีวิต
เพราะ SAS Solution for IFRS 17 มีเครื่องมือในการบริหารจัดการและใช้ประโยชน์ข้อมูลที่หลากหลาย จึงทำให้นอกจากปฏิบัติตามมาตรฐานได้อย่างรวดเร็วขึ้นแล้ว ยังทำให้ไทยประกันชีวิตสามารถขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุดมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังทำให้องค์กรมีความยั่งยืนมากขึ้นและอาจค้นพบโอกาสใหม่ ๆ ทางธุรกิจได้มากขึ้นด้วย
Yip In Tsoi สนับสนุนไทยประกันชีวิต ทำตาม IFRS 17 ได้เสร็จก่อนกำหนด
เพราะการดำเนินการตาม IFRS 17 นั้นต้องอาศัยทักษะทางเทคนิคเป็นอย่างมากด้วย ซึ่งนอกจากเข้าใจในตัวข้อมูลแล้ว ยังจำเป็นจะต้องเข้าใจวิธีการใช้งานระบบ SAS Solution for IFRS 17 เพื่อให้สามารถจัดทำรายงานได้สอดคล้องกับมาตรฐานที่ถูกต้อง ซึ่งนอกจากด้วยขีดความสามารถของระบบ SAS แล้ว อีกกุญแจสำคัญของความสำเร็จของไทยประกันชีวิตครั้งนี้คือ Yip In Tsoi
เพราะ Yip In Tsoi คือผู้สนับสนุนเชิงเทคนิคต่าง ๆ ใหักบทางไทยประกันชีวิตอย่างครอบคุลมจนทำให้บริษัทไทยประกันชีวิตสามารถสร้างรายงานทางการเงินที่สอดคล้องมาตรฐาน IFRS 17 ได้สำเร็จ “เร็วกว่าที่กำหนดเวลาบังคับใช้” และทำให้บริษัทสามารถเริ่มต้นวิเคราะห์ตัวเลขทางการเงินได้ทันที อันส่งผลให้ไทยประกันชีวิตเข้าใจผลลัพธ์ทางการเงินตามมาตรฐานได้เร็วกว่าอีกหลาย ๆ แห่งในอุตสาหกรรม
“ในระหว่างกระบวนการนี้ Yip In Tsoi ได้ให้ความช่วยเหลือที่ครอบคลุมอย่างมาก ช่วยเชื่อมโยงความรู้ทางเทคนิคและโซลูชันด้านระบบได้เป็นอย่างดี จึงทำให้โซลูชันระบบอ่ยาง SAS เชื่อมโยงเข้ากับความรู้ความเข้าใจของเราได้อย่างแท้จริง สามารถนำมาตรฐาน IFRS 17 มาใช้ได้ทันตามกำหนด” Mr. Hsi-Ling Yang กล่าว
“เราขอชื่นชม SAS และ Yip In Tsoi ในฐานะพาร์ตเนอร์ที่ยอดเยี่ยมในการสนับสนุนการนำมาตรฐาน IFRS 17 มาใช้ในบริษัท เรารู้สึกขอบคุณจริง ๆ ที่ช่วยให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จ และสามารถนำไปใช้ได้จริงก่อนกำหนด” Mr.Michael กล่าวเสริม
Yip In Tsoi พร้อมสนับสนุน SAS Solution for IFRS 17 สำหรับธุรกิจประกันภัย
ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวความสำเร็จของบริษัทไทยประกันชีวิตสามารถตอบโจทย์มาตรฐานรายงานการเงินได้สำเร็จก่อนบังคับใช้จริง ผ่านโซลูชัน SAS Solution for IFRS 17 จาก Yip In Tsoi ซึ่งนอกจากจะทำให้บริษัททำรายงานได้ตามมาตรฐานสากลแล้ว ยังสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูล ที่ทำให้องค์กรขับเคลื่อนด้วยข้อมูล เข้าใจในบริการและผลิตภัณฑ์ตัวเองมากขึ้น และยังทำให้สามารถสร้างสรรค์บริการใหม่ ๆ ที่ตรงความต้องการได้มากขึ้นอีกด้วย
หากองค์รใดสนใจผลิตภัณฑ์หรือโซลูชันของ SAS หรือกำลังมองหาที่ปรึกษาด้านการวิเคราะห์ข้อมูล หรือต้องการดำเนินการตามมาตรฐาน IFRS 17 อยู่ สามารถติดต่อทีมงาน SAS ประเทศไทยที่เบอร์โทร 02-091 6811 หรืออีเมล thl.marketing@sas.com หรือติดต่อ บริษัท ยิบอินซอย จำกัด ได้ที่เบอร์โทร 02-353-8600 ต่อ 3210 หรือ 8432 หรือผ่านทางอีเมล yipmkt@yipintsoi.com