การนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับทั้งลูกค้าและพนักงานนั้นกลายเป็นแนวโน้มสำคัญของเหล่าธุรกิจองค์กรในปัจจุบันไปแล้ว และแน่นอนว่าในฐานะของผู้ดูแลระบบ IT การออกแบบระบบเครือข่ายให้สามารถตอบโจทย์ความหลากหลายของอุปกรณ์ที่จะนำมาใช้งานเชื่อมต่อเครือข่ายให้ได้อย่างยืดหยุ่นและปลอดภัยนั้นก็คือโจทย์ที่จะต้องตีให้แตก และ Aruba เองก็มีโซลูชัน Aruba Dynamic Segmentation สำหรับตอบโจทย์นี้โดยนเฉพาะเพื่อให้ภาคธุรกิจและองค์กรได้นำไปใช้ในการออกแบบระบบเครือข่ายของตนเองด้วยมุมมองใหม่ๆ กันแล้ว
Experience Edge: เมื่อการเชื่อมต่อเครือข่าย หมายถึงการส่งมอบประสบการณ์

Experience Edge นั้นคือแนวคิดที่ว่าเหล่าธุรกิจองค์กรต่างๆ นั้นได้นำนวัตกรรมที่หลากหลาย ทั้ง Internet of Things (IoT), Location Services, Mobile Engagement, Digital Assistant และอื่นๆ เข้าไปใช้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้กับลูกค้า หรือเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับพนักงาน ซึ่งไม่ว่าธุรกิจองค์กรนั้นจะนำนวัตกรรมใดเข้ามาประยุกต์ใช้ก็ตาม การเชื่อมต่อระบบเครือข่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นคงปลอดภัยนั้นก็ถือเป็นสิ่งสำคัญ และเป็นพื้นฐานที่จะทำให้นวัตกรรมต่างๆ สามารถถูกใช้งานและส่งมอบประสบการณ์ต่อไปได้อย่างดี
ไม่เพียงแต่การรองรับนวัตกรรมใหม่ๆ ได้เท่านั้น แต่ระบบเครือข่ายที่จะรองรับ Experience Edge ได้นี้จะต้องสามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างสะดวกและง่ายดาย เพื่อเปิดให้ธุรกิจองค์กรสามารถวางกลยุทธ์ใหม่ๆ และนำนวัตกรรมอื่นๆ เข้ามาเสริมได้อยู่ตลอด ในขณะที่ยังต้องให้บริการระบบเครือข่ายสำหรับนวัตกรรมก่อนหน้าไปได้อย่างต่อเนื่องด้วย
จากโจทย์เหล่านี้เอง ก็น่าจะทำให้ผู้อ่านเห็นภาพกันแล้วว่าการออกแบบเครือข่ายสำหรับ Experience Edge นี้ไม่ง่ายนัก ด้วยจำนวนเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะถูกเพิ่มเติมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับรูปแบบการใช้งานเชื่อมต่อเครือข่ายใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อนในอดีต ด้วยเหตุนี้เองระบบเครือข่ายที่ทั้งยืดหยุ่นและยังคงปลอดภัย จึงกลายเป็นคำตอบที่เหมาะสมที่สุดสำหรับโจทย์นี้
การเชื่อมต่อเครือข่ายที่หลากหลาย ทำให้ Security ต้องยืดหยุ่นกว่าเดิม
นวัตกรรมต่างๆ นั้นต่างก็ต้องการการเชื่อมต่อระบบเครือข่ายที่แตกต่างกันออกไป และทั้งการเชื่อมต่อเครือข่ายแบบมีสายและไร้สายเองนั้นก็จะยังคงเป็นรูปแบบที่จำเป็นต่อการเชื่อมต่ออุปกรณ์หรือนวัตกรรมต่างๆ เข้ากับระบบเครือข่ายของธุรกิจองค์กรต่อไปอีกยาวนาน โดยระบบเครือข่ายแบบมีสายนั้นก็มีจุดเด่นด้านความเสถียรในการเชื่อมต่อ, ความสามารถในการจ่ายพลังงานผ่าน PoE มาตรฐานต่างๆ ได้ และความเร็วที่ค่อนข้างสูง ในขณะที่ระบบเครือข่ายไร้สายเองนั้นก็มีจุดเด่นด้านความง่ายดายในการเชื่อมต่อ, ความสามารถในการเคลื่อนที่ของอุปกรณ์ที่นำมาเชื่อมต่อได้ และความเร็วที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ตามมาตรฐานที่ออกมาใหม่อย่างต่อเนื่อง
อุปกรณ์ที่หลากหลาย, พฤติกรรมการใช้งานที่หลากหลาย, วัตถุประสงค์ในการเชื่อมต่อเครือข่ายที่หลากหลาย และ Best Practice ที่แตกต่างกันของแต่ละอุปกรณ์หรือนวัตกรรมเหล่านี้ ทำให้ระบบเครือข่ายที่จะรองรับ Experience Edge นี้ต้องสามารถปรับแต่งการเชื่อมต่อได้อย่างยืดหยุ่น ในขณะที่การควบคุมด้านความมั่นคงปลอดภัยหรือ Security นั้นก็ไม่อาจละเลยไปได้ ซึ่ง Security ในที่นี้ก็ต้องมีความยืดหยุ่นสามารถปรับแต่งให้เหมาะสมกับความต้องการในการใช้งานและการเชื่อมต่อของแต่ละระบบได้เป็นอย่างดี โดยไม่สร้างความเสี่ยงให้กับอุปกรณ์หรือนวัตกรรมอื่นๆ ที่อยู่ในระบบเครือข่ายด้วยเช่นกัน
Aruba Dynamic Segmentation: แบ่ง Traffic การเชื่อมต่อเครือข่ายทั้งแบบมีสายและไร้สายด้วย Tunnel ทั้งหมด

หากใครเคยใช้งาน Aruba มาก่อนก็คงจะคุ้นชินกับแนวคิดด้านการทำ Tunnel จาก Wireless Access Point มายัง Wireless Controller กันเป็นอย่างดี ซึ่งวัตถุประสงค์ของการทำ Tunnel นี้ก็เพื่อลดความซับซ้อนในการออกแบบระบบเครือข่ายให้น้อยลง และสามารถควบคุมด้าน Security ของแต่ละการเชื่อมต่อได้อย่างรัดกุมมากยิ่งขึ้น
Aruba ได้นำแนวคิดนี้มาต่อยอดจนกลายเป็นโซลูชัน Aruba Dynamic Segmentation เพื่อรองรับระบบเครือข่ายสำหรับ Experience Edge โดยเฉพาะ ด้วยการเปิดให้อุปกรณ์ Switch นั้นสามารถทำ Tunnel เชื่อมต่อมายัง Wireless Controller และถูกควบคุม Traffic ได้จากศูนย์กลางด้วยเช่นกัน โดยรองรับทั้งการทำ Tunnel สำหรับระดับ Port และระดับ User ทำให้การออกแบบระบบเครือข่ายทั้งแบบมีสายและไร้สายสามารถเป็นไปได้ในทิศทางเดียวกันได้ทั้งหมด มีความยืดหยุ่นทั้งด้านการจัดการ Traffic ในเชิง Network และ Security ที่เทียบเท่ากัน เปิดให้เหล่าธุรกิจองค์กรสามารถเลือกนำอุปกรณ์หรือนวัตกรรมต่างๆ มาเชื่อมต่อได้ทั้งแบบมีสายและไร้สายได้ตามความเหมาะสมที่แตกต่างกันไป
นอกจากนี้ด้วยแนวคิดการทำ Tunnel นี้ ก็ทำให้ Aruba Dynamic Segmentation นี้สามารถแยก Traffic ของอุปกรณ์หรือนวัตกรรมแต่ละประเภทของออกจากกันได้ และควบคุมด้าน Security Policy สำหรับแต่ละอุปกรณ์หรือแต่ละนวัตกรรมได้อย่างง่ายดายจากศูนย์กลางทั้งหมด พร้อมเปลี่ยนแปลงได้ทันทีตามต้องการ ทำให้ง่ายต่อการออกแบบเครือข่ายเป็นอย่างมาก
โซลูชัน Aruba Dynamic Segmentation มีส่วนประกอบหลักๆ ดังต่อไปนี้
- Aruba Wireless Access Point สำหรับรองรับการเชื่อมต่อผ่านเครือข่ายไร้สายประสิทธิภาพสูง
- Aruba Access Switch สำหรับรองรับการเชื่อมต่อเครือข่ายมีสายด้วยความเร็วหลายระดับ พร้อมจ่ายพลังงานไฟฟ้าได้ผ่าน PoE
- Aruba Controller และ Aruba Gateway สำหรับรองรับการทำ Tunnel จาก Aruba Wireless Access Point และ Aruba Access Switch พร้อมควบคุม Traffic ได้จากศูนย์กลางทั้งในระดับของ Network และ Application
- Aruba ClearPass สำหรับสร้างนโยบายการยืนยันตัวตนและกำหนดสิทธิ์ให้กับผู้ใช้งาน, อุปกรณ์ และนวัตกรรมต่างๆ และทำการกำหนดสิทธิ์ในการเชื่อมต่อเครือข่ายให้แตกต่างกันออกไปได้โดยอัตโนมัติ เสริมความมั่นคงปลอดภัยให้กับระบบเครือข่ายอีกชั้นหนึ่ง ง่ายต่อการดูแลรักษาการทำงานของระบบเครือข่ายในภาพรวม
สนใจติดต่อ Aruba ได้ทันที
ผู้ที่สนใจโซลูชันระบบ Wireless LAN, LAN และ Security สำหรับองค์กร หรือต้องการทดสอบเทคโนโลยี AI สำหรับช่วยเหลือในการดูแลรักษาระบบเครือข่าย สามารถติดต่อทีมงาน Aruba ได้ทันทีที่ Email: aruba.th@hpe.com