Black Hat Asia 2023

[Guest Post] เอสเอพี แต่งตั้ง อาตุล ตูลี ขึ้นบริหารเอสเอพี อินโดไชน่า

(NYSE: SAP) เอสเอพี เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกาศแต่งตั้ง อาตุล ตูลี เป็นกรรมการผู้จัดการเอสเอพี ประจำภูมิภาคอินโดไชน่า ด้วยประสบการณ์กว่า 25 ปีในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ อาตุลจะรับผิดชอบด้านการบริหารและขยายธุรกิจของเอสเอพี อินโดไชน่า ครอบคลุมตลาด ประเทศไทย กัมพูชา เนปาล มัลดีฟส์และในอีกหลายประเทศ พร้อมทั้งสนับสนุนลูกค้าองค์กรในภูมิภาคก้าวสู่การเป็น อินเทลลิเจนท์ เอ็นเตอร์ไพรซ์

อาตุล ตูลี กรรมการผู้จัดการเอสเอพีประจำภูมิภาคอินโดไชน่า

 

อาตุล เข้ารับตำแหน่งรองประธานกรรมการและผู้อำนวยการฝ่ายประสบการณ์ลูกค้า เอสเอพี เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในปี 2562 โดยทำหน้าที่ส่งเสริมลูกค้าในการปรับตัวและสร้างผลสำเร็จทางธุรกิจ ผ่านการผลักดันให้เกิดการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน พร้อมทั้งนำเสนอการปรับใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในช่วง New Normal ที่ผ่านมา โดย อาตุล มีความเชี่ยวชาญในด้านซอฟต์แวร์เพื่อการบริหารจัดการ ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน การบริหารประสบการณ์ลูกค้า ตลอดจนการจัดการผลิตภาพของพนักงาน ทั้งนี้ ตลอด10 ปีที่ผ่านมา อาตุล มุ่งเน้นการทำงานเพื่อขับเคลื่อนด้านโซลูชั่นคลาวด์ สำหรับองค์กร เป็นสำคัญ

เวเรน่า เซียว ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการเอสเอพีประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า “เอสเอพี อินโดไชน่า คือ ฟันเฟืองหลักในการสร้างการเติบโตทางธุรกิจของเอสเอพี เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย เอสเอพี ยังคงมุ่งเน้นการให้บริการด้านโซลูชั่น ตลอดจนเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อช่วยให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายในการสร้างรากฐานแห่งการเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาว เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า จากประสบการณ์ที่คร่ำหวอดในแวดวงอุตสาหกรรมอย่างยาวนานและความเข้าใจถึงความหลากหลายของตลาดภูมิภาคอินโดไชน่าของ อาตุล จะมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการปรับตัวและนำมาซึ่งความสำเร็จทางธุรกิจของลูกค้าองค์กร”

อาตุล ตูลี กรรมการผู้จัดการเอสเอพีประจำภูมิภาคอินโดไชน่า กล่าวว่า “ภูมิภาคอินโดไชน่า เป็นภูมิภาคที่เปี่ยมไปด้วยโอกาสในการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ดังจะเห็นได้จากนโยบาย ไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาลไทย เพื่อส่งเสริมการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจดิจิทัลและยกระดับอุตสาหกรรมแห่งอนาคตของประเทศ รวมถึงการเริ่มทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ภาครัฐ ภาคสาธารณูปโภค และภาคการผลิต โดยเรามุ่งมั่นที่จะผลักดันลูกค้าและพาร์ทเนอร์ของเอสเอพีไปสู่ความก้าวหน้าและความสำเร็จในเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างเต็มกำลัง”

รายงานล่าสุดจาก ธนาคารโลก คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจไทยจะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นในช่วง 2 ปีข้างหน้า และจะมีอัตราการเติบโต 4% ในปี 2564 ซึ่งประเทศไทยกำลังเร่งปรับตัวสู่การเป็นอุตสาหกรรม 4.0 เพื่อการก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางแห่งระบบโลจิสติกส์ดิจิทัลที่มีความล้ำสมัย ขยายโอกาสใหม่ทางเศรษฐกิจจากโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก และการก้าวเข้าสู่ดินแดนแห่งการสื่อสารด้วยระบบ 5G ประกอบกับปัจจัยด้าน การปฎิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 จะมีส่วนสร้างให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงถึง 3.7 แสนล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2568 นอกจากนี้ ยังคาดว่า มูลค่าตลาดของ Internet of Things (IoT) ในประเทศไทยจะสูงถึง 65.74 พันล้านบาทภายในปี 2573 เพิ่มขึ้นจาก 3.6 พันล้านบาทในปี 2561 โดยมีผู้ขับเคลื่อนสำคัญ ได้แก่ ผู้บริโภค ภาคการผลิต ภาคการขนส่ง และโลจิสติกส์

เอสเอพี ได้ดำเนินธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มายาวนานกว่า 30 ปี และเข้าสู่ปีที่ 25 ในประเทศไทยเมื่อปี 2563 เพื่อฉลองก้าวที่สำคัญดังกล่าว เอสเอพี ประเทศไทย ได้มอบทุนการศึกษาให้แก่เยาวชนซึ่งขาดแคลนทุนทรัพย์ ที่ศึกษาในระดับอาชีวศึกษา ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (ICT) จำนวน 100 คน เป็นมูลค่า 25,000 เหรียญสหรัฐ หรือ 770,000 บาท ผ่านโครงการของมูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนา (มูลนิธิ EDF)

 

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ SAP News Center ติดตามเอสเอพีทางทวิตเตอร์ได้ที่ @sapnews

 

เกี่ยวกับ เอสเอพี (SAP)    

ในฐานะบริษัทที่ช่วยพลิกโฉมองค์กรลูกค้าสู่อินเทลลิเจนท์ เอ็นเตอร์ไพรซ์ เอสเอพี เป็นผู้นำตลาดซอฟต์แวร์แอปพลิเคชันระดับองค์กร ที่ได้ช่วยเหลือองค์กรขนาดต่างๆในทุกอุตสาหกรรมให้สามารถทำงานได้ดีขึ้น โดย 77% ของรายได้จากการทำธุรกรรมของโลกนั้นเกิดขึ้นบนระบบของเอสเอพี นอกจากนี้เทคโนโลยีแมชชีน เลิร์นนิ่ง อินเตอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ (IoT) และเทคโนโลยีการวิเคราะห์ขั้นสูงของเอสเอพี ช่วยเปลี่ยนธุรกิจของลูกค้าให้เป็นอินเทลลิเจนท์ เอ็นเตอร์ไพรซ์ เอสเอพีช่วยให้ผู้คนและองค์กรเข้าใจในธุรกิจอย่างลึกซึ้ง รวมถึงส่งเสริมการทำงานร่วมกันเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจ เราลดความซับซ้อนของเทคโนโลยีเพื่อให้องค์กรต่างๆ สามารถใช้ซอฟต์แวร์ของเราได้อย่างที่ต้องการและต่อเนื่อง ชุดแอปพลิเคชันและบริการครบวงจรของเอสเอพี ช่วยให้ลูกค้าธุรกิจและภาครัฐกว่า 25 อุตสาหกรรมทั่วโลก สามารถทำกำไร ปรับตัว และสร้างความแตกต่างได้ ด้วยเครือข่ายลูกค้าพาร์ทเนอร์ พนักงาน และผู้นำทางความคิดที่มีอยู่ทั่วโลก เอสเอพีช่วยให้โลกดำเนินงานได้ดีขึ้นและปรับปรุงชีวิตของผู้คน ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.sap.com

 

คำแถลงการณ์ใด ๆ ที่มีอยู่ในเอกสารฉบับนี้ซึ่งไม่ใช่ข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ เป็นแถลงการณ์คาดการณ์ล่วงหน้า ตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายปฏิรูปการฟ้องร้องการฟ้องร้องคดีหลักทรัพย์เอกชนของปีพ. ศ. 2538 คำต่างๆ เช่น “คาดการณ์” “เชื่อ” “ประมาณการณ์” “คาดว่า”, “ตั้งใจ” “อาจ” “ควร” และ “จะ” และสำนวนที่คล้ายคลึงกันที่เกี่ยวข้องกับเอสเอพี ถือเป็นการคาดการณ์ล่วงหน้า เอสเอพีไม่มีข้อผูกมัดในการเผยแพร่หรือแก้ไขแถลงการณ์ที่เป็นการคาดการณ์ล่วงหน้าใด ๆ ต่อสาธารณชน แถลงการณ์คาดการณ์ล่วงหน้าทั้งหมดขึ้นอยู่กับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนต่างๆที่อาจทำให้ผลลัพธ์ที่แท้จริงแตกต่างอย่างมากจากที่คาดการณ์ไว้ ปัจจัยที่อาจส่งผลกระทบต่อผลประกอบการทางการเงินในอนาคตของเอสเอพี จะถูกกล่าวถึงอย่างละเอียดยิ่งขึ้นในเอกสารที่ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) รวมถึงรายงานประจำปีล่าสุดของเอสเอพี ในแบบฟอร์ม 20-F ที่ยื่นต่อ SEC ผู้อ่านต้องได้รับการเตือนว่าอย่าให้เชื่อมั่นในแถลงการณ์เชิงคาดการณ์เหล่านี้เกินควร ซึ่งได้ระบุไว้ในวันที่พูดเท่านั้น
© 2020 SAP SE สงวนลิขสิทธิ์.
SAP และผลิตภัณฑ์และบริการของ SAP อื่น ๆ ที่กล่าวถึงในที่นี้รวมถึงโลโก้ที่เกี่ยวข้องเป็นเครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ SAP SE ในประเทศเยอรมนีและประเทศอื่น ๆ โปรดดู https://www.sap.com/copyright  สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องหมายการค้าและประกาศต่างๆ

 

สำหรับลูกค้าที่สนใจเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ เอสเอพี:

ศูนย์ลูกค้าทั่วโลก: +49 180 534-34-24


About Maylada

Check Also

Symphony เปิดตัวนวัตกรรมการเชื่อมต่อ Huawei Cloud ด้วยโซลูชัน Cloud Direct Connect

บริการวงจรเชื่อมต่อที่เหมาะกับการใช้งาน Cloud ของธุรกิจทุกประเภท ที่ต้องการความปลอดภัยและความรวดเร็วในการเชื่อมต่อไปยังผู้ให้บริการ Cloud ที่มากกว่าการเชื่อมต่อผ่านอินเทอร์เน็ตแบบปกติ เช่นธุรกิจธนาคารและสถาบันการเงิน ธุรกิจค้าปลีก หรือภาคการผลิต

เสริมแกร่งความมั่นคงปลอดภัยในที่ทำงานด้วยบริการไอทีฉลาดล้ำกว่าเคย

บทความโดย คุณธเนศ อังคศิริสรรพ ผู้จัดการทั่วไป ประจำภูมิภาคอินโดจีน เลอโนโว ด้วยรูปแบบการทำงานแบบไฮบริดและยืดหยุ่นในองค์กรหลายแห่ง บริษัทหลายแห่งต่างกำลังพยายามตอบสนองต่อความคาดหวังและลำดับความสำคัญของพนักงาน ฝั่งทีมไอทีเองก็ต้องรักษามาตรฐานการให้บริการจากทางไกลในระดับสูงเพื่อสนับสนุนให้พนักงานยังคงสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง การทำให้พนักงานมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลนั้น บริษัทจะต้องสร้างระบบไอทีที่แข็งแกร่งทนทานยิ่งขึ้นพร้อมกับคงไว้ซึ่งแนวทางใหม่ในการทำงาน  อย่างไรก็ตาม ความท้าทายคือ สภาพแวดล้อมการทำงานแบบไฮบริดในทุกวันนี้ทำให้การจัดการจากระยะไกลนั้นซับซ้อนยุ่งยาก ระบบการจัดการทรัพยากรรุ่นเก่ายิ่งทำให้ผู้ดูแลระบบไอทีจัดการงานและภัยคุกคามเชิงรุกได้ยากกว่าเดิม …