TechTalkThai ศูนย์รวมข่าว Enterprise IT ออนไลน์แห่งแรกในประเทศไทย
มีรายงานว่า Nvidia ยังไม่ยอมแพ้ต่อตลาดจีน และกำลังเร่งพัฒนาชิปปัญญาประดิษฐ์รุ่นใหม่ที่มีขุมพลังต่ำลง เพื่อวางจำหน่ายในราคาที่ถูกกว่ารุ่น H20 ซึ่งปัจจุบันถูกจำกัดการส่งออก
หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) รุ่นใหม่นี้จะถือเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยประมวลผล Blackwell รุ่นล่าสุดของ Nvidia แต่จะมีประสิทธิภาพต่ำกว่ารุ่นที่ผลิตสำหรับตลาดตะวันตกอย่างชัดเจน ตามรายงานของ Reuters ซึ่งเป็นผู้รายงานข่าวนี้เป็นเจ้าแรก ระบุว่า ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 6,500 ถึง 8,000 ดอลลาร์ ต่ำกว่าราคาของชิปรุ่น H20 ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 12,000 ดอลลาร์ และใช้สถาปัตยกรรมรุ่นเก่า
ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา Nvidia จำต้องยอมรับข้อจำกัดใหม่ที่ห้ามการส่งออก GPU รุ่น H20 ไปยังประเทศจีน โดยชิปรุ่นนี้ใช้สถาปัตยกรรม Hopper ของบริษัท และมีความสามารถใกล้เคียงกับผลิตภัณฑ์ H100 และ H200 ที่จำหน่ายให้กับบริษัทในสหรัฐฯ แต่มีแบนด์วิดท์ต่ำกว่าและความเร็วในการเชื่อมต่อช้ากว่า เดิมทีถูกออกแบบมาเพื่อให้สอดคล้องกับข้อจำกัดการส่งออกก่อนหน้า แต่ดูเหมือนว่าทางการสหรัฐฯ จะเห็นว่ารุ่น H20 ที่ย่อส่วนแล้วยังทรงพลังเกินไปสำหรับการส่งออกไปยังคู่แข่งรายใหญ่ในอุตสาหกรรม AI
การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นไม่นานหลังจากมีการเปิดเผยว่า DeepSeek สตาร์ทอัพที่พัฒนาโมเดลพื้นฐานซึ่งมีความสามารถด้านการให้เหตุผลเทียบเท่ากับโมเดลของ OpenAI และบริษัทในสหรัฐฯ รายอื่น ๆ ได้ใช้คลัสเตอร์ของชิปรุ่น H20 ในการพัฒนา
ราคาที่ต่ำกว่าของชิปรุ่นใหม่นี้สะท้อนถึงคุณสมบัติที่ต่ำลงและข้อกำหนดการผลิตที่ง่ายขึ้น ตามรายงานของ Reuters ที่อ้างอิงจากแหล่งข่าวนิรนาม 3 รายที่คุ้นเคยกับแผนของบริษัท โดยชิปจะใช้พื้นฐานจาก Nvidia RTX Pro 6000D ซึ่งเป็น GPU Blackwell ระดับเซิร์ฟเวอร์ และจะใช้หน่วยความจำ GDDR7 แบบทั่วไป แทนที่จะใช้หน่วยความจำแบนด์วิดท์สูงแบบที่ใช้ในชิปรุ่นอื่นของ Blackwell โดยอาจเริ่มเข้าสู่การผลิตได้เร็วสุดในเดือนมิถุนายน
ชิปรุ่นใหม่นี้จะไม่ใช้เทคโนโลยีการบรรจุชิประดับสูงสุดของ Taiwan Semiconductor Manufacturing Co. แบบ Chip-on-Wafer-on-Substrate แต่จะใช้กระบวนการที่เก่ากว่าแทน
โฆษกของ Nvidia ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับชิปรุ่นใหม่ แต่กล่าวว่าบริษัทยังอยู่ในระหว่างการประเมิน “ตัวเลือกที่มีจำกัด” สำหรับตลาดจีน “จนกว่าเราจะสรุปการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่และได้รับอนุมัติจากรัฐบาลสหรัฐฯ เราก็แทบจะหมดสิทธิ์เข้าถึงตลาดศูนย์ข้อมูลมูลค่า 50 พันล้านดอลลาร์ของจีน” โฆษกกล่าว
แม้จะเผชิญกับการคว่ำบาตร แต่จีนยังคงเป็นตลาดสำคัญของ Nvidia โดยคิดเป็น 13% ของรายได้ทั้งปีในปีงบประมาณที่ผ่านมา บริษัทถูกห้ามขายชิปรุ่นล้ำหน้าให้กับบริษัทจีนมาแล้วถึงสองครั้ง และในแต่ละครั้งก็ได้ตอบโต้ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีรุ่นต่ำลงสำหรับตลาดนี้
คู่แข่งรายใหญ่ที่สุดของ Nvidia ในตลาด GPU ของจีนคือ Huawei Technologies ซึ่งผลิตชิป Ascend 910B โดย Nori Chiou นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จาก White Oak Capital Partners ให้สัมภาษณ์กับ Reuters ว่า Huawei คาดว่าจะสามารถพัฒนาชิปรุ่นที่มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับของ Nvidia ภายในหนึ่งถึงสองปี อย่างไรก็ตาม Nvidia ยังมีข้อได้เปรียบเหนือคู่แข่ง ด้วยความสามารถของชิปในการรวมคลัสเตอร์ AI เข้ากับแพลตฟอร์ม CUDA
CUDA คือสถาปัตยกรรมการเขียนโปรแกรมที่ใช้ในการปรับแต่งแอปพลิเคชันและโมเดล AI สำหรับ GPU ของ Nvidia และเนื่องจากมีการใช้อย่างแพร่หลาย ทำให้นักพัฒนายังเลือกใช้ต่อไป
คำสั่งห้ามการส่งออกในเดือนเมษายนทำให้ Nvidia ต้องตัดมูลค่าสินค้าคงคลังทิ้งไปมากกว่า 5.5 พันล้านดอลลาร์ และ Jensen Huang ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท ยอมรับเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าบริษัทต้องสูญเสียยอดขายไปมากกว่า 15 พันล้านดอลลาร์
Huang เปิดเผยว่า Nvidia เคยพิจารณาพัฒนาชิป H20 เวอร์ชันที่ต่ำลงยิ่งกว่านี้เพื่อตอบสนองต่อข้อจำกัดล่าสุด แต่ในที่สุดพบว่าสถาปัตยกรรม Hopper รุ่นเก่านั้นไม่สามารถรองรับการปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมได้อีก
ข้อจำกัดใหม่ล่าสุดยังนำมาซึ่งเพดานใหม่สำหรับแบนด์วิดท์ของหน่วยความจำ GPU ซึ่งเป็นตัวชี้วัดความเร็วในการส่งข้อมูลระหว่างตัวประมวลผลกับระบบหน่วยความจำภายใน โดยแบนด์วิดท์ที่สูงกว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการประมวลผลงานของ AI ที่ต้องจัดการข้อมูลจำนวนมหาศาล
ที่มา: https://siliconangle.com/2025/05/26/report-nvidia-racing-develop-new-scaled-blackwell-gpus-china/
