CDIC 2023

[Guest Post] AspenTech เปิดตัวซอฟต์แวร์ aspenONE V12.2 ล่าสุด ช่วยองค์กรบรรลุเป้าหมายความยั่งยืนขั้นสูง เป็นเลิศในการปฎิบัติงาน ในกระบวนการปฏิรูปดิจิทัล

แอสเพ็นเทคเพิ่มโมเดลใหม่ๆ ที่ช่วยลูกค้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการรีไซเคิล และสร้างคุณค่าเพิ่มในห่วงโซ่คุณค่าขององค์กรตนเองได้สูงสุด

แอสเพ็น เทคโนโลยี อิงค์ (Aspen Technology, Inc. (NASDAQ: AZPN) บริษัทผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์ด้านการเพิ่มประสิทธิภาพสินทรัพย์ (Asset optimization software) ประกาศเปิดตัวซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นล่าสุด aspenONE® V12.2 ซึ่งเน้นช่วยให้ลูกค้าองค์กรมีโมเดลจำลองด้านความยั่งยืนและใช้ซอฟต์แวร์ใหม่ๆ สนับสนุนกิจกรรมด้านความยั่งยืนในขั้นสูงของบริษัทตนตลอดเส้นทางการปฏิรูปดิจิทัลได้

ในปัจจุบัน โซลูชัน aspenONE® V12 มีโมเดลแบบจำลองในซอฟต์แวร์มากกว่า 50 โมเดล ซึ่งส่วนใหญ่ให้ข้อมูลเชิงลึกแก่องค์กร แสดงให้เห็นถึงส่วนการปฏิบัติงานที่ยังสามารถปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้นได้ เพื่อสนับสนุนเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในขอบเขตที่ 1 (Scope 1) และขอบเขตที่ 2 (Scope 2) ขององค์กร  ทั้งนี้ เมื่อลูกค้าใช้โมเดลแบบจำลองที่สร้างจากข้อมูลจริงที่รวบรวมจากทุกจุดโรงงานเหล่านี้ จึงสามารถอธิบายกิจกรรมและระบุวิธีลดการปล่อยมลพิษในห่วงโซ่คุณค่าทั้งหมดที่มีความแม่นยำสูงได้ ช่วยลดการใช้พลังงาน น้ำและวัตถุดิบ และเปลี่ยนไปเป็นแหล่งพลังงานใหม่ เช่น เชื้อเพลิงชีวภาพและไฮโดรเจน อีกทั้งยังช่วยสร้างคุณค่าเพิ่มให้กับวัตถุดิบในเศรษฐกิจหมุนเวียนผ่านกระบวนการต่างๆ เช่น การรีไซเคิลพลาสติกและการแปลงของเสียเป็นธุรกิจสารเคมีต่างๆ ได้อีกด้วย

เดวิด อาร์บิเทล รองประธานอาวุโส ฝ่ายการจัดการผลิตภัณฑ์ของแอสเพ็นเทคให้ความเห็นว่า “เพื่อบรรลุถึงเป้าหมายที่ต้องการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์นั้นและมุ่งสู่การเป็นการเป็นองค์กรสมดุลคาร์บอน (Carbon Neutral) องค์กรต่างๆ จำเป็นต้องให้ความสำคัญที่การบริหารประสิทธิภาพในการดำเนินงานที่ผสานกันอย่างครอบคลุม เน้นยกระดับและใช้ประโยชน์จากศักยภาพด้านดิจิทัลขององค์ประกอบต่างๆ ในองค์กร ที่สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกที่จำเป็นเพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนด้านต่างๆ เพื่อให้ได้แนวทางที่ต้องการนั้นได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย  ทั้งนี้ ซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นใหม่นี้จะช่วยยกระดับคุณสมบัติการทำงานหลายด้านในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของเราให้ได้ผลลัพธ์ทางธุรกิจที่มีมูลค่าสูงขึ้นได้และเร็วขึ้น”

ปีเตอร์ เรย์โนลส์ นักวิเคราะห์อาวุโสของ ARC Advisory Group กล่าวว่า “ซอฟต์แวร์เวอร์ชั่นใหม่ของแอสเพ็นเทคนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาซอฟต์แวร์ใหม่เพื่อสนับสนุนโครงการด้านความยั่งยืนใหม่ๆ ของลูกค้าให้เกิดได้อย่างรวดเร็ว และการเพิ่มศักยภาพด้านความยั่งยืนลงในซอฟต์แวร์ที่มีอยู่และเพิ่มโมเดลตัวอย่างใหม่ๆ จำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่องนี้แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมขององค์กรที่ทุ่มเทการสนับสนุนให้ลูกค้าสามารถจัดการกับการรีไซเคิลวัสดุ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การผลิตไฮโดรเจน การดักจับคาร์บอน และวัตถุดิบจากชีวภาพได้อย่างจริงจัง”

ซอฟต์แวร์เวอร์ชั่น aspenONE®  V12.2 นอกจากจะเน้นพัฒนาโมเดลจำลองความยั่งยืนแล้ว ยังเน้นปรับปรุงคุณสมบัติต่างๆ ที่ออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานได้ง่าย ใช้เวลาในการสร้างมูลค่าเร็วขึ้น และทำงานร่วมกันทั่วทั้งห่วงโซ่คุณค่า ดังนี้:

  • Aspen GDOTTM สำหรับธุรกิจโอเลฟินส์ – คุณสมบัตินี้จะปรับกำหนดการผลิตสารโอเลฟินส์ในโรงงานทั้งหมดให้เหมาะสมได้แบบไดนามิก (Closed loop dynamic optimization) และช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และเพิ่มผลกำไรสูงสุด นอกจากนี้ จัดให้มีโฟลว์ชีตที่ใช้งานง่ายจึงช่วยลดความยุ่งยากในขั้นตอนการสร้างแบบจำลอง การปรับใช้งาน และการบำรุงรักษา และช่วยปรับการวางแผนให้เข้ากับการปฏิบัติงานได้อย่างเรียลไทม์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
  • Aspen Production Execution Manager (APEM) – ช่วยเร่งให้การปฏิบัติตามคำสั่งได้เร็วขึ้น เพื่อให้มีความสม่ำเสมอและคุณภาพของผลิตภัณฑ์สูงตามกฎระเบียบได้อย่างถูกต้องตลอดเส้นทาง ทั้งนี้ แอปพลิเคชัน APEM Mobile บนเว็บใหม่จะให้ความคล่องตัวและประสบการณ์หน้าจอสัมผัสที่ใช้งานง่าย มาพร้อมกับเวิร์กโฟลว์ของกระบวนการทำงานที่ปรับให้เหมาะสมได้และเร็วขึ้น 5 เท่า จึงสามารถรับประกันถึงประสิทธิภาพ การดำเนินการที่แม่นยำ และความเร็วในระดับสูงมากขึ้น
  • Aspen Supply Chain Management (SCM) Insights – จะเชื่อมประสานการทำงานกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในห่วงโซ่อุปทานให้ราบรื่นเป็นสภาพแวดล้อมที่ยืดหยุ่นเดียวกันได้ ซึ่งออกแบบมาเพื่อทำให้ดำเนินการวางแผนการขายและการดำเนินงานรายเดือน (Sales & Operations Planning: S&OP) เป็นแบบดิจิทัล และการวางแผนธุรกิจเป็นแบบบูรณาการ (Integrated Business Planning: IBP) เพื่อสร้างมูลค่าและผลลัพธ์ทางธุรกิจในระดับสูงได้
  • Aspen UnscramblerTM – เร่งขั้นตอนการวิเคราะห์ให้รวดเร็วมากขึ้นและชาญฉลาดยิ่งขึ้นด้วยคุณสมบัติใหม่ๆ สำหรับขั้นตอนการเตรียมการผลิตและจัดการข้อมูลแบทช์ รวมถึงสามารถปรับปรุงการวิเคราะห์ชุดข้อมูลขนาดใหญ่ให้รวดเร็วมากยิ่งขึ้นได้อีกด้วย

หากท่านต้องข้อมูลเพิ่มเติมอื่นๆ กรุณาคลิกที่นี่  

 

 

 

 


About Maylada

Check Also

Supermicro เปิดตัว Server ใหม่รองรับ AMD EPYC 8004 Series

Supermicro เปิดตัว Server ใหม่รองรับหน่วยประมวลผล AMD EPYC 8004 Series รุ่นล่าสุดจาก AMD ตอบโจทย์งาน Edge Computing

CloudCampus 10 Gbps คุณภาพสูงของหัวเว่ยเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่โลกอัจฉริยะในอุตสาหกรรมต่าง ๆ [Guest Post]

ในระหว่างงานหัวเว่ย คอนเนกต์ (Huawei Connect) ประจำปี 2566 หัวเว่ยได้เปิดตัวโซลูชัน CloudCampus 10 Gbps คุณภาพสูงเวอร์ชันอัปเกรดใหม่ที่มาพร้อมกับ 4 ฟีเจอร์สุดพิเศษ ได้แก่ การเข้าถึงความเร็วสูง, สถาปัตยกรรมแบบเรียบง่าย, สุดยอดประสบการณ์ และการดำเนินงานและการบำรุงรักษาแบบเรียบง่าย (O&M) โดยโซลูชันดังกล่าวพร้อมรองรับอนาคต มีความเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับองค์กรทั่วโลกในการสร้างเครือข่ายแคมปัสคุณภาพสูง “ความเร็ว 10 Gbps สำหรับสำนักงาน, 10 Gbps สำหรับการผลิต และ 10 Gbps สำหรับสาขา” เพื่อเร่งความเร็วในการเดินทางเปลี่ยนผ่านจากยุคดิจิทัลไปสู่ยุคระบบอัจฉริยะ