Huawei ร่วมงาน OpenStack Day Thailand 2018 เปิดตัว Public Cloud และ Private Cloud ด้วย OpenStack ในไทย

ในงาน OpenStack Day 2018 ที่จัดขึ้นในประเทศไทยเมื่อเดือนกันยายน 2018 ที่ผ่านมา ทาง Huawei ได้เข้าร่วมในงานสัมมนาครั้งนี้เพื่อเล่าถึงโซลูชันทางด้านบริการ Private Cloud และ Public Cloud ของตนเองที่ใช้ OpenStack เป็นเทคโนโลยีหลักในการพัฒนาต่อยอดขึ้นมา เพื่อให้เหล่าภาคธุรกิจและองค์กรในไทยได้นำไปใช้ได้อย่างมั่นใจ พร้อมทั้งประกาศเปิดตัวบริการและโซลูชันทั้งสองนี้ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการด้วย

 

สู่ยุค Cloud 2.0 ธุรกิจองค์กรคือตลาดหลักของบริการ Cloud

 

Credit: Huawei

 

Huawei ได้เริ่มต้นจากการเล่าถึงวิวัฒนาการของบริการ Cloud ทีได้เข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมากในการทำ Digital Transformation ของเหล่าธุรกิจองค์กรทั่วโลก ซึ่งนอกจากเหล่าธุรกิจชั้นนำในแต่ละอุตสาหกรรมจะนำหน้าไปก่อนแล้ว เหล่าธุรกิจทางด้านโทรคมนาคม, สื่อ, ธนาคารและการเงิน, ค้าปลีก ไปจนถึงยานยนต์ได้เริ่มก้าวนำเหล่าอุตสาหกรรมอื่นๆ ไป Huawei ก็ยังเห็นความเปลี่ยนแปลงในการใช้งานบริการ Cloud ของเหล่าธุรกิจองค์กรที่เห็นได้ชัด และตั้งชื่อให้กับแนวโน้มนี้ว่า Cloud 2.0

Cloud 1.0 นั้นคือยุคที่เหล่าผู้ให้บริการ Cloud ยังคงให้บริการ Infrastructure-as-a-Service หรือ IaaS เป็นหลักกันอยู่ และเหล่าธุรกิจองค์กรเองก็เริ่มต้นจากการเช่าใช้ VM บน Cloud กันเป็นหลัก แต่ในยุคปัจจุบันที่ก้าวเข้าสู่ Cloud 2.0 นี้ Huawei เล็งเห็นว่าเหล่าธุรกิจองค์กรเริ่มมีโครงการต่างๆ ที่ต้องใช้บริการ Cloud อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Big Data, AI, IoT, Blockchain, Container หรือ Microservices ก็ตาม และมีความต้งอการด้านการบริหารจัดการข้อมูล, การทำ Security Compliance และการย้ายระบบข้ามระหว่าง Data Center หรือข้ามบริการ Cloud กันอย่างเข้มข้นมากยิ่งขึ้น ทำให้การให้บริการเพียงแค่ระดับของ IaaS นั้นไม่เพียงพออีกต่อไปแล้ว แต่ต้องเป็นการให้บริการที่ตอบโจทย์เฉพาะทางในแต่ละโซลูชันได้เป็นอย่างดีด้วย

แน่นอนว่าการบริโภค Cloud นี้ก็จะยิ่งเติบโตมากยิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต โดย Huawei ได้วิเคราะห์ว่าภายในปี 2025 โซลูชันทางด้าน IT ขององค์กรนั้นจะทำงานอยู่บน Cloud เป็นหลัก และกว่า 85% ของ Application ในระดับองค์กรนั้นก็จะอยู่บนบริการ Cloud ด้วยเช่นกัน

สำหรับมุมมองในการพัฒนาประเทศไทยนั้น Huawei มองว่าหัวใจหลักมีด้วยกัน 4 ประการด้วยการอ้างอิงจากเอกสาร Insights on Digitization of Thailand Industry Whitepaper, 2017 ดังนี้

  • Broadband ระบบโครงข่ายที่จะเชื่อมโยงประชาชนทุกคนเข้ากับบริการต่างๆ
  • Cloud ระบบที่จะทำให้นวัตกรรมต่างๆ สามารถเป็นจริงขึ้นมาได้ และเพิ่มขยายเพื่อรองรับการเติบโตได้
  • Innovation นวัตกรรมจากภาครัฐ, ภาคเอกชน และประชาชนที่จะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยก้าวหน้าต่อไป
  • Human Capital ทรัพยากรบุคคลที่จะมาเป็นกำลังสำคัญในการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ให้เป็นจริงขึ้นมา

เพื่อเป้าหมายเหล่านี้ ประเด็นที่ประเทศไทยจะขาดไม่ได้เลยนั้นก็คือการพัฒนา Cloud Infrastructure ในประเทศ, การเริ่มต้นใช้บริการ Cloud มากขึ้นเรื่อยๆ และการรับประกันด้านความมั่นคงปลอดภัยของระบบ Cloud และข้อมูล ซึ่งทาง Huawei เองก็หวังจะเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญให้กับประเทศไทยในการพัฒนาครั้งนี้

 

วิสัยทัศน์ของ Huawei: ต่อยอดจาก OpenStack เพื่อให้บริการ Public Cloud และโซลูชัน Private Cloud ทำงานร่วมกันได้อย่างสมบูรณ์ เป็นมาตรฐาน และมั่นใจได้

 

Credit: Huawei

 

ในแง่ของเทคโนโลยี Cloud นั้น Huawei ใช้กลยุทธ์ในการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ ต่อยอดจาก OpenStack เป็นหลัก ร่วมกับการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาตัว OpenStack เพื่อให้การพัฒนาเทคโนโลยีเป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง และทำให้ OpenStack สามารถถูกนำมาใช้งานจริงได้ในระดับองค์กรได้อย่างมั่นใจ

นับตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา Huawei ก็ได้เข้าร่วม OpenStack Foundation และนำเสนอโซลูชัน Huawei FusionCloud ในตลาด Private Cloud ก่อนที่จะขยับขึ้นมาเป็น Gold Member ของโครงการ OpenStack ภายในปี 2013 และผลักดันโซลูชัน Huawei FusionSphere ที่ใช้ OpenStack เป็นหลักในปี 2015 จนเมื่อปี 2016 ทีมงานของ Huawei ก็ได้เข้าร่วมเป็น Board Director ของโครงการ OpenStack และเมื่อปี 2017 ที่ผ่านมานี้ Huawei ก็ได้กลายเป็น Platinum Member ของโครงการ OpenStack เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

Huawei นั้นผลักดัน OpenStack ทั้งจากการ Contribute เข้าร่วมพัฒนา Source Code ในโครงการ และการนำ OpenStack ไปใช้จริงตอบโจทย์ในอุตสาหกรรมทั้งในส่วนของ Public Cloud, Private Cloud และ Network Functions Virtualization Infrastructure (NFVI) ทำให้ OpenStack นั้นถูกใช้งานจริงในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดองค์กร และธุรกิจโทรคมนาคม

ความเป็น Open Source ของ OpenStack นี้ก็ทำให้ธุรกิจต่างๆ เองสามารถเปิดรับเทคโนโลยีไปใช้งานได้อย่างมั่นใจว่าจะไม่เกิดปัญหา Vendor Lock-in ในภายหลัง และการที่สามารถทำความเข้าใจการทำงานเชิงลึกของระบบ ไปจนถึงการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ ต่อยอดเพิ่มเองได้

อย่างไรก็ดี OpenStack นั้นเป็นเทคโนโลยีที่มุ่งเน้นการตอบโจทย์ด้าน IaaS เป็นหลัก ซึ่ง Huawei นั้นมองว่าการจะตอบโจทย์ Cloud 2.0 ให้ได้ การพัฒนาเทคโลยีและ Application ต่างๆ ต่อยอดจาก OpenStack ให้ได้นั้นถือเป็นก้าวที่สำคัญ ซึ่งนี่เองก็เป็นทิศทางของ Huawei ในปัจจุบันนี้ที่มีต่อตลาด Cloud

 

Huawei รุกตลาด Cloud ไทย ตั้ง Public Cloud Data Center ในไทย พร้อมนำเสนอโซลูชัน Private Cloud ในไทยไปพร้อมกัน

 

Credit: Huawei

 

ในงานสัมมนาครั้งนี้ Huawei เองก็ถือโอกาสในการเน้นย้ำเรื่องการเปิดตัว Cloud Data Center ในไทยที่บริเวณ EEC อีกครั้งหนึ่งหลังจากที่เคยเปิดตัวบริการ Huawei Cloud ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการมาแล้วในงาน Digital Thailand Big Bang 2018 เพื่อตอบรับต่อการเติบโตของธุรกิจไทยในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ต้องการใช้บริการ Cloud ที่มีความสามารถหลากหลาย ทั้ง AI, IoT, Big Data Analytics และสามารถรองรับการใช้งานเทคโนโลยีของ SAP ได้อีกด้วย

บริการ Huawei Cloud ที่มาเปิดให้บริการในไทยนี้จะเป็น Full-Stack Cloud Services ที่มีบริการมากมายให้ใช้งาน และจะค่อยๆ ต่อยอดเพิ่มเติมความสามารถใหม่ๆ ให้มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งนอกจากจะนำมาให้บริการเพื่อรองรับการทำ Smart City ในระดับของภาครัฐแล้ว ก็ยังพร้อมตอบรับต่อการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ในภาคเอกชน ด้วยข้อได้เปรียบที่เหนือกว่าบริการ Cloud ระดับโลกรายอื่นๆ ที่ Cloud Data Center ของ Huawei ตั้งอยู่ในประเทศไทย และจัดเก็บข้อมูลในประเทศไทยทั้งหมด ทำให้สามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็วด้วย Latency ที่ต่ำ และรองรับต่อข้อกำหนดต่างๆ ของทางภาครัฐได้เป็นอย่างดี

 

Credit: Huawei

 

Huawei ยังมีเป้าหมายในการนำบริการ Enterprise Intelligence (EI) ซึ่งเป็นระบบ AI สำหรับตอบโจทย์เฉพาะทางต่างๆ ที่ใช้งานและประสบความสำเร็จในการพัฒนาประเทศจีนมาแล้ว เพื่อมาถ่ายทอดและเปิดให้เหล่าภาครัฐและเอกชนในไทยได้ใช้งาน โดย Huawei เองก็มีความพร้อมที่จะปรับแต่งบริการเหล่านี้ให้เหมาะสมกับข้อมูลและความต้องการเฉพาะที่เกิดขึ้นในไทย ให้สอดคล้องกับการนำไปใช้งานจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

Credit: Huawei

 

ในขณะเดียวกัน Huawei เองก็ได้นำเสนอโซลูชัน Huawei FusionCloud ซึ่งเป็นระบบ Full Stack Private Cloud ที่ใช้ OpenStack เป็นแกนกลาง พร้อมทั้งนำความสามารถต่างๆ จาก Public Cloud เข้ามาเสริมการทำงานด้วย เพื่อให้ Platform ทั้ง Public Cloud และ Private Cloud มีความคล้ายคลึงกันมากที่สุด และสามารถทำงานร่วมกันเป็น Hybrid Cloud พร้อมทำ Migration หรือ Automation ระหว่างกันได้อย่างง่ายดาย ตอบโจทย์ได้ทั้ง Cloud-Native Application และการทำ Disaster Recovery (DR) ในตัว

 

Credit: Huawei

 

Credit: Huawei

 

ติดต่อทีมงาน Huawei ได้ทันที

สำหรับผู้ที่สนใจในโซลูชันด้านระบบ Cloud ของ Huawei สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือขอทดสอบระบบได้ทันทีที่โทร 02-095-8199 ต่อ 8788 หรืออีเมล cloudthailand@huawei.com

About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

Google เตรียมซื้อพลังงานนิวเคลียร์จากผู้พัฒนาเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาดเล็ก Kairos Power

Google ได้ทำข้อตกลงกับบริษัท Kairos Power เพื่อซื้อพลังงานนิวเคลียร์ขนาด 500 เมกะวัตต์จากเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาดเล็ก 7 เครื่อง มาใช้กับศูนย์ข้อมูลในสหรัฐอเมริกาภายในปี 2030

ขอเชิญร่วมงานสัมมนา 25 ปี ZyGen “ZyGen 25th Anniversary | Innovating the Better Future with Your Trustworthy Partner” 5พ.ย.67 I 08:00-17:00 น. แพลตฟอร์มออนไลน์ บน Virtual Space

ก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับนวัตกรรมและการพัฒนาที่จะช่วยผลักดันธุรกิจของท่านสู่ความสำเร็จในยุคดิจิทัล ด้วยเทคโนโลยีทันสมัย อาทิ ระบบ ERP เช่น SAP S/4HANA, SAP Business One การต่อยอดความสามารถในด้านการวิเคราะห์ Advanced Analytics ระบบอัตโนมัติ …