Intel ชี้ โลกเข้าสู่ยุค Data-Centric Era เผยเทคโนโลยีใหม่เตรียมรุกปี 2019 – 2020

ในงานสัมมนา Intel Data-Centric Innovation Summit ทาง Intel ได้ออกมาเผยถึงเทคโนโลยีและแนวโน้มใหม่ๆ สำหรับปี 2019 – 2020 ที่น่าสนใจดังนี้

 

Credit: Intel

 

  • เมื่อปี 2017 Intel มียอดขายของ Intel Xeon ในตลาด AI แล้ว 1,000 ล้านเหรียญ และคาดว่าในปี 2022 ตลาดนี้จะมีมูลค่ามากถึง 200,000 ล้านเหรียญเลยทีเดียว
  • 90% ของข้อมูลในปัจจุบันนี้ถูกสร้างขึ้นมาภายในเวลาเพียงแค่ 2 ปีที่ผ่านมา และในปี 2025 ข้อมูลจะมีเพิ่มขึ้นอีกหลายสิบเท่าจนมีขนาดรวม 163 Zettabyte
  • เทคโนโลยีในปัจจุบันสามารถนำข้อมูลเพียง 1% มาใช้งานได้จริงเท่านั้น ดังนั้นเทคโนโลยีด้านการประมวลผลจึงยังต้องการการพัฒนามากยิ่งขึ้นไปอีก
  • Intel มีการพัฒนาเทคโนโลยี Silicon Photonics เพื่อก้าวข้ามข้อจำกัดของการรับส่งข้อมูลด้วยกระแสไฟฟ้า ด้วยการใช้แสงเลเซอร์แทน ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการผลิตลง, ลดพลังงานที่ต้องใช้ลง และมี Banwidth ที่สูงขึ้น
  • Intel เปิดตัวผลิตภัณฑ์ SmartNIC ใหม่ภายใต้ชื่อ Cascade Glacier ที่ใช้ Intel Arria 10 FPGA สำหรับเร่งการประมวลผลด้านเครือข่ายและช่วยให้ Intel Xeon ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยสินค้าตัวอย่างจะถูกส่งให้ลูกค้าบางกลุ่มภายในต้นปี 2019
  • Intel วางเทคโนโลยี Intel Optane DC Persistent Memory เอาไว้เป็น Tier ใหม่ของหน่วยความจำและระบบจัดเก็บข้อมูล อยู่กึ่งกลางระหว่าง DRAM และ SSD โดยปัจจุบันในการทดสอบ Intel Optane DC Persistent Memory สามารถเพิ่มประสิทธิภาพให้ระบบวิเคราะห์ข้อมูลได้สูงสุดถึง 8 เท่า เมื่อเทียบกับระบบที่ใช้ DRAM เพียงอย่างเดียว
  • ปัจจุบัน Google, CERN, Huawei, SAP และ Tencent ได้เริ่มใช้งาน Intel Optane DC Persistent Memory แล้ว ส่วนการวางจำหน่ายในตลาดจะเกิดขึ้นในปี 2019 พร้อมกับ Intel Xeon รุ่นใหม่
  • Intel กำลังเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Intel QLC 3D NAND ในอนาคต โดยมี Tencent ได้ทดลองใช้งานเทคโนโลยีดังกล่าวแล้ว
  • ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2018 ที่ผ่านมา Intel ได้ขาย Intel Xeon Scalalbe Processor ไปแล้วมากกว่า 2 ล้านชุด และสัปดาห์แรกของไตรมาสที่ 3 ก็ขายไปแล้วมากกว่า 1 ล้านชุด
  • เทคโนโลยีประมวลผลทางด้าน AI ของ Intel พัฒนาไปอย่างรวดเร็วมาก โดยหากเทียบประสิทธิภาพย้อนไปถึงเมื่อปี 2014 ตอนนี้ Intel เร่งประสิทธิภาพการประมวลผลมาได้ 200 เท่าแล้ว
  • Intel Xeon Scalable Processor รุ่นถัดไปจะใช้ชื่อว่า Cascade Lake และใช้เทคโนโลยี 14nm โดยจะทำงานร่วมกับ Intel Optane DC Persistent Memory ได้ และมีความสามารถใหม่สำหรับประมวลผล AI โดยเฉพาะชื่อว่า Intel DL Boost ที่จะเร่งให้การทำ Inference สำหรับ Deep Learning เร็วขึ้นเป็นอย่างมาก เช่น การทำ Image Recognition จะเร็วขึ้นถึง 11 เท่า โดยมีแผนจะเปิดตัวภายในปลายปี 2018 นี้
  • ส่วน Intel Xeon Scalable Processor รุ่นถัดจากนั้นจะใช้ชื่อว่า Cooper Lake โดยจะยังคงใช้เทคโนโลยี 14nm และจะมีการเพิ่มเทคโนโลยีใหม่ๆ ทางด้านประสิทธิภาพ, รองรับ I/O แบบใหม่ๆ, เปิดตัว Intel DL Boost รุ่นใหม่ที่จะเร่งความเร็วในการทำ Training และเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ๆ สำหรับ Intel Optane DC Persistent Memory โดยมีแผนจะเปิดตัวในปี 2019
  • ส่วน Intel Xeon Scalable Processor รุ่นถัดจากนั้นไปอีกจะใช้ชื่อว่า Ice Lake โดยจะใช้เทคโนโลยี 10nm และสามารถทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มของ Cooper Lake ได้ โดยจะเปิดตัวในปี 2020
  • มีการเปิดตัว Intel Select Solutions ใหม่ 3 ด้าน ได้แก่ AI, Blockchain และ SAP HANA

 

ที่มา: https://newsroom.intel.com/editorials/data-centric-innovation-summit/

About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

ขอเชิญเข้าร่วม Sumo Logic Webinar: “AI-Powered SOC: การเปลี่ยนแปลงปฏิบัติการด้านความปลอดภัยด้วยระบบอัจฉริยะ” [9 เม.ย. 2025 – 13.30น.]

Sumo Logic ขอเรียนเชิญ CISO, Cybersecurity Manager, Cybersecurity Engineer, IT Administrator และผู้ที่สนใจทุกท่าน เข้าร่วมงาน Webinar ในหัวข้อ “AI-Powered SOC: การเปลี่ยนแปลงปฏิบัติการด้านความปลอดภัยด้วยระบบอัจฉริยะ” เพื่อเรียนรู้ถึงแนวทางในการทำ SecOps แห่งอนาคตที่ผสาน AI สู่ SOC เพื่อให้การตรวจจับและตรวจสอบภัยคุกคามมีความแม่นยำและง่ายดายยิ่งขึ้นกว่าเดิม และบริหารจัดการความมั่นคงปลอดภัยของระบบ IT สำคัญในองค์กรได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น ในวันที่ 9 เมษายน 2025 เวลา 13.30น. - 14.30น.

ยืนยันแล้ว Google เข้าซื้อกิจการ Wiz มูลค่า 32 พันล้านดอลลาร์

Google ยืนยันลงนามข้อตกลงซื้อกิจการ Wiz แพลตฟอร์มความปลอดภัยคลาวด์ชั้นนำมูลค่า 32 พันล้านดอลลาร์ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับโซลูชันด้านความปลอดภัยคลาวด์และขยายความสามารถด้าน Multicloud