Imperva กับธุรกิจในประเทศไทย
Imperva ผู้นำตลาดเทคโนโลยีระดับโลกด้าน Application and Data Security เปิดเผยว่ากว่า 15 ปีที่ได้ทำตลาดและดูแลลูกค้าในประเทศไทยทุกภาคธุรกิจ มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นทั้งจำนวนของ Web Application และปริมาณ Traffic อ้างอิงจากตัวเลขการใช้งาน CDN PoP และ DDoS Scrubbing Center ที่ตั้งอยู่ในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2018 ถึงปัจจุบัน ขณะเดียวกันเรายังสำรวจและรับฟังความคิดเห็นถึงความต้องการที่แท้จริงจากลูกค้าและพันธมิตรคู่ค้าโดยตรงอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นที่มาของความพร้อมในการนำเสนอ “แพลตฟอร์มการให้บริการควบคู่กับเทคโนโลยี” ที่สอดคล้องกับวิถีการดำเนินธุรกิจขององค์กรในปัจจุบัน
ทั้งนี้การตอบรับกับโซลูชันของ Imperva ได้สร้างความเชื่อมั่นกับลูกค้าได้อย่างดีเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจในกลุ่มสถาบันทางการเงินและประกันภัย ซึ่งพิสูจน์ได้จากระยะเวลาและจำนวนของลูกค้าที่ใช้โซลูชันของเราที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมยังต่อยอดโซลูชันให้ครอบคลุมมากขึ้น เช่น จาก WAF on-premise สู่ Hybrid-WAF และ Database Security เป็นต้น ทั้งนี้เป็นผลมาจากการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีและบุคลากรที่มีความรู้ความเข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง
แพลตฟอร์ม Security และ Compliance สำหรับ Application and Data ที่สมบูรณ์แบบ
Imperva เป็นบริษัททางด้าน Cybersecurity ที่มุ่งเน้นการรักษาความปลอดภัยและสร้างเสถียรภาพให้กับการใช้งาน Data, Web Application, API และ Infrastructure โดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้องค์กรสามารถตอบข้อกฎหมายและมาตรฐานต่าง ๆ เช่น PDPA, GDPR, PCI-DSS, HIPPA, Cyber Security Act, Data Governance ได้อีกด้วย
ปัจจุบัน Imperva มีแพลตฟอร์มให้บริการทั้งแบบ SaaS, Public Cloud, On-premise และ Runtime Protection ซึ่งประกอบไปด้วยโซลูชันและฟีเจอร์ดังนี้
- Edge Security
- Application Security
- Data Security
มากกว่า Product คือ Services – นี่คือสิ่งที่ลูกค้าต้องการ
ถือเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายหลักของ Imperva ที่ได้จัดหาทรัพยากรต่าง ๆ มารองรับและขับเคลื่อนความต้องการด้านงาน Services ให้เกิดขึ้นทั้งในภาพกว้างและเชิงลึก ทำงานเชิงรุกร่วมกับลูกค้าเพื่อประยุกต์เทคโนโลยีให้เข้ากับรูปแบบการดำเนินธุรกิจของลูกค้า เริ่มตั้งแต่การช่วยวิเคราะห์ความต้องการ ออกแบบ วางแผน นำเสนอสินค้าและบริการ ติดตั้ง อบรม สนับสนุน ออกรายงานด้านความปลอดภัย ไปตลอดจนการช่วยปรับแต่ง Configuration แบบ Full Managed Services โดยทีมงานที่เชี่ยวชาญด้าน Technical และ Customer Success จากทั้ง Certified Partners และ Value Added Partners ให้การสนับสนุนอย่างใกล้ชิด ควบคู่ไปกับการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Ai / ML) และ Threat Intelligence เข้ามาช่วยวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ร่วมด้วย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับศูนย์ SOC และการทำ Incident Response ทั้งด้าน Security, Performance และ Availability ได้อย่างเห็นผล เป็นการยกระดับสู่ Professional Support อย่างแท้จริง
ในปี 2022 นี้เรายังได้ทำการเปิดหลักสูตร Imperva University รุ่นที่ 1 สำหรับ Partners และการเข้าร่วม Imperva Community ชุมชนสำหรับพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลระดับ Global เพื่อเป็นการส่งเสริมและยกระดับบุคลากรสู่ระดับผู้เชี่ยวชาญทางด้าน Application และ Database Security ให้มีเพิ่มมากขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
ดังนั้นแล้วการผสมผสานเพื่อส่งต่อเทคโนโลยี บุคลากร ประสบการณ์และงานบริการจึงเป็นอีกหนึ่งโซลูชั่นที่ Imperva พร้อมจะส่งต่อไปยังลูกค้าในทุกระดับองค์กร ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจในประเทศไทยให้ก้าวเข้าสู่ยุค Personal and Digital Data Driven ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย
มุมมองต่อตลาดประเทศไทยในปี 2022
ปัจจุบันประเทศไทยมีอัตราการเติบโตของการใช้งานอินเตอร์เน็ตและการทำธุรกรรมออนไลน์เพิ่มมากขึ้นทุกปี ในขณะเดียวกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ก็ทวีความรุนแรงและมีจำนวนมากขึ้นเช่นกัน วิสัยทัศน์ของเรานั้นชี้ชัดว่า “WAF and API Security ได้กลายเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องมี (Must Have) สำหรับทุกองค์กร” ทั้งภาครัฐและเอกชน ในขณะที่การบุกรุกเพื่อโจรกรรมข้อมูลจากฐานข้อมูล (Database) และการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) จะมีผลผลักดันให้มีการลงทุนด้าน Data Security เพิ่มมากยิ่งขึ้นในปีนี้
ทั้งนี้ ทาง Imperva ยังมีข่าวสารและกิจกรรมที่จะนำเสนอและจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องให้เข้ากับสถานการณ์ Cybersecurity trend ในปี 2022
ต้องการทราบข้อมูลและโซลูชันของ Imperva สามารถติดต่อได้ที่
ฝ่ายการตลาด Email: marketing_th@exclusive-networks.com หรือ
Product Manager คุณณัฐพล เทพเฉลิม
Email: nthepchalerm@exclusive-networks.com Phone: 089-760-4499
website: https://www.exclusive-networks.com/th/
Facebook: https://www.facebook.com/ExclusiveNetworksThailand