Delta Electronics (Thailand) ผู้ให้บริการโซลูชันด้านการจัดการพลังงานและความร้อนชั้นนำของโลก ประกาศความพร้อมให้บริการเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ากว่า 50 แห่งทั่วไทย พร้อมลงนามข้อตกลงร่วมมือกับการไฟฟ้านครหลวงแห่งประเทศไทย (MEA) เพื่อรวมโซลูชันการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าลงสู่แอปพลิเคชัน MEA EV ที่พัฒนาขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกสูงสุดให้กับผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า
มลพิษเป็นปัญหาที่อยู่คู่กับทั่วโลกรวมไปถึงประเทศไทยมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหามลพิษทางอากาศ ไม่ว่าจะเป็นแก๊สเรือนกระจก ฝุ่นควัน หรือ PM2.5 เพื่อลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมนี้ลง ค่ายรถยนต์หลายรายจึงเริ่มให้บริการยานยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น และเพื่อตอบสนองต่อกลยุทธ์ด้านการรักษาสิ่งแวดล้อมนี้ Delta Electronics (Thailand) จึงเปิดให้บริการเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงที่พร้อมรองรับการใช้งานกับรถยนต์ไฟฟ้าทุกประเภท ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างอนาคตอันยั่งยืนให้แก่ทุกคนทั่วโลก
จนถึงตอนนี้ Delta Electronics (Thailand) ได้ติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าตามสถานที่ต่างๆ ทั่วไทยไปแล้วมากกว่า 50 แห่ง ไม่ว่าจะเป็น สาขาของการไฟฟ้านครหลวง, ศูนย์รถยนต์ในเครือพันธมิตร, มหาวิทยาลัย, สถานีขนส่ง, นิคมอุตสาหกรรม และอื่นๆ สามารถใช้งานได้ทั้งรถยนต์ไฟฟ้าจากสหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่น ที่สำคัญคือผ่านการทดสอบตามมาตรฐานยานยนต์ไฟฟ้าของไทยจากสถาบันยานยนต์อีกด้วย
เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ให้บริการประกอบด้วย 3 โมเดล ได้แก่
- Delta AC Mini Plus EV Charger – เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ากระแสสลับ กำลังสูงสุด 7.36 kW ใช้เวลาชาร์จโดยเฉลี่ยประมาณ 6 – 8 ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ระยะทางประมาณ 300 กิโลเมตร
- Delta DC Wallbox EV Charger – เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ากระแสตรง กำลังสูงสุด 25 kW
- Delta DC Quick Charger – เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ากระแสตรง กำลังสูงสุด 50 kW สามารถชาร์จไฟจาก 20% ไป 80% ได้ภายใน 30 นาที
นอกจากนี้ Delta Electronics ยังมีแผนพัฒนาเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ากำลัง 300 kW ที่ชาร์จไฟได้เร็วสูงสุดเพียง 8 นาทีในอนาคตอีกด้วย
และในวันนี้เอง Delta Electronics (Thailand) ได้ลงนามข้อตกลงร่วมมือกับ MEA เพื่อรวมโซลูชันการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าลงสู่แอปพลิเคชัน MEA EV เพื่อยกระดับความสะดวกในการเข้าถึงสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าสามารถใช้แอป MEA EV ค้นหาสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (ทุกผู้ให้บริการกว่า 500 แห่ง รวมไปถึงของ Delta) จองหัวชาร์จแบบเรียลไทม์ ควบคุมการชาร์จผ่านระบบรีโมทด้วยแอปพลิเคชัน รวมไปถึงการชำระเงินค่าบริการด้วยสมาร์ตโฟนได้ทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังสามารถดูข้อมูลประวัติการชาร์จ การคำนวณอัตราการประหยัดพลังงาน และเข้าถึงฟังก์ชันอื่นๆ ที่จะจัดทำเพิ่มเติมเพื่ออำนวยความสะดวกในอนาคตอีกด้วย
ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน MEA EV ได้ผ่านทาง App Store หรือ Google Play
ความร่วมมือกันในครั้งนี้ MEA และ Delta Electronics (Thailand) มุ่งหวังให้ผู้ขับขี่ภายในประเทศไทยหันมาเลือกใช้การคมนาคมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น เพื่อผลักดันประเทศไทยให้ไปสู่การเป็นประเทศที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นหลัก พร้อมทั้งสนับสนุนนโยบายการส่งเสริมให้ใช้แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า (Battery Electric Vehicle : BEV) ของรัฐบาลไทย และการใช้รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด (Plug-in Hybrid Electric Vehicle : PHEV) ของคนไทย รวมถึงส่งเสริมการผลิต การวิจัยและพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าของประเทศตามแผนงานด้านพลังงานของรัฐบาลที่ตั้งเป้าว่าจะมีรถยนต์ไฟฟ้าจำนวน 1.2 ล้านคัน (รวม PHEV และ BEV) วิ่งบนท้องถนนภายในปี พ.ศ. 2579