แม้การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อจัดการความเสี่ยงจะมีบทบาทมากขึ้นทั้งในกระบวนการทางธุรกิจและการตัดสินใจขององค์กร แต่ข้อมูลด้านความเสี่ยงภายในหน่วยงานกลับมีความจำกัดในการจัดการและการใช้งานร่วมกัน ก่อให้เกิดปัญหาการฉ้อโกงและความล้มเหลวในการบังคับใช้นโยบายและข้อกำหนดต่างๆ บทความนี้ SAS Software (Thailand) ได้ออกมาอธิบายถึง 7 เหตุผลว่าทำไมองค์กรต้องมีระบบ Governance & Compliance Manager เพื่อแก้ปัญหาเหล่านั้น
1. บริหารความเสี่ยงเชิงปฏิบัติการได้ดียิ่งขึ้น
Governance & Compliance Manager ช่วยให้องค์กรสามารถเห็นภาพรวมของความเสี่ยงเชิงปฏิบัติการ (Operational Risks) และช่วยให้ผู้บริหารมั่นใจในการบังคับใช้ข้อกำหนดและนโยบายต่างๆ ส่งผลให้สามารถระบุปัญหาและจัดการความเสี่ยงเชิงรุกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. สนับสนุนการตัดสินใจ
Governance & Compliance Manager ช่วยให้องค์กรเข้าใจความเสี่ยงครอบคลุมทุกมุมมองแบบ 360 องศา ทั้งในเรื่องของ Compliance, Risk Exposure และ Obligation รวมไปถึงช่วยแสดงภาพการเชื่อมโยงกันระหว่างการกำกับดูแล ข้อบังคับใช้ต่างๆ ตัวชี้วัดความเสี่ยง และ KPI ทั้งหมดนี้เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจของผู้บริหารให้ดียิ่งขึ้น
3. ยกระดับการประเมินให้ดียิ่งขึ้น
Control Frameworks เป็นหัวใจสำคัญในการยกระดับการประเมินให้ดียิ่งขึ้น ข้อมูลที่บันทึกในระบบจากการทำงานร่วมกันของผู้ที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้บริหารความเสี่ยงสายธุรกิจ และผู้ดูแลกระบวนการเชิงธุรกิจ สามารถนำมาใช้เพื่อปรับปรุงโปรไฟล์ความเสี่ยง ประสิทธิภาพของกระบวนการบริหารความเสี่ยงและภาพรวมของการบริหารจัดการความเสี่ยงเชิงปฏิบัติการให้ดียิ่งขึ้นได้
4. เพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผล
ด้วยการผสานการทำงานร่วมกันระหว่างผู้ดูแลด้านความเสี่ยง ผู้ดูแลด้านกฏหมายและข้อบังคับ และผู้ตรวจประเมิน จะช่วยลดโอกาสเกิดความซ้ำซ้อนของกระบวนการ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการดำเนินธุรกิจ
5. บริหารจัดการ Policy Lifecycle (วัฏจักรการสร้างนโยบาย)
Governance & Compliance Manager มี Workflow สำหรับสนับสนุน Policy Lifecycle แบบครบวงจร ตั้งแต่การสร้าง การสื่อสาร การนำไปใช้ การเฝ้าระวัง การอัปเดต ไปจนถึงการยกเลิกใช้นโยบาย ผู้ดูแลด้านกฎหมายและข้อบังคับสามารถจัดการนโยบายให้สอดคล้องกับการกำกับดูแลและข้อบังคับต่างๆ จากภายนอกได้
6. จัดการเหตุไม่พึงประสงค์และแผนการรับมือ
Governance & Compliance Manager ช่วยให้ผู้ใช้งานตรวจพบความเสี่ยงเชิงปฏิบัติการอุบัติใหม่ และสามารถติดตามหาสาเหตุของความเสี่ยงเหล่านั้น ช่วยให้องค์กรสามารถนิยามและวางแผนรับมือกับเหตุไม่พึงประสงค์ได้อย่างรวดเร็วและเป็นระบบ
7. วางแผนและการจัดการการตรวจประเมิน (Audit)
ช่วยให้การวางแผนตรวจประเมินและการบริหารจัดการด้านกฎหมายและข้อบังคับต่างๆ ในแต่ละรอบอย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงวางแผนการดำเนินการที่พึงกระทำต่อหลักฐานที่ตรวจพบได้ นอกจากนี้ยังช่วยให้การบริหารจัดการและการจัดทำรายงานเป็นไปตามกำหนดเวลา ทำให้มั่นใจว่าผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งภายในและภายนอกจะถูกติดตามและตรวจประเมินอย่างต่อเนื่อง
รู้จัก SAS® Governance and Compliance Manager
SAS® Governance and Compliance Manager เป็นเครื่องมือสำหรับจัดการความเสี่ยงด้านการปฏิบัติการและกลยุทธ์แบบบูรณาการ ครอบคลุมการจัดการความเสี่ยงด้านการเงินขององค์กร ตั้งแต่ส่วนที่เกี่ยวข้องกับความน่าเชื่อถือและการตลาด (Credit & Market) ไปจนถึงความเสี่ยงเชิงปฏิบัติการ (Operational Risks) โดยสามารถเชื่อมโยงกระบวนการด้านความเสี่ยง มาตรการควบคุม เหตุไม่พึงประสงค์ และนโยบายเข้าด้วยกัน ช่วยให้องค์กรมีการกำกับดูแล (Governance) ที่ดียิ่งขึ้น และทำให้มั่นใจว่าการทำงานของระบบสอดคล้องกับหลักปฏิบัติที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมและข้อกำหนดทางกฎหมาย
คุณสมบัติเด่นของ SAS® Governance and Compliance Manager คือ การบริหารจัดการความเสี่ยงเชิงรุกและเป็นระบบ รวมไปถึงการพัฒนาแผนรับมือความเสี่ยงเพื่อจัดการและติดตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ ยกระดับขีดความสามารถในการควบคุมความเสี่ยงขององค์กร ทั้งยังช่วยตรวจจับและป้องกันการละเมิดข้อบังคับและนโยบายขององค์กรได้อีกด้วย ช่วยให้มั่นใจว่าการดำเนินธุรกิจนั้นอยู่ภายใต้ความเสี่ยงที่องค์กรยอมรับได้ เป็นไปตามความคาดหวังของผู้ถือหุ้น สอดคล้องตามกฏหมายและข้อบังคับจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง
ต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ SAS® Governance and Compliance Manager ดาวน์โหลดเอกสาร “สร้างความเชื่อมั่นในการใช้นโยบายและการจัดการความเสี่ยงด้วยการเชื่อมโยงองค์กรของคุณไ้ว้ด้วยกัน” ได้ด้านล่าง