ดูแลรักษาและบริหารจัดการ Network และ IT Infrastructure จากศูนย์กลางอย่างครบวงจร ด้วย NetkaView Network Manager X (NNMX)

การเกิดขึ้นของเทคโนโลยีใหม่ๆ ในโลก IT อย่างรวดเร็วนั้น ทำให้ทุกภาคส่วนของการทำงานภายในธุรกิจองค์กรแต่ละแห่ง จำเป็นต้องอาศัยเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มศักยภาพในการดำเนินงาน และมีขีดความสามารถในการแข่งขันที่เหนือกว่า ด้วยการเร่งประยุกต์นำเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เหมาะสมต่อการดำเนินงานมาใช้ให้ได้อย่างรวดเร็ว

การที่ธุรกิจองค์กรแต่ละแห่งต้องใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ มากขึ้นในแต่ละวัน ยิ่งทวีความสำคัญของการเชื่อมต่อ Network ที่มีประสิทธิภาพและคุณภาพมากยิ่งขึ้น การดูแลรักษาและบริหารจัดการระบบเครือข่ายและระบบ IT Infrastructure จึงกลายเป็นหน้าที่สำคัญของฝ่าย IT ที่จะช่วยส่งมอบประสบการณ์ในการทำงานที่ดีอย่างต่อเนื่อง ให้ทุกการทำงานเป็นไปได้อย่างต่อเนื่องและลื่นไหลในทุกๆ วัน

NetkaView Network Manager X หรือ NNMX เป็นโซลูชันที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อกรณีนี้โดยเฉพาะ และรองรับการใช้งานได้สำหรับระบบเครือข่ายและ IT Infrastructure ในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นระบบเครือข่ายทั่วไปภายในองค์กร, ระบบเครือข่ายสำหรับกล้องวงจรปิดและ IoT, ระบบเครือข่ายและ IT สำหรับ Data Center ไปจนถึงระบบเครือข่ายในรูปแบบอื่นๆ ด้วยความยืดหยุ่นของโซลูชันที่ถูกออกแบบเอาไว้

ในบทความนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับ NetkaView Network Manager X และกรณีการใช้งานที่การดูแลรักษาระบบเครือข่ายจะสร้างคุณค่าให้กับธุรกิจได้อย่างคุ้มค่ากันครับ

แม้ว่าระบบ Monitoring & Management จะถือเป็นระบบพื้นฐานสำหรับการดูแลรักษาบริหารจัดการระบบ IT และ Network ภายในองค์กร แต่กรณีการใช้งานที่แตกต่างก็ย่อมนำมาซึ่งความคุ้มค่าในระดับที่ต่างกันออกไป โดยตัวอย่างของระบบ IT และ Network ที่จะได้รับความคุ้มค่าสูงเป็นพิเศษเมื่อใช้งาน IT Infrastructure Management และต้องให้ความสำคัญกับระบบดังกล่าวเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ชัดเจนทางธุรกิจ มีดังนี้

1. ระบบเครือข่ายสำหรับ Hybrid Workplace ที่ต้องให้ความสำคัญต่อประสบการณ์ของผู้ใช้งาน และความมั่นคงทนทานของระบบ

เมื่อแนวโน้มของการทำงานได้ถูกเปลี่ยนไปสู่การทำงานแบบ Hybrid Workplace กันทั่วโลก ระบบเครือข่ายขององค์กรก็ไม่ได้มีเพียงแค่ WAN, LAN และ Wireless LAN อีกต่อไป แต่ยังมีระบบเครือข่ายที่เชื่อมต่อจากผู้ใช้งานภายนอกเข้ามาสู่ภายในองค์กรผ่านเทคโนโลยี VPN ด้วย

ความท้าทายของการใช้ VPN นั้นก็คือการดูแลรักษาระบบเครือข่ายให้มีประสิทธิภาพสูง และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้ใช้งานที่เชื่อมต่อผ่าน VPN เข้ามา ในขณะที่ความมั่นคงทนทานของระบบ VPN เองก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจสามารถเดินหน้าไปได้อย่างต่อเนื่องเช่นกัน

ด้วยเหตุนี้ ระบบ IT Infrastructure Monitoring & Management ที่สามารถตรวจสอบการทำงานของ Network ได้อย่างครอบคลุมทั้งในส่วนของ WAN, LAN, Wireless LAN และ VPN จึงมีความสำคัญสูงขึ้นกว่าในอดีต เพื่อให้ธุรกิจสามารถส่งมอบประสบการณ์ที่ดีในการทำงานแบบ Hybrid Workplace แก่ผู้บริหารและพนักงานได้อย่างครอบคลุม ในขณะที่ยังเป็นตัวช่วยในการตรวจสอบแก้ไขปัญหาให้กับการเลือกใช้งานโซลูชันใหม่ๆ ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น Wi-Fi 7, SD-WAN หรือ SASE ก็ตาม

2. ระบบเครือข่ายที่ประกอบไปด้วยอุปกรณ์ Network และอุปกรณ์อื่นๆ หลากหลายยี่ห้อ

หากใครอยู่ในวงการ Network มานานกว่า 10 ปี อาจจะพอคุ้นเคยกับโซลูชันของการทำ IT Infrastructure Management และ Network Management ที่สามารถบริหารจัดการอุปกรณ์ IT และ Network ข้ามยี่ห้อได้ แต่ในทุกวันนี้ โซลูชันในรูปแบบนี้ก็เริ่มมีจำนวนน้อยลงเรื่อยๆ จากการที่ผู้พัฒนาโซลูชันด้าน IT Infrastructure นั้นเริ่มพัฒนาระบบบริหารจัดการและติดตามการทำงานให้เป็นระบบปิดมากขึ้น

อย่างไรก็ดี คุณค่าของการที่ผู้ดูแลระบบ IT จะสามารถบริหารจัดการระบบ IT Infrastructure และ Network ที่ประกอบไปด้วยอุปกรณ์หลากหลายยี่ห้อนั้นก็ยังคงสูงอยู่ เพราะจะทำให้การบริหารจัดการดูแลรักษาระบบ IT มีความสะดวก รวดเร็ว และง่ายดายยิ่งขึ้นจากการบริหารจัดการดูแลรักษาระบบทั้งหมดเบื้องต้นได้จากหน้าจอเดียว อีกทั้งยังไม่ติดปัญหา Vendor Lock-In จนทำให้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงระบบ IT Infrastructure ที่ใช้งานอยู่ในภายหลังได้ รวมถึงในอนาคต องค์กรยังสามารถต่อยอดจากระบบนี้สู่การทำ AIOps ได้อีกด้วย

ด้วยเหตุนี้ แนวทางดังกล่าวนี้จึงสามารถเร่งสร้างความคุ้มค่าในการลงทุนระบบ IT Infrastructure Monitoring & Management ได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวแก่องค์กร

3. ระบบเครือข่ายที่มีการใช้งานอุปกรณ์ IoT จำนวนมาก หลากหลายชนิด ซึ่งครอบคลุมพื้นที่อาคารขนาดใหญ่

อีกโจทย์หนึ่งซึ่งท้าทายเหล่าผู้ดูแลระบบ IT เป็นอย่างมากนั้นก็คือการดูแลรักษาบริหารจัดการระบบเครือข่ายและระบบ IT ที่มีอุปกรณ์ IoT จำนวนมากและหลากหลายชนิด ทำให้มีโอกาสที่จะเกิดปัญหาหลากหลายรูปแบบได้ในทุกๆ วัน ซึ่งปัจจุบันมักพบเห็นได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นภายในโรงงาน, ห้างสรรพสินค้า, โรงแรม, โรงพยาบาล หรือแม้แต่สนามบิน

แน่นอนว่าผู้พัฒนาเทคโนโลยีระบบ IoT แต่ละรายนั้นต่างก็มีระบบบริหารจัดการของตนเอง แต่ด้วยความหลากหลายของอุปกรณ์ IoT ที่มีการใช้งาน ก็ทำให้ผู้ดูแลระบบ IT นั้นต้องตรวจสอบระบบบริหารจัดการหลากหลายระบบมากขึ้นเรื่อยๆ จนไม่อาจตรวจสอบได้ไหว และส่งผลให้หลายระบบนั้นขาดการตรวจสอบดูแลรักษาที่ดี

ระบบ IT Infrastructure Management และ Network Management ที่สามารถตรวจสอบอุปกรณ์ IoT หลายชนิดได้จากศูนย์กลาง, รองรับอุปกรณ์จำนวนมากได้ รวมถึงสามารถปรับแต่งระบบให้ตรวจสอบการทำงานของอุปกรณ์ IoT ได้อย่างยืดหยุ่นจึงสามารถตอบโจทย์นี้ได้เป็นอย่างดี และสร้างความคุ้มค่าให้กับองค์กรได้จากการตรวจพบปัญหาและแก้ไขได้อย่างรวดเร็วยิ่งกว่าเดิม

4. ระบบเครือข่ายที่มีการติดตั้งอุปกรณ์ภายนอกอาคารจำนวนมาก

สืบเนื่องจากข้อก่อนหน้า ไม่เพียงแต่อุปกรณ์ IoT ภายในอาคารจะสร้างความท้าทายให้กับองค์กรเท่านั้น แต่ปัจจุบันนี้เรามีเทคโนโลยี IoT ใหม่ๆ มากมายที่สำหรับการติดตั้งใช้งานภายนอกอาคาร เช่น กล้องวงจรปิด, Wireless Access Point, 5G Mobile Router, Mobile SD-WAN Device, IoT Sensor หลากหลายรูปแบบ, Smart Device ต่างๆ, Edge Computing, EV Charger หรือแม้แต่ระบบ Solar Cell ก็ตาม ซึ่งระบบเหล่านี้ก็ได้มีการใช้งานในภาคธุรกิจองค์กรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

อุปกรณ์ IT และ IoT ที่ถูกติดตั้งอยู่ภายนอกอาคารเหล่านี้ มีความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายได้ง่ายกว่าอุปกรณ์ภายในอาคาร ทั้งด้วยปัจจัยจากอุณหภูมิ, ความชื้น, ฝุ่น, กระแสไฟฟ้าจากกรณีการเกิดฟ้าผ่า และอุบัติเหตุที่คาดไม่ถึง ทำให้การตรวจสอบติดตามการทำงานของอุปกรณ์เหล่านี้มีความจำเป็นอย่างมากในแง่ของการรักษา Availability โดยรวม

จะเห็นได้ว่ากรณีตัวอย่างเหล่านี้ แม้ทุกวันนี้หลายองค์กรอาจจะยังไม่เผชิญกับความท้าทายที่ได้กล่าวมาโดยตรง แต่ในอนาคตก็มีแนวโน้มจะต้องเผชิญได้เช่นกัน ทั้งจากการเติบโตของธุรกิจ, การทำ Digital Transformation ในรูปแบบต่างๆ ไปจนถึงการเปิดรับนำเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้งาน ดังนั้นการวางกลยุทธ์ด้านระบบ Monitoring & Management ให้กับ IT Infrastructure และ Network จึงควรต้องคำนึงเผื่ออนาคตเอาไว้ให้ดี

NNMX เป็นโซลูชันที่ Netka System พัฒนาต่อเนื่องมาเป็นเวลาหลายปี ด้วยการต่อยอดจากโจทย์ความต้องการของลูกค้า Netka ทั้งในไทยและต่างประเทศ จนเกิดเป็นโซลูชันที่มีความสามารถหลากหลาย ตอบโจทย์ธุรกิจได้จริง และมีความแตกต่างจากโซลูชัน Monitoring และ Management อื่นๆ เป็นอย่างมาก ด้วยความสามารถที่โดดเด่นดังต่อไปนี้

1. รองรับการตรวจสอบการทำงานและบริหารจัดการอุปกรณ์เครือข่ายและอุปกรณ์ IT หลายยี่ห้อร่วมกันได้ในหนึ่งเดียว

จุดเด่นแรกที่ทำให้ NNMX ยังคงได้รับการตอบรับที่ดีจากภาคธุรกิจองค์กรไทยและทั่วโลกนั้น ก็คือการเป็นหนึ่งในผู้พัฒนาโซลูชัน Unified IT Infrastructure Management ที่ยังรองรับการจัดการอุปกรณ์แบบ Multi-Vendor หรือบริหารจัดการอุปกรณ์จากผู้ผลิตหลายรายได้ในระบบเดียวจากศูนย์กลาง

NNMX นั้นรองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Network และ IT ได้ด้วย Protocol ที่หลากหลาย อีกทั้งยังสามารถสร้าง Custom Template ขึ้นมาเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่ระบบยังไม่เคยมี Template เอาไว้ให้ใช้ล่วงหน้าได้ ทำให้ไม่ว่าองค์กรจะใช้อุปกรณ์ Network หรือ IT ยี่ห้อใดก็ตาม ท้ายที่สุดเราแล้วก็สามารถเชื่อมต่อนำข้อมูลการทำงานของระบบนั้นๆ มาจัดเก็บ วิเคราะห์ แสดงผล และตอบสนองผ่าน NNMX ได้ทั้งสิ้น

ด้วยเหตุนี้ ทำให้ธุรกิจองค์กรจำนวนมากเลือกใช้ NNMX เป็นระบบ Monitoring & Management หลักขององค์กร เพื่อตรวจสอบการทำงานของระบบในภาพรวมและวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อทำการแจ้งเตือนโดยอัตโนมัติ โดยในระยะยาว ไม่ว่าองค์กรจะมีการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีที่ใช้งานไปอย่างไร NNMX ก็จะยังคงตอบโจทย์ต่อธุรกิจได้ และเป็นโซลูชันแรกเริ่มก่อนจะก้าวสู่ภาพของ AIOps ที่มีการนำข้อมูลจากอุปกรณ์ IT หลากหลายยี่ห้อมาวิเคราะห์ร่วมกัน ซึ่งเหนือกว่าความสามารถของระบบบริหารจัดการที่ผู้ผลิตแต่ละรายได้พัฒนาขึ้นมาสำหรับโซลูชันของตนเอง

2. ตรวจสอบและบริหารจัดการระบบ Network และ IT ร่วมกันด้วยแนวทาง FCAPS อย่างครบวงจรตามมาตรฐาน ITU-T M.3040 (TMN)

ด้วยความที่ลูกค้ารายแรกๆ ของ NMMX นั้นคือธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ทางทีมงานของ Netka จึงได้พัฒนาโซลูชันนี้โดยอ้างอิงตามมาตรฐาน ITU-T M.3040 (TMN) ซึ่งเป็นมาตรฐานสำหรับการจัดการอุปกรณ์ Network และ IT สำหรับอุตสาหกรรมโทรคมนาคมโดยเฉพาะ และนำมาประยุกต์ใช้เพื่อให้ธุรกิจองค์กรในอุตสาหกรรมอื่นๆ ได้ใช้งานด้วย

แนวทางดังกล่าวนี้จะอ้างอิงตามหลักการ FCAPS ซึ่งประกอบไปด้วยการบริหารจัดการ Fault, Configuration, Accounting, Performance และ Security อย่างครบวงจร ซึ่งล้วนเป็นแง่มุมของการบริหารจัดการทางด้าน IT ที่จำเป็นต่อการดำเนินงานของฝ่าย IT ทั้งสิ้น โดย NNMX นั้นรองรับการตรวจสอบและบริหารจัดการได้ทั้ง Internet, Router, Firewall, Switch, Wireless Access Point, VPN รวมถึงอุปกรณ์อื่นๆ ที่มี IP Address และเชื่อมต่อกับเครือข่ายขององค์กร พร้อมความสามารถในการรวบรวมตรวจสอบ Network Security Event, การทำ Anomaly Detection และการวิเคราะห์ค้นหาเหตุการณ์ที่ต้องสงสัยว่าจะเป็นภัยคุกคามในตัว

ความสามารถที่ครอบคลุมและรองรับการเชื่อมต่อต่อตรวจสอบบริหารจัดการอุปกรณ์ได้อย่างหลากหลายและเป็นมาตรฐานชัดเจนนี้เอง ทำให้ NNMX มีความโดดเด่น และช่วยให้ธุรกิจองค์กรหลายแห่งสามารถปรับกระบวนการการดูแลรักษาระบบ IT ให้มีข้อมูลและขั้นตอนอย่างเป็นระบบมากยิ่งขึ้น

3. ตรวจสอบและบริหารจัดการได้ถึงระบบ Cloud, Data Center และ PC

ไม่เพียงแต่ความสามารถในการบริหารจัดการด้านระบบเครือข่ายเท่านั้นแต่ NNMX ยังถูกพัฒนามาให้สามารถตรวจสอบข้อมูลการทำงานและบริหารจัดการอุปกรณ์อื่นๆ ภายในระบบเครือข่ายได้ทั้งในส่วนของ Cloud, Data Center และอุปกรณ์ PC

Dashboard

ในการตรวจสอบการทำงานของระบบต่างๆ ภายใน Cloud และ Data Center โซลูชัน NNMX สามารถเชื่อมต่อได้กับทั้งระดับของ VM, Container, Bare Metal Server โดยสามารถใช้งานได้กับระบบปฏิบยัติการชั้นนำทั้ง Windows, Linux, Unix, Solaris และอื่นๆ ในขณะที่การตรวจสอบและบริหารจัดการ Desktop นั้น NNMX มี Agent Software สำหรับ Windows ที่จะช่วยให้การบริหารจัดการหรือควบคุมระบบในเชิงลึก สามารถทำได้แบบ Remote ผ่าน NNMX ได้อย่างง่ายดาย

ความสามารถเหล่านี้ช่วยให้การใช้งาน NNMX เป็นไปได้อย่างครอบคลุมยิ่งขึ้น เพราะภายในระบบจะไม่ได้มีเพียงแต่ข้อมูลทางด้าน Network เท่านั้น แต่ยังมีข้อมูลของ Endpoint ทั้งในฝั่ง Cloud, Data Center และ PC ให้ตรวจสอบบริหารจัดการได้อีกด้วย

4. สามารถตรวจสอบการทำงานของอุปกรณ์ IoT ได้หลากหลาย และปรับแต่งเพิ่มเติม Profile สำหรับอุปกรณ์ IoT ที่ต้องการได้

อีกความสามารถหนึ่งที่ทำให้ NNMX ได้รับความไว้วางใจและใช้งานจริงในสนามบินระดับนานาชาติที่ต่างประเทศนั้น ก็คือความสามารถในการตรวจสอบการทำงานของอุปกรณ์ IoT นั่นเอง

Network Diagram

โจทย์ส่วนใหญ่ของธุรกิจที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ และมีการติดตั้งใช้งานอุปกรณ์ IoT อย่างเช่นกล้องวงจรปิด, ระบบ Access Control, อุปกรณ์ Smart Device และอุปกรณ์ Network จำนวนมากอย่างเช่นสนามบินนั้น ก็คือการที่ระบบ Monitoring & Management จะต้องรองรับการทำงานของอุปกรณ์ได้หลากหลายชนิด และสามารถปรับแต่ง Template ให้รองรับอุปกรณ์ใหม่ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่การแสดงผลรายงานต่างๆ ก็จะต้องอยู่ในรูปแบบที่เป็นมาตรฐาน ปรับแต่งได้ตามความต้องการ เพื่อให้มั่นใจว่าอุปกรณ์ทั้งหมดจะสามารถทำงานได้ต่อเนื่อง 24×7 และสามารถตรวจพบปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที โดยมีข้อมูลแวดล้อมครบถ้วนสำหรับการตรวจสอบแก้ไขปัญหา ซึ่งทั้งหมดนี้ NNMX สามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี

Customer Managgement

5. เสริม Cybersecurity และ Compliance ให้ระบบ Network และ IT อีกชั้น เพิ่มความมั่นคงปลอดภัยให้สูงยิ่งขึ้น

สิ่งสุดท้ายที่ช่วยตอกย้ำคุณค่าของ NNMX ในสายตาของธุรกิจองค์กรนั้น ก็คือความสามารถด้าน Network Security และ Compliance ที่มีอยู่ในโซลูชัน ซึ่งจะช่วยเสริมความมั่นใจให้กับธุรกิจองค์กรในการปกป้องระบบ IT Infrastructure สำคัญขององค์กรเพิ่มเติมจากโซลูชันอื่นๆ เช่น Firewall, SIEM, EDR หรือ SOC ที่มีการใช้งานอยู่ภายในองค์กรได้อีกชั้นหนึ่ง

NNMX Diagram

เนื่องจาก NNMX นั้นต้องมีการรวบรวมข้อมูลจากอุปกรณ์ IT หลากหลายเพื่อตรวจสอบการทำงานอยู่แล้ว ดังนั้น NNMX จึงมีฐานข้อมูลขนาดใหญ่สำหรับทำการวิเคราะห์หาเหตุการณ์ผิดปกติที่เกิดขึ้นในส่วนต่างๆ ของระบบเครือข่ายได้อยู่ตลอด และทำการแจ้งเตือนแก่ผู้ดูแลระบบ IT ได้ทันที รวมถึงยังสามารถกำหนด Compliance ที่ต้องการสอบวัดแก่ระบบ IT ที่ต้องการได้ โดยเมื่อนำข้อมูลเหล่านี้ไปประกอบกับการแจ้งเตือนหรือข้อมูลอื่นๆ ที่ได้รับจากระบบ Cybersecurity ที่องค์กรมีการใช้งานแล้ว ก็ทำให้ฝ่าย IT สามารถตรวจพบเหตุการณ์ด้านภัยคุกคามได้อย่างรวดเร็วและครอบคลุมยิ่งขึ้นกว่าเดิม

Report

สำหรับผู้ที่สนใจโซลูชัน NetkaView Network Manager X สามารถติดต่อทีมงาน Netka ได้ทันที หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ของ Netka ได้ที่ https://netkasystem.com/

About chatchai

Tech Writer แห่ง TechTalk Thai ที่สนใจในทุกนวัตกรรมและเทคโนโลยี

Check Also

Tenstorrent ระดมทุน 693 ล้านดอลลาร์ ท้าชน Nvidia

Tenstorrent สตาร์ทอัพผลิตชิป AI ที่ตั้งเป้าท้าชิง Nvidia ระดมทุนรอบ Series D นำโดย Samsung Securities และ AFW Partners ได้กว่า …

CEO Intel ประกาศลาออก ท่ามกลางความท้าทายด้านธุรกิจ Foundry

Pat Gelsinger ประกาศลาออกจากตำแหน่ง CEO ของ Intel หลังการประชุมกับคณะกรรมการบริษัทเกี่ยวกับการแข่งขันกับ Nvidia และการขยายธุรกิจ Foundry ที่ยังไม่เป็นไปตามเป้า