กรุงเทพฯ – 11 มีนาคม 2559 – เดลล์ ขยายศักยภาพระบบเชื่อมต่อเครือข่ายแบบเปิด ด้วยการประกาศเปิดตัวระบบปฏิบัติการ OS10 หรือ Operating System 10 จาก เดลล์ เน็ตเวิร์กกิ้ง ซอฟต์แวร์เชื่อมต่อเครือข่ายแบบเน็กซ์เจนฯ นี้ ออกแบบมาเพื่อยกระดับใหม่เรื่องความยืดหยุ่นในการใช้งานซอฟต์แวร์ พร้อมให้ความสามารถในการโปรแกรมการทำงานบนสภาพแวดล้อมดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ สภาพแวดล้อมของการใช้ซอฟต์แวร์ OS10 นี้ช่วยเรื่องฟังก์ชั่นการทำงานที่ล้ำหน้าสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์สมัยใหม่ ด้วยการแยกการทำงานซอฟต์แวร์เครือข่ายออกจากระบบ เพื่อให้ลูกค้าได้มีทางเลือกมากขึ้นในการใช้ซอฟต์แวร์จัดการระบบปฏิบัติการไอทีได้ทั่วถึง
“ดาต้าเซ็นเตอร์สมัยใหม่ที่กำหนดการทำงานด้วยซอฟต์แวร์ ต้องอาศัยวิธีการทำงานแบบใหม่ในงานส่วนปฏิบัติการ ไม่ใช่แค่ระบบเครือข่าย แต่เป็นการทำงานข้ามไปถึงระบบประมวลผล ( compute ) และการจัดเก็บข้อมูล ( storage ) ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย” นายอภิชาติ อัศวาดิศยางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจองค์กร เดลล์ อินโดจีน กล่าว “OS10 ช่วยให้ลูกค้าเตรียมความพร้อมที่ดีสำหรับอนาคต โดยเพิ่มนวัตกรรมหรือความสามารถของเครือข่ายเหล่านั้น รวมทั้งเป็นการวางโครงสร้างพื้นฐานในดาต้าเซ็นเตอร์ไห้รวดเร็วขึ้น ตามเจตนารมณ์ของลูกค้าที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถได้ในทุก ๆ ระบบ”
“OS10 แสดงให้เห็นถึงทิศทางใหม่ที่น่าสนใจสำหรับเดลล์ เนื่องจากเป็นการขยายขอบเขต และยกระดับสายผลิตภัณฑ์เชื่อมต่อเครือข่ายอย่างต่อเนื่องด้วยนวัตกรรมด้านซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์” แบรด เคสมอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย ส่วนงานระบบเครือข่ายสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ ไอดีซี กล่าว “เป็นเรื่องดีที่ได้เห็นเดลล์มองระบบเชื่อมต่อเครือข่ายว่าเป็นไซโลส่วนงานปฏิบัติการ หรือเป็นส่วนที่แยกออกมา และเตรียมการไว้ตอบโจทย์ความต้องการที่รุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว สำหรับโมเดลในการทำงาน ทั้งเรื่องการดำเนินงานด้านไอที และการปลดแอกไซโลไอทีแบบเดิม ๆ”
แยกโครงสร้างในส่วนของระบบปฏิบัติการเครือข่ายออกมา
แพลตฟอร์ม OS10 ออกแบบโดยอิงมาตรฐานใหม่ที่เป็นโมดูลาร์ซอฟต์แวร์ระบบเปิด ( open software modularity ) เพื่อให้ผู้ใช้สามารถสร้างแนวทางการทำงานข้ามระบบเครือข่ายได้อย่างยืดหยุ่น และเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด OS10 ประกอบด้วยโมดูลพื้นฐาน ( base module ) และโมดูลที่เป็นแอพพลิเคชันทางเลือกอีกหลากหลายโมดูล ปัจจุบัน สิ่งที่เคยถูกผสานรวมอย่างแน่นแฟ้นอยู่ในระบบงานเฉพาะส่วนของผู้ค้าได้ถูกแยกออกเพื่อเพิ่มทางเลือกของลูกค้าในการการควบคุม และการเขียนโปรแกรมตามความต้องการ
- OS10 Base Module – OS10 Base Module พร้อมให้ใช้งานฟรี และรันบนลีนุกซ์ที่ยังไม่มีการปรับแต่ง และเป็นระบบเปิดอย่างเต็มรูปแบบ ลีนุกซ์ เป็นหนึ่งในระบบปฏิบัติการที่ใช้กันแพร่หลายมากที่สุด อีกทั้งสามารถใช้ภาษาที่เป็น common language ข้ามหลายไอที เลเยอร์ต่าง ๆ บนระบบไอที ไม่ว่าจะเป็นส่วนของระบบเครือข่าย สตอเรจ และส่วนการประมวลผลก็ตาม OS10 Base Module นั้นเอื้อประโยชน์ในแง่ของการนำความรู้ของชุมชนลีนุกซ์มาช่วยเพิ่มศักยภาพ ทั้งในแง่ของการเขียนโปรแกรม การใช้งานร่วมกับระบบอื่น และให้ความยืดหยุ่นในระดับของแอพพลิเคชันเลเยอร์ที่สูงขึ้นไปได้เช่นกัน
OS10 Base Module ใช้ Open Compute Project Switch Abstraction Interface ( SAI ) ซึ่งช่วยให้ใช้ภาษากลาง ซึ่งเป็นภาษาที่โปรแกรมเมอร์คุ้นเคย ในการจัดการระหว่างระบบปฏิบัติการเครือข่ายและอุปกรณ์เครือข่ายผู้จำหน่ายรายอื่นบนมาตรฐานเดียวกัน SAI ช่วยให้บริษัทที่ให้บริการทางด้าน web ขนาดใหญ่ ( Web-scale companies ) รวมถึงผู้ให้บริการคลาวด์ ได้ประโยชน์จากการใช้นวัตกรรมของซิลิคอนล่าสุด โดยสามารถโปรแกรมการทำงานลงบนตัวสวิตช์ได้
- OS10 Application Modules –บนโมดูลพื้นฐานของ OS10 สามารทำงานในได้ในเน็ตเวิร์กฟังก์ชั่นแบบเก่า ( L2/L3 protocols ) จากเดลล์ ตลอดจนสามารถทำงานร่วมกับสวิตช์ต่างยี่ห้อ ระบบ native Linux และแอพพลิเคชันแบบโอเพ่นซอร์ส เช่นบริการไอพี บริการแฟบริก ( Fabric ) และบริการด้านความปลอดภัย ที่ผสานรวมกับเครื่องมือสำหรับระบบอัตโนมัติ ( automation tools ) และระบบบริหารจัดการ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถปฏิบัติการด้านไอทีได้ตามความต้องการและตามกระบวนการ
จากงานปฏิบัติการด้านเครือข่าย สู่งานปฏิบัติการด้านการพัฒนา
OS10 ใช้พื้นฐานของลีนุกซ์ ให้ความได้เปรียบ และแตกต่าง ตามที่ลูกค้ากำลังมองหาเพิ่มเติมเมื่อได้ทำการออกแบบระบบแอพพลิเคชัน และระบบดาต้าเซ็นเตอร์ ครอบคลุมไปถึงเซิร์ฟเวอร์ สตอเรจ และระบบเครือข่าย – โดยไม่ไม่ใช่ลักษณะของการทำงานแบบเป็นไซโล ตัวซอฟท์แวร์ OS10 นั้น ยังมีความน่าสนใจสำหรับผู้ดูแลเครือข่ายแบบเก่าที่ใช้การโปรแกรมในวิธีแบบเดิม นอกจากนี้ตัวซอฟต์แวร์ยังคงสร้างความน่าสนใจแก่ชุมชนผู้พัฒนาซอฟท์แวร์ ( DevOps ) ที่มองหาสภาพแวดล้อมในการพัฒนาร่วมกันได้อย่างต่อเนื่องครอบคลุมส่วนต่าง ๆ ตั้งแต่เซิร์ฟเวอร์ สตอเรจ และ ระบบเครือข่าย
“ความสามารถของหลาย ๆ องค์กร ถูกกำหนดความหมายตามโครงสร้างพื้นฐาน ( Infrastructure-as-code ) กล่าวคือเป็นพื้นฐานหนึ่งและเป็นส่วนที่จำเป็นของการเริ่มต้นพัฒนา ( DevOps initiative ) เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติให้ ระบบสามารถทำงานร่วมกันและมีความต่อเนื่องได้” ไนเจล เคอร์สเทน ซีไอโอ Puppet Labs กล่าว “มันคือการใช้ภาษาเดียวร่วมกัน โดยมันจะสามารถทำงานข้ามไซโลที่มีระบบเซิร์ฟเวอร์ ระบบสตอเรจ และระบบเครือข่าย เพื่อช่วยลดความยุ่งยากซับซ้อนที่ไม่จำเป็น แต่เพิ่มความเร็ว ( speed ) และความน่าเชื่อถือ ( Availability ) เราได้มองต่อไป ในการทำงานร่วมกับเดลล์อย่างต่อเนื่อง และซอร์ฟแวร์ OS10 ตัวใหม่ ก็กำลังนำเสนอให้หลาย ๆ องค์กรนำมาใช้งานจริงร่วมกับ ระบบบริหารจัดการเครือข่าย”

ปลดล็อกด้านนวัตกรรมให้กับลูกค้า
OS10 แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการช่วยลูกค้าพัฒนา พร้อมปรับระบบงานให้ตรงต่อความต้องการ รวมถึงให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากดาต้าเซ็นเตอร์ที่กำหนดด้วยซอฟต์แวร์ ( software-defined datacentre ) ได้อย่างแท้จริง
- OS10 จากเดลล์ เน็ตเวิร์กกิ้งให้ความยืดหยุ่นในแบบเฉพาะ และการโปรแกรมที่จำเป็นสำหรับการเป็นผู้ให้บริการระบบคลาวด์ที่ทันสมัยใหม่ ในการพัฒนาสิ่งใหม่ๆ และประสบความสำเร็จในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เราได้เห็นประโยชน์จากการทำงานอย่างมีนัยสำคัญจากระบบเซิร์ฟเวอร์ เช่นการรวมเครื่องมือจัดการเครื่องมือการทำงานแบบอัตโนมัติในเซิร์ฟเวอร์ที่เป็นศูนย์กลาง” เจสัน ลอง ผู้อำนวยการเครือข่ายสถาปัตยกรรมและการฝ่ายปฏิบัติการ
การวางจำหน่าย
เดลล์ คาดว่าจะเริ่มส่ง OS10 Base Module ออกสู่ตลาดในเดือนมีนาคม ส่วนโมดูลแอพพลิเคชันที่พัฒนาโดยเดลล์ จะเข้าสู่ช่วงของการทดสอบเพื่อเตรียมออกวางจำหน่ายถัดมาในปีนี้
ลิงก์ข้อมูลเพิ่มเติม
- Video: Tom Burns, VP and GM, Dell Networking and Enterprise Infrastructure, discusses OS10
- Blog: Dell Networking Rocks the Data Center Again
- OS10 product page
- Dell Networking home page
- Open Networking wiki, Dell TechCenter
- Follow us at @DellNetworking on Twitter and Dell Enterprise Group on LinkedIn
เกี่ยวกับเดลล์
เดลล์ อิงค์ รับฟังความคิดเห็นของลูกค้า พร้อมทั้งนำเสนอนวัตกรรม เทคโนโลยีและการบริการที่ทำให้ลูกค้ามีศักยภาพในการทำงานที่มากขึ้น หาข้อมูลเพิ่มเติมและเยี่ยมชมได้ที่ www.dell.com.