
ในงาน Ubiquity IoT Developer Summit ที่จัดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทาง Google ได้ออกมาเผยถึงแผนการในอนาคตเกี่ยวกับเทคโนโลยี Internet of Things หรือ IoT ที่ Google วางแผนเอาไว้ ซึ่งทางทีมงาน TechTalkThai ก็ขอสรุปข้อมูลจาก Network World เอาไว้ดังนี้ครับ
Machine Learning จะเป็นหัวใจสำคัญของ Internet of Things
Google มองว่าการทำให้ Internet of Things สามารถทำงานต่างๆ ได้อย่างอัตโนมัตินั้น ก็คือการสร้างกฎแบบ If This Then That หรือ ITTT ขึ้นมาให้อุปกรณ์หรือระบบทำสิ่งต่างๆ เมื่อเงื่อนไขตรงตามที่กำหนด แต่การที่จะกำหนดกฎต่างๆ ให้ครอบคลุมต่อระบบ IoT ขาดใหญ่ได้นั้นถือว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก และ Machine Learning ก็จะเข้ามามีบทบาทตรงนี้เอง
โครงการ Tensorflow ซึ่งเป็นระบบ Open Source Machine Learning ที่ Google ใช้งานอยู่นั้นได้ถูกนำมาใช้ในส่วนนี้เพื่อให้การสร้างกฎต่างๆ เป็นไปได้โดยอัตโนมัติมากยิ่งขึ้น จากข้อมูลจำนวนมหาศาลที่ได้รับจาก Sensor ภายในระบบนั่นเอง
BLE Beacons และ Cloud จะเป็นหัวใจหลักของระบบ Geolocation ภายในอาคาร
ที่ผ่านมาเราคงคุ้นเคยกับ Google Maps ที่ Google ใช้เวลาพัฒนามาเป็นสิบๆ ปีกับการใช้ข้อมูลจาก GPS, Wi-Fi และสัญญาณโทรศัพท์ในการบอกตำแหน่งภายนอกอาคาร แต่สำหรับการบอกตำแหน่งภายในอาคารนั้น Google มองว่า Bluetooth Low Energy (BLE) Beacons และ Cloud นั้นจะเป็นเทคโนโลยีหลักที่มีบทบาทสูงสุด
Eddystone คือชื่อของโครงการ Open Source BLE Beacons ของ Google ที่ปัจจุบันมีพาร์ทเนอร์ผู้ผลิตกว่า 20 รายทั่วโลก เพื่อให้ BLE Beacons เหล่านี้ถูกผลิตขึ้นมาและนำไปใช้งานภายในอาคารต่างๆ ให้ได้มากที่สุด โดย Google จะมีระบบ Cloud รองรับเอาไว้เพื่อเก็บข้อมูลว่า BLE Beacons แต่ละตัวถูกติดตั้งอยู่ที่ส่วนไหนของอาคารใด และเปิดให้อุปกรณ์ต่างๆ ที่รับข้อมูลจาก Beacons เหล่านั้นมาเปรียบเทียบข้อมูลบน Cloud เพื่อทราบตำแหน่งของตัวเองภายในอาคารได้ทันที ทำให้นักพัฒนา Application สามารถพัฒนา Indoor Location-based Application ได้จากบริการเหล่านี้อย่างง่ายดาย รวมถึง Google Maps เองก็จะบอกตำแหน่งภายในอาคารได้จากเทคโนโลยีนี้เช่นกัน
Brillo และ Weave จะกลายเป็นหัวใจของอุปกรณ์ Internet of Things
Brillo นั้นคือโครงการ Android สำหรับการทำ IoT โดยเฉพาะที่มีจุดเด่นเรื่องการรองรับ Hardware ที่หลากหลาย, มีนักพัฒนา Android พร้อมต่อยอดได้ และมีการเสริมระบบรักษาความปลอดภัยสำหรับ IoT เข้าไปเป็นพิเศษ ให้อุปกรณ์มีความปลอดภัยและอัพเดต Patch ตัวเองได้อย่างสม่ำเสมอ
ส่วน Weave นั้นคือสถาปัตยกรรมระบบเครือข่ายที่ถูกออกแบบมาให้ใช้พลังงานต่ำโดยแลกมากับการที่จะส่งข้อมูลได้น้อยลง เพื่อใช้กับ IoT โดยเฉพาะ ซึ่งต่อยอดมาจากมาตรฐาน IEEE 802.15.4 และถูกปรับปรุงให้สามารถรองรับอุปกรณ์ IoT นับพันล้านชิ้นได้ด้วย IPv6 ตามแนวคิด 6LoWPAN
ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว คือประเด็นที่สำคัญเป็นอันดับต้นๆ ของ Internet of Things
ถึงแม้ Internet of Things จะช่วยสร้างผลิตภัณฑ์, บริการ และกระบวนการการทำงานรูปแบบใหม่ๆ ให้กับทั้งผู้บริโภคและภาคธุรกิจ แต่ข้อมูลจำนวนมหาศาลที่จะถูกนำมาสร้างคุณประโยชน์เหล่านี้เองก็เปรียบเสมือนดาบสองคม เพราะถ้าหากระบบเหล่านี้มีความปลอดภัยไม่เพียงพอ และไม่สามารถปกป้องข้อมูลต่างๆ ที่เป็นข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานแต่ละคนได้ ผู้ร้ายก็อาจนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้ในทางที่ผิดได้เช่นกัน
ที่มา: http://www.networkworld.com/article/3021820/internet-of-things/google-ubiquity-summit-iot.html