NT Cloud Solutions เปิดมุมมองส่องความพร้อมไทย ผ่าน 4 Theme ใน Hype Cycle 2023 [Guest Post]

ตลอดช่วงระยะเวลาการเติบโตทางเทคโนโลยี ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม หรือวิฤตการณ์ต่าง ๆ เรามักจะได้พบกับวิวัฒนาการทางด้านนวัติกรรมที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตของประชากรโลก ตัวอย่างเช่น การมาถึงของปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence, AI) ที่สร้างประสบการณ์การใช้งานและเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคไปอย่างสิ้นเชิง หรือจะเป็นการพัฒนาการใช้งานของกลุ่มผู้พัฒนา (Developer Experience) ที่ช่วยให้การมีปฏิสัมพันธ์ ระหว่างมนุษย์และเครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนา เชื่อมโยงถึงกันได้มากขึ้น หรือแม้แต่การขยายขอบเขตการใช้งานคลาวด์ (Pervasive Cloud) ที่ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ถือว่าเป็นยุคการเติบโตของเทคโนโลยีเลยก็ว่าได้ และแน่นนอนว่า เรื่องของความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว (Security and Privacy) ยังคงเป็นที่กล่าวถึงและต้องได้รับการถ่วงดุลอย่างระมัดระวัง

วันนี้ NT Cloud Solutions ผู้ให้บริการด้าน Cloud, Data Center และ Big Data ชั้นนำของไทย พร้อมที่จะพาท่านเปิดมุมมองของไทย กับการมาของเทคโนโลยีทั้ง 4 Theme ที่อาจส่งผลต่อการใช้งานและโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจไปตลอดกาล

ธีมที่ 1: Generative AI

            ปัญญาประดิษฐ์ ถือเป็นเทคโนโลยีที่เพิ่มโอกาสให้แก่ธุรกิจสู่การเติบโตอย่างก้าวกระโดด สร้างความยั่งยืน และชูความแตกต่างให้เด่นชัดเหนือคู่แข่งทั่วไป หนึ่งในตัวอย่างคือ Generative AI ที่มีความสามารถในการประมวลผลจากชุดข้อมูลที่มีอยู่ ผ่านการคัดสรร และสังเคราะห์ข้อมูลด้วยอัลกอริทึมหลากหลาย ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวถือเป็นหนึ่งใน Emerging AI ในช่วงปีที่ผ่านมานี้ โดยจะมุ่งเน้นด้านการสร้างประสบการณ์หรือพัฒนาการใช้งานของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจสามารถยืนหยัดต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้ได้
           ตัวอย่างการใช้งาน Generative AI เช่น การสร้างเนื้อหาใหม่ ๆ กลยุทธ์และวิธีการดำเนินงานใหม่ งานออกแบบ หรือวิธีคิดใหม่ ๆ ซึ่งทั้งหมดล้วนพัฒนามาจากการเรียนรู้ของ AI ผ่านชุดข้อมูลขนาดใหญ่ ดังนั้นจึงถือว่าการใช้ Generative AI ส่งผลต่อการแข่งขันของธุรกิจอย่างลึกซึ้ง และคาดว่าจะเข้ามาผลต่อธุรกิจในช่วง 2 – 5 ปีหลังจากนี้อย่างแน่นอน สำหรับประเทศไทยนั้น ผู้นำด้านระบบ CRM อย่าง Saleforce ได้เปิดเผยสถิติพบว่า ผู้นำในองค์กรไอทีในไทยกว่า 92% เชื่อว่า Generative AI จะมีส่วนสำคัญในการต่อยอดและพัฒนาธุรกิจไทยให้ทัดเทียมกับสากล ดังนั้นในช่วงที่ธุรกิจเล็กใหญ่ ล้วนปรับตัวเข้าสู่ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น เราจึงต้องตระหนักถึงการมาถึงของเทคโนโลยีอย่างสำคัญ นอกเหนือจากนี้ ยังมี AI อื่น ๆ ที่น่าสนใจอีก เช่น

  • AI simulation  ซึ่งเป็นการรวมกันของ AI และการจำลองเข้าด้วยกันเพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมเสมือนจริงขึ้นมาได้เอง
  • Causal AI ใช้ AI เพื่อระบุสาเหตุและผลที่เกิดขึ้นได้อย่างแม่นยำมากกว่าการใช้เทคนิคทางสหสัมพันธ์หรือสถิติทั่วไป 
  • Graph data science (GDS) การพัฒนา AI ให้เรียนรู้กราฟและรูปแบบต่าง ๆ เพิ่มศักยภาพด้านการสร้างโมเดลดีขึ้น

ธีมที่ 2: Developer Experience

            การพัฒนาศักยภาพของนักพัฒนาในองค์กร หรือการสร้างเสริมประสบการณ์ที่หลากหลายให้แก่คนในองค์กรเพื่อให้ทัดเทียมกับการเติบโตของคนในอุตสาหกรรมและคู่แข่งทางธุรกิจ นั่นถือเป็นเรื่องที่ท้าทายและมีต้นทุนค่อนข้างสูง ดังนั้นการมาถึงของเทคโนโลยีหรือแนวคิดด้านการช่วยเหลือให้ผู้พัฒนาซอฟท์แวร์และนักพัฒนาโปรแกรม สามารถมีปฏิสัมพันธ์หรือเชื่อมโยงกับเครื่องมือที่ใช้งานอยู่เป็นประจำ จึงเข้ามามีส่วนอย่างยิ่งในการดึงดูดและรักษาเหล่านักพัฒนาฝีมือฉกาจ ให้ยังคงอยู่ในองค์กรของเราได้

            ดังนั้น Value stream management platform (VSMP) หรือการบริหารจัดการแพลตฟอร์มเพื่อการสร้างคุณค่าต่อคนในองค์กร โดยเฉพาะการพัฒนาประสบการณ์การใช้งานของนักพัฒนาให้ออกมาดีที่สุด จึงคู่ควรแก่การนำมาเป็นวาระที่ธุรกิจต้องคำนึงถึง ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงแบบ end-to-end ที่สอดคล้องกับการใช้งานของแต่ละธุรกิจ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้นนั่นเอง การทำ VSMP ยังช่วนให้องค์กรสามารถระบุและประเมินโอกาสในการพัฒนาซอฟท์แวร์ให้ออกมามีประสิทธิภาพในต้นทุนที่ควบคุมได้ง่ายขึ้น ซึ่งคาดว่าจะเข้ามามีบทบาทต่อธุรกิจไอทีในกระแสภายใน 2 – 5 ปีนี้อย่างแน่นอน ยังมีตัวอย่างอื่น ๆ ของการพัฒนาประสบการณ์ให้แก่ผู้พัฒนาอีกมากมาย เช่น

  • AI-augmented software engineering เป็นการใช้ AI และ NLP เพื่อช่วยวิศวกรและนักพัฒนาในการเขียนและสร้างโปรแกรมให้ง่ายขึ้น
  • API-centric SaaS เป็นการใช้ Cloud เพื่อออกแบบโปรแกรมอัตโนมัติ และสั่งการหรือตอบกลับตามเงื่อนไขของ API
  • GitOps เป็นการนำเอา closed-loop control system เพื่อการพัฒนา Cloud-native Application

ธีมที่ 3: Pervasive Cloud

            ปฏิเสธไม่ได้อีกแล้วว่า Cloud Computing หรือการใช้การประมวลผลผ่านระบบคลาวด์ ได้วิวัฒนาการและสร้างนวัตกรรมที่หลากหลายให้แก่ธุรกิจอย่างสูงในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา หรือโดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้งาน Cloud ที่นำการประมวลผลไปไว้ที่ Edge นั้น ช่วยทำให้การขยายการใช้งานเป็นไปได้อย่างง่ายดาย และตอบโจทย์การเติบโตของธุรกิจได้หลากหลายอีกด้วย หากธุรกิจต้องการสร้างจุดแข็งผ่านการใช้งานเทคโนโลยีคลาวด์ จะต้องพิจารณาการทำ Automated Operational Scaling หรือการปรับเปลี่ยนขนาดการใช้งานแบบอัตโนมัติ เพื่อให้สอดคล้องกับเครื่องมือหลาย ๆ อย่างบนคลาวด์ด้วย

            ในอุตสาหกรรมของ Cloud นั้นคือ การผสมผสานการใช้งานทั้งในระดับ IaaS, PaaS และ SaaS หรือการทำสิ่งที่เรียกว่า Pervasive Cloud นั่นเอง ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากการใช้งานเครื่องมือต่าง ๆ บนคลาวด์ได้อย่างไร้รอยต่อและช่วยปลดล็อคศักยภาพสูงสุดจากการใช้งานได้อีกด้วย ซึ่งเราเชื่อว่า ภายใน 5 – 10 ปีข้างหน้านี้ จะเกิดการเปลี่ยนแปลงจากการใช้งานคลาวด์แบบผสมผสานได้อย่างไร้รอยต่อ จนสามารถนำไปสู่การ Disruption ครั้งใหม่ได้ สำหรับในไทยนั้น การใช้ Cloud ถือว่าเติบโตมาตลอดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา และได้รับแรงขับเคลื่อนจากวิกฤตการณ์โรคระบาด ซึ่งส่งผลให้ธุรกิจต่างต้องปรับตัวและกระจายการดำเนินงานขึ้นสู่ระบบดิจิทัลมากขึ้นนั้นเอง สำหรับเทคโนโลยีการใช้งานคลาวด์ยังมีเพิ่มเติมอีกเช่น

  • Cloud sustainability เทรนด์การใช้ Cloud เพื่อตอบโจทย์ความยั่งยืนให้แก่ธุรกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม
  • Cloud-native  ซึ่งเป็นการใช้ Cloud ที่มีการคำนึงถึงลักษณะการใช้งานและการสั่งการทั้งหมดเกิดขึ้นบนคลาวด์เท่านั้น
  • Cloud-out to edge ถือเป็นสถาปัติยกรรมด้านคลาวด์ที่สร้างมาเพื่อให้บริการจัดการคลาวด์ได้แบบศูนย์รวม

ธีมที่ 4: Security and Privacy

            ในธีมนี้ เทคโนโลยีทางด้านความปลอดภัยและการรักษาความเป็นส่วนตัว จะมุ่งเน้นไปที่การสร้างความยืดหยุ่นระหว่างการรักษาความปลอดภัย (Security) และการรักษาความเป็นส่วนตัว (Privacy) โดยยึดมนุษย์หรือผู้ใช้งานเป็นศูนย์กลาง ด้วยหลักการนี้ จะช่วยให้องค์กรสามารถสร้างความน่าเชื่อถือและการรับรู้ถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการตัดสินใจของหลาย ๆ ส่วนงานได้

               ดังนั้น ทีมวิจัยด้านธุรกิจเทคโนโลยีระดับโลกอย่าง Gartner จึงได้ยกตัวอย่าง AI trust, risk and security management หรือ AI TRiSM ซึ่งเป็นกรณีตัวอย่างของหลักการเพื่อสร้างการจัดการการรักษาความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว และการสร้าง AI อย่างมีธรรมาภิบาล ยิ่งไปกว่านั้นหลักการนี้ยังช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ เป็นธรรม ความไว้วางใจ และประสิทธิภาพที่ดีในการใช้งานด้านข้อมูลของ AI อีกด้วย ซึ่งคาดการณ์ว่า ภายในระยะเวลา 2 – 5 ปีหลังจากนี้ จะมีการใช้งานเพื่อสร้างธรรมาภิบาลที่ดีแก่ AI ในกลุ่มธุรกิจไอทีขนาดใหญ่อย่างแน่นอน สำหรับไทยนั้น เราก็ได้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการสร้าง AI ที่มีธรรมาภิบาลบนรากฐานงานวิจัยที่สำคัญ และผ่านการร่วมมือจากสถาบันระดับนานาชาติมาแล้ว ซึ่งจะช่วยต่อยอดให้ไทย สามารถมีความพร้อมทางด้าน AI ทัดเทียมกับประเทศพัฒนาแล้วในไม่ช้า นอกเหนือจากหลักการในการบริหารจัดการ AI เพื่อความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวแล้ว ยังมีหัวข้ออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในธีมนี้อีก เช่น

  • Cybersecurity mesh architecture (CSMA), การรวมหลักการและแนวคิดทางด้านสถาปัตยกรรมการออกแบบระบบรักษาความปลอดภัยแบบกระจายการควยคุม ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการรักษาความปลอดภัยให้สูงขึ้น
  • Generative cybersecurity AI, ที่จะช่วยสร้างระบบรักษาความปลอดภัยที่สอดคล้องกับบริบทการใช้งานหรือกลยุทธ์ขององค์กร โดยอาศัยการเรียนรู้จากชุดข้อมูลขนาดใหญ่
  • Homomorphic encryption (HE), เป็นการใช้อัลกอริทึมเพื่อเข้ารหัสข้อมูลก่อนการส่งต่อเพื่อขจัดความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว

สำหรับสังคมไทย ยังมีการพัฒนาธุรกิจและการนำเอาเทคโนโลยีมาปรับใช้ ทั้งในองค์กรภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง บนโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยี Cloud, Data Center และ Big Data ซึ่งการเลือกใช้งานและผสมผสานเทคโนโลยีหลายอย่างเข้าด้วยกันนั้น จำเป็นต้องอาศัยผู้มีประสบการณ์และผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ปัญหา เพื่อให้คุณมั่นใจว่าทุกการใช้งานของ End-user จะสร้างประสบการณ์ที่ดีและมอบคุณค่าที่เหนือกว่าคู่แข่งได้อย่างแน่นอน ทีมผู้เชี่ยวชาญจาก NT Cloud Solutions ผู้ให้บริการด้าน Cloud, Data Center และ Big Data ชั้นนำของไทย ด้วยระบบโครงสร้างพื้นที่ฐานที่มั่นคงและปลอดภัย เราพร้อมดูแลทั้งในด้านบริการและการให้คำแนะนำอย่างมืออาชีพ เพื่อเป็นรากฐานของสังคมดิจิทัลไทยต่อไป

ที่มา: Gartner Hype Cycle (2023)

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการ NT Cloud Solutions ได้ที่เว็บไซต์ https://ntcloudsolutions.ntplc.co.th/
หรือสอบถามมาที่อีเมล ntcloud@ntplc.co.th เบอร์โทร 1888

#NT #โทรคมนาคมแห่งชาติ
#NationalTelecom #NextthroughTechnology
#สร้างอนาคตด้วยเทคโนโลยี #NTContactCenter1888
#NTCloudSolutions #NTCLOUD
#NTDATACENTER #NTBIGDATA

Source: https://www.gartner.com/en/articles/what-s-new-in-the-2023-gartner-hype-cycle-for-emerging-technologies

 

 

About Maylada

Check Also

รู้จัก GhostGPT แชทบอทของเหล่าร้าย ผู้ช่วยชั้นดีของแฮ็กเกอร์

โดยทั่วไปผู้คนมักคุ้นกับ ChatGPT เป็นอย่างดีแล้ว แต่อีกด้านหนึ่งเรามักได้ยินเรื่องที่ว่าแฮ็กเกอร์เองก็มี AI เพื่อช่วยในการโจมตีได้ แม้ตัว ChatGPT หรือ Generative AI ภาคปกติจะมีการป้องกันแค่ไหนก็ตามสุดท้ายแล้วในโลกที่เปิดกว้าง คนที่คิดร้ายก็มักจะหาทางได้เสมอ และ GhostGPT …

SAP ร่วมกับ Microsoft กระตุ้นลูกค้าเข้าสู่โครงการ RISE with SAP ผ่าน Azure

RISE with SAP เป็นแคมเปญส่งเสริมกระตุ้นให้ผู้ใช้งานเดินทางสู่ ERP บนเวอร์ชันคลาวด์ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า โดยประกาศล่าสุดแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือที่ Microsoft และ SAP มีร่วมกันเพื่อสนับสนุนลูกค้าที่สนใจใช้โครงสร้างพื้นฐานของ Microsoft Azure