Intel ได้ออกมาประกาศเปิดตัวระบบประมวลผลแบบ Neuromorphic System ที่มี Neuron มากถึง 8 ล้านชุดทำงานเลียนแบบการประมวลผลของสมองมนุษย์ ซึ่งเกิดขึ้นจากการนำ Intel Loihi 64 ชุดมาทำงานร่วมกัน เพื่อเร่งพลังประมวลผลเฉพาะทางให้สามารถทำงานได้เร็วกว่า CPU 1,000 เท่า และมีประสิทธิภาพสูงกว่าถึง 10,000 เท่า

ระบบนี้มีชื่อว่า Intel Pohoiki Beach โดยเป็นระบบประมวลผลที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อรองรับงานประมวลผลเฉพาะทางอย่างเช่นการทำ Sparse Coding, Graph Search และ Contraint-Satisfaction Problem ในงานวิจัยโดยเฉพาะ ซึ่งระบบประมวลผลนี้จะสามารถเรียนรู้และปรับปรุงแนวทางการประมวลผลของตนเองได้โดยอัตโนมัติตามรูปแบบของข้อมูลที่ต้องใช้ในการประมวลผล ในขณะที่ยังใช้พลังงานต่ำกว่า CPU เป็นอย่างมาก
หากเทียบกับเทคโนโลยี GPU แล้ว Intel Loihi ที่เป็นหัวใจเบื้องหลังโครงการนี้ สามารถทำ Deep Learning แบบ Real-time ได้ด้วยพลังงานที่ต่ำกว่าการใช้ GPU ถึง 109 เท่า และหากเทียบกับ IoT Inference Hardware อื่นๆ แล้วก็ยังใช้พลังงานต่ำกว่าถึง 5 เท่าเลยทีเดียว
สำหรับการนำเทคโนโลยีมาใช้งานในโลกจริงนั้น Intel ได้มีวิสัยทัศน์ในการนำระบบประมวลผลเหล่านี้มาใช้กับงานทางด้าน AI ภายใน Internet of Things (IoT) ที่ต้องการหน่วยประมวลผลประสิทธิภาพสูงที่ใช้พลังงานต่ำ ไม่ว่าจะเป็นการนำไปใช้ในระบบ Smart Home, Autonomous Vehicle หรือแม้แต่ Cybersecurity ก็ตาม
เป้าหมายของโครงการ Intel Pohoiki Beach นี้คือการขยายระบบให้สามารถสร้างระบบประมวลผลที่มี Neuron เกินกว่า 100 ล้านชุดภายในระบบเดียวให้ได้ภายในปี 2019 นี้