หลังจากที่ Apple ได้เปิดตัว iOS 8 ในงาน WWDC 2014 เมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา คิดว่าหลายๆคนน่าจะถูกในหลายๆฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยทำให้ชีวิตเราสะดวกสบายขึ้นนะครับ แต่ส่วนใหญ่ก็จะเน้นที่เรื่องฟีเจอร์เด่นๆ ที่ใช้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน บทความนี้ผมเลยจะมาพูดถึงฟีเจอร์เจ๋งๆที่ใช้ในเชิงธุรกิจของ Apple iOS กันบ้าง เริ่มกันเละกันครับ
ฟีเจอร์ความปลอดภัยใหม่บน iOS 8
1. การเข้ารหัสเฉพาะข้อความ
เวอร์ชันใหม่ของ iOS ยินยอมให้ผู้ใช้เข้ารหัสข้อความบนอีเมลล์โดยใช้ S/MIME โดยสามารถเลือกเข้ารหัสเฉพาะอีเมลล์สำคัญที่ต้องการความปลอดภัยสูง ส่วนอีเมลล์อื่นก็ส่งออกไปตามปกติ ผู้ใช้สามารถเลือกเข้ารหัสได้ที่หน้า “Compose Message” ทันทีที่ต้องการ
2. Passcode Lock สำหรับแอพพลิเคชัน
ใน iOS 8 แอพ Mail, แอพของ 3rd Party, Calendar, Contact, Reminder, Note, Message และข้อมูลประจำตัวของผู้ใช้จะถูกล็อคด้วยรหัสผ่านหลังจากเปิดใช้งานใหม่ ผู้ใช้ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูล หรือดู notification ใดๆได้จนกว่าจะปลดล็อค เป็นการเพิ่มระดับความปลอดภัยอีกขั้นหนึ่งหลังกระบวนการรีบูท
3. เครื่องมือ MDM อันใหม่
Apple iOS 8 รองรับ policy ใหม่ๆสำหรับให้ฝ่าย IT สามารถติดตั้ง, บริหารจัดการ, และลบข้อมูลหนังสือ, PDF และเอกสารอื่นๆได้มากขึ้นกว่าเดิม รวมทั้งสามารถควบคุมการดาวน์โหลดไฟล์จากโดเมนในบริษัทผ่านทาง Safari และเอกสารที่จัดเก็บอยู่บน iCloud ได้ นอกจากนี้ ยังสามารถจำกัดชนิดของแอพพลิเคชันที่ใช้เพื่อเปิดไฟล์เหล่านั้นได้อีกด้วย
ฝ่าย IT สามารถตั้งค่าชื่ออุปกรณ์แบบรีโมท หยุดผู้ใช้จากการใช้ข้อกำหนดของตนเอง และบล็อกฟังก์ชันลบข้อมูลของอุปกรณ์ได้ และด้วยฟีเจอร์การติดตามการแบ็คอัพข้อมูล ทำให้ฝ่าย IT สามารถระบุเวลาล่าสุดที่อุปกรณ์ถูกผู้ใช้แบ็คอัพได้
iOS 8 กับค่าบริการระบบเครือข่ายไร้สาย
4. การโทรผ่าน Wi-Fi
Apple ประกาศรองรับการโทรผ่าน Wi-Fi (Wi-Fi Calling) บน iOS 8 อย่างเงียบๆ แต่ฟีเจอร์ดังกล่าวเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับบริษัทที่ต้องการลดค่าบริการโทรศัพท์ เพียงแค่ผู้ใช้เชื่อมต่อ Wi-Fi ก็สามารถใช้โทรศัพท์ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย (เหมาะสำหรับคนที่เดินทางไปต่างประเทศ และเปิด roaming สุดๆ)
หมายเหตุ ประเทศไทยยังไม่มี Wi-Fi Calling นะครับ คงต้องโทรผ่าน FaceTime หรือ Line กันไป
ฟีเจอร์ Productivity ใหม่บน iOS 8
5. เพิ่มประสิทธิภาพของแอพ Mail
Apple ได้เพิ่มประสิทธิภาพของฟังก์ชัน ลูกเล่นบนแอพ Mail ของ iOS 8 เป็นจำนวนมาก รวมทั้งมีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆเข้าไปอีก เช่น
- การระบุข้อความว่าเป็น read/unread หรือ flag ทำได้ง่ายกว่าเดิมโดยใช้การ swipe
- VIP Threads ช่วยให้ผู้ใช้สามารถระบุและจัดเก็บเฉพาะอีเมลล์ที่สำคัญหรือเร่งด่วน รวมทั้งตั้ง notification เฉพาะสำหรับอีเมลล์ VIP เหล่านั้นได้อีกด้วย
- ที่อยู่อีเมลล์ภายนอกสามารถเลือกตั้งค่าให้เป็นสีแดงได้ ทำให้ผู้ใช้ทราบว่ากำลังส่งอีเมลล์ไปยังภายนอกบริษัทอยู่
- ผู้ใช้ Exchange สามารถตั้งค่า out-of-office ผ่าน iOS ได้
- สามารถส่งค่า เวลาจอง, การยืนยันเที่ยวบิน และหมายเลขโทรศัพท์ที่ปรากฏอยู่บนอีเมลล์ไปที่ Calendar ได้ด้วยการแตะ
6. เพิ่มประสิทธิภาพของแอพ Calendar
เมื่อต้องการจัดการประชุม Calendar บน iOS 8 ช่วยให้สามารถดูสถานะ free/busy ของผู้ร่วมงานได้ง่าย รวมทั้งสามารถตั้งค่าระบุว่าเป็นการประชุมแบบ private และการประชุมจะจัดขึ้นทุกสัปดาห์ ณ เวลาเดียวกันได้ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังช่วยให้สามารถส่งข้อความไปยังผู้ร่วมประชุมเพื่อแจ้งข้อมูลเพิ่มเติม, พูดคุย หรืออัพเดทได้อย่างรวดเร็ว
7. เพิ่มประสิทธิภาพของ Cloud
iOS 8 ช่วยให้สามารถทำงานกับเอกสารหลายประเภททั้งบน Apple และ Windows ซึ่ง Apple ระบุว่าตอนนี้ iCloud Drive ได้ทำงานร่วมกับ Cloud service 3rd Party หลายเจ้า แต่ยังไม่ยอมระบุว่าเป็นบริษัทใดบ้าง (SS บนเว็บไซต์ของ Apple มีแสดงไอคอนของ Box และ OneDrive อยู่ ก็น่าจะมี 2 เจ้านี้รวมอยู่ด้วยแน่ๆล่ะครับ)
8. เพิ่มประสิทธิภาพของ Messages
แอพ Messages ของ Apple มีการปรับปรุงอย่างเห็นได้ชัดบน iOS 8 นอกเหนือจากระบบพิมพ์ข้อความด้วยเสี่ยง, วิดีโอข้อความ และแชร์ location แล้ว ผู้ใช้ตอนนี้สามารถรับส่งข้อความแบบกลุ่มได้ด้วย (แอพอื่นเขาทำได้กันไปหมดแล้ว เพิ่งจะมาทำเน๊อะ)
9. Notification ที่โต้ตอบได้
หนึ่งในเรื่องพื้นฐานที่สุด แต่สำคัญมากที่เพิ่มเข้ามาใน iOS8 คือ notification ที่โต้ตอบได้ ฟีเจอร์นี้ทำให้เราสามารถตอบกลับอีเมลล์, ข้อความ, calendar invite และการแจ้งเตือนบนแอพพลิเคชันอื่นๆได้อย่างรวดเร็วโดยไม่จำเป็นต้องออกจากแอพที่ใช้งานอยู่ เช่น ขณะที่กำลังพิมพ์อีเมลล์ มี friend request มาจาก facebook ก็สามารถเลื่อน notification ลงมาเพื่อทำการตอบรับ request ได้ทันที แล้วเลื่อนขึ้นเพื่อแสดงหน้าพิมพ์อีเมลล์ตามเดิม เป็นต้น
10. Multitasking มาพร้อมกับ Recent และ Favorite Contacts
ตอนนี้ผู้ใช้สามารถเข้าฟังก์ชัน multitasking ได้โดยการกดปุ่ม Home 2 ครั้ง ใน iOS8 นอกจากแถบ multitasking จะแสดงเฉพาะแอพพลิเคชันแล้ว ยังมีการแสดง Recent และ Favorite Contacts เพิ่มขึ้นมาด้านบนของแถบนั้นด้วย เพียงแค่แตะรูปของผู้ที่ต้องการติดต่อ ก็สามารถโทร, ส่งข้อความ หรือ FaceTime ได้ทันที
11. เพิ่มประสิทธิภาพของคีย์บอร์ด
Apple ได้ทำการรื้อคีย์บอร์ดมาปรับปรุงใหม่เพื่อเพิ่มความเร็วและความแม่นยำในการพิมพ์ให้สูงขึ้น โดยเพิ่มฟีเจอร์ในการคาดเดาคำศัพท์ถัดไปที่ผู้ใช้น่าจะพิมพ์จากข้อความในอดีต (QuickType Kyeboard) นอกจากนี้ ยังอนุญาตให้ใช้คีย์บอร์ดของ 3rd Party ได้อีกด้วย (คนอื่นเค้าใช้ฟีเจอร์พวกนี้ได้มาเป็นปีๆแล้ว – -“)
12. ทำงานร่วมกับ OS X ‘Yosemite’
Apple iOS 8 ถูกออกแบบมาให้ทำงานร่วมกับ Mac OS X เวอร์ชันใหม่ ‘Yosemite’ ที่จะออกมาพร้อมๆกันในฤดูใบไม้ร่วงนี้ ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นสำคัญของ iOS และ Mac OS X ที่สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างไร้รอยต่อ เช่น
- สามารถใช้ Mac OS X หรือ iPad รับโทรศัพท์ที่โทรเข้ามายัง iPhone ได้ ตราบเท่าที่ยังอยู่ในวง Wi-Fi เดียวกัน
- สามารถรับส่งข้อความผ่านทาง Mac, iPhone หรือ iPad ก็ได้ ข้อมูลทุกอย่างถูกเชื่อมต่อหากันทั้งหมด
- ซิงโครไนส์ข้อมูลบน Mac, iPhone และ iPad เข้าด้วยกันทั้งหมด เพียงแค่ใช้ชื่อบัญชีบน iCloud เดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นแอพ Mail, Safari, แอพ Productivity และ PIM ของ Apple เช่น ผู้ใช้สร้างอีเมลล์บน iPhone พิมพ์ไปได้ครึ่งหนึ่ง เปลี่ยนใจ มาพิมพ์บน Mac แล้วส่งออกไปได้ทันที
รายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.apple.com/ios/ios8/continuity/
Apple IOS 8 จะเปิดให้ใช้อย่างเป็นทางการในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ โดยรองรับฮาร์ดแวร์ขั้นต่ำ คือ iPhone 4s , iPod Touch Gen 5, iPad 2 และ iPad Mini with Retina Display
รายละเอียดเพิ่มเติม: http://www.apple.com/ios/ios8/enterprise/
ที่มา: http://www.networkworld.com/article/2360675/wireless/apple-ios-8-s-12-best-business-features.html