CDIC 2023

EU หรือ สหภาพยุโรป ผ่านกฏหมายควบคุม Apple, Google, Facebook และบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อื่นๆ

ในยุโรป ภาคีต่างๆ ได้มารวมตัวกันเพื่อส่งต่อ Digital Services Package (DSP) เป็นชุดของกฎหมายที่จะบังคับใช้ เพื่อให้บริษัทต่างๆ เช่น Apple, Google, Facebook และ Amazon ปรับแนวทางปฏิบัติในรูปแบบต่างๆ มากมาย ผู้สันทัดกรณีชี้ไปที่ DSP อาจจะเป็นต้นแบบสำหรับกฎหมายของสหรัฐอเมริกาในอนาคต แต่อีกมุมมองว่ามันไปไกลกว่ากฎหมายที่เป็นมิตรต่อธุรกิจทั่วไปในสหรัฐอเมริกามาก
 
 
Digital Services Package ประกอบไปด้วยสองส่วน:
 
  • Digital Markets Act
  • Digital Services Act
กฏหมาย Digital Services Package ได้รับการเสนอในปี 2020 และได้ผ่านการรับรองโดยคณะกรรมาธิการยุโรปเมื่อเร็วๆ นี้ วัตถุประสงค์หลักเพื่อสร้างกฏเกณฑ์ที่ครอบคลุมสำหรับเทคโนโลยีที่จะรักษาความเป็นส่วนตัวและทางเลือกในตลาด สำหรับบริษัทที่กำหนดเป้าหมาย Digital Services Package จะหมายถึงการตรวจสอบด้านกฎระเบียบจำนวนมาก
 
  1. Digital Markets Act (DMA)
เป็นกฎหมายเกี่ยวกับการควบคุมบริษัทที่ดำเนินการ “บริการแพลตฟอร์มหลัก” เช่น App Stores, Search Engines และอื่นๆ ว่าด้วยกรอบทางกฏหมายสำหรับสิ่งที่เรียกว่า “Gatekeepers” หรือ ผู้รักษาประตู สำหรับเป็น “consumer gateways” รักษาความสมดุลให้กับส่วนแบ่งการตลาดไม่ให้มีความได้เปรียบและเสียเปรียบที่เหนือกว่ากันมากเกินไป โดยเฉพาะกลุ่มบริษัทขนาดเล็กที่มีบทบาทน้อยกว่าซึ่งอยู่ในฐานะ “Emerging Gatekeepers” ที่กำลังเติบโตสู่ฐานะของผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่าได้ในอนาคต โดยสหภาพยุโรปคาดว่าจะกำหนดแผนไว่ที่ 10-15 Gatekeepers
 
บทบาทหลักของ Gatekeepers
 
  • Gatekeepers จะมีภาระหน้าที่หลายประการเพื่อรับรองสวัสดิการของผู้บริโภคและความเป็นธรรมของตลาดดิจิทัล
  • Gatekeepers จะคอยเป็นยามเฝ้าประตูดูแลไม่อนุญาตให้ผู้เล่นใช้ตำแหน่งทางการตลาดที่มีอำนาจเหนือกว่าเพื่อให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์และบริการอื่นๆ ของตนอย่างไม่เป็นธรรม
  • ด้านการโฆษณายังเป็นจุดสนใจหลักของ DMA ซึ่งเชื่อมโยงกับกฎระเบียบให้ความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้บริโภค (GDPR) เพื่อให้แน่ใจว่ามีการเคลื่อนย้ายข้อมูลและความเป็นส่วนตัวที่มีความปลอดภัย
  1. Digital Services Act (DSA)
คล้ายคลึงกับ DMA แต่จะเน้นไปที่พฤติกรรมของ “intermediaries” หรือ ตัวกลาง เช่น Internet Service Providers, Cloud Services, Messaging และ Social Networks เพื่อควบคุมบทบาทของบริษัทกลุ่มเหล่านี้ในการเชื่อมต่อถึงผู้บริโภคกับการบริการและเนื้อหาออนไลน์ทั้งหมด
 
DSA กำหนดให้บริษัทบริหารจัดการเจ้าหน้าที่กำกับดูแลการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ดำเนินการลบเนื้อหาที่ผิดกฎหมาย และทำงานเพื่อปกป้องสิทธิ์ของผู้บริโภคเป็นสำคัญ
 
ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้สามารถตั้งค่าสถานะเนื้อหาว่าผิดกฎหมายหรือเป็นอันตราย หรือแม้แต่การยื่นเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับ “นโยบายการดูแลแพลตฟอร์ม” นอกจากนี้ยังมีข้อกำหนดบังคับเกี่ยวกับการห้ามใช้วิธีการกำหนดเป้าหมายโฆษณาและการติดตามผู้ใช้ที่ไม่ชัดเจน ซึ่งอย่างไรก็ตาม ไม่ได้กำหนดกฎเกณฑ์นี้ทั่วทั้งสหภาพยุโรปสำหรับเนื้อหาประเภทใดที่ผิดกฎหมาย เป็นเพียงกรอบการทำงานเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ใช้มีเครื่องมือรับมือกับการป้องกันตนเอง
 
เมื่อมีกฏหมายใหม่ออกมา ย่อมมีบทลงโทษตามมา
 
  • การละเมิดกฏหมาย Digital Markets Act (DMA) อาจถูกบทลงโทษจากการค่าปรับระหว่าง 4 – 20 เปอร์เซ็นต์ ของรายได้ต่อปี
  • การละเมิดกฏหมาย Digital Services Act (DSA) อาจถูกบทลงโทษจากการค่าปรับสูงถึง 6 เปอร์เซ็นต์ ของรายได้ต่อปี
DMA จะมีผลบังคับใช้ในอีก 6 เดือนหลังจากนี้ และ DSA จะมีผลใช้งานในวันที่ 1 มกราคม 2024 แหล่งข่าวพาดพิงความรู้สึกบริษัทต่างๆ โดยมองว่ากฏหมายนี้อาจทำให้ Google และ Facebook ไม่พอใจ
 

About Pawarit Sornin

- จบการศึกษา ปริญญาตรี สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต - เคยทำงานด้าน Business Development / Project Manager / Product Sales ดูแลผลิตภัณฑ์ด้าน Wireless Networking และ Mobility Enterprise ในประเทศ - ปัจจุบันเป็นนักเขียน Full-time ที่ TechTalkThai

Check Also

Gartner Hype Cycle ด้าน AI ปี 2023

Gartner ได้ออกคาดการณ์สำหรับการพัฒนาของ AI ในปี 2023 ซึ่งเจาะจงไปที่ Generative AI โดยหัวข้อแบ่งได้ 2 ส่วนคือ นวัตกรรมที่ได้รับการกระตุ้นจาก Generative AI และอีกส่วนคือ …

[รีวิว] Asus Zenbook 14X OLED รุ่น Sandstone Beige สีเบจ ให้ความรู้สึกเหมือนเซรามิก

Asus Zenbook 14X OLED มีการออกแบบที่โดดเด่นในสีเบจ Sandstone Beige เคลือบผิวด้วยเซรามิกรูปแบบใหม่ที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนบนฝาแล็ปท็อป มีรูปทรงบางเบา ขนาดหน้าจอ 14.5” (2880×1800) OLED มาพร้อมพลังขับเคลื่อนชิป CPU …