ผลการจัดอันดับ Supercomputer ของ TOP500 ครั้งที่ 53 ออกมาแล้วอย่างเป็นทางการ และถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ทุกระบบในการจัดอันดับนี้มีความเร็วเกินกว่า 1 Petaflops ทั้งหมด เข้าสู่ยุคของ Supercomputer ความเร็วระดับ Peteflops แล้ว โดยใน 10 อันดับแรกมีดังนี้

- Summit โดย IBM และ Department of Energy’s Oak Ridge National Laboratory (ORNL) มีความเร็ว 148.6 Petaflops ใช้ IBM Power9 และ NVIDIA V100 ร่วมกัน
- Sierra โดย IBM และ Department of Energy’s Lawrence Livermore National Laboratory มีความเร็ว 94.6 Petaflops ใช้ IBM Power9 และ NVIDIA V100 ร่วมกัน
- Sunway TaihuLight โดย China’s National Research Center of Parallel Computer Engineering & Technology (NRCPC) มีความเร็ว 93.0 Petaflops ใช้ SW26010 Processor Core จำนวนมากกว่า 10 ล้าน Core
- Tianhe-2A (Milky Way-2A) โดย China’s National University of Defense Technology (NUDT) มีความเร็ว 61.4 Petaflops ใช้ Intel Xeon และ Matrix-2000 ร่วมกัน
- Frontera ระบบใหม่รายเดียวใน Top 10 ครั้งนี้ โดย Dell มีความเร็ว 23.5 Petaflops ใช้ Intel Xeon Platinum 8280 บน Dell C6420
- Piz Daint โดย Cray (ปัจจุบัน HPE เข้าซื้อกิจการแล้ว) มีความเร็ว 21.2 Petaflops ใช้ Intel Xeon และ NVIDIA P100 ร่วมกันบน Cray XC50 ถือเป็นระบบที่เร็วที่สุดในยุโรปเวลานี้
- Trinity โดย Cray (ปัจจุบัน HPE เข้าซื้อกิจการแล้ว) มีความเร็ว 20.2 Petaflops ใช้ Intel Xeon และ Intel Xeon Phi ร่วมกันบน Cray XC40
- AI Bridging Cloud Infrastructure (ABCI) โดย Fujitsu มีความเร็ว 19.9 Petaflops ใช้ Intel Xeon Gold และ NVIDIA Tesla V100 ร่วมกัน
- SuperMUC-NG โดย Lenovo มีความเร็ว 19.5 Petaflops ใช้ Intel Xeon Platinum เชื่อมต่อด้วย Intel Omni-Path
- Lassen โดย IBM มีความเร็ว 18.2 Petaflops ใช้ IBM Power9 และ NVIDIA V100 ร่วมกัน
หากนับถึง 500 อันดับแรก จีนจะเป็นประเทศที่มี Supercomputer มากที่สุดด้วยการติดอันดับมากถึง 219 ระบบ ตามมาด้วยสหรัฐอเมริกาที่ 116 ระบบ, ญี่ปุ่น 29 ระบบ, ฝรั่งเศส 19 ระบบ, สหราชอาณาจักรอังกฤษ 118 ระบบ และเยอรมนี 14 ระบบ
หากนับที่ประสิทธิภาพของ 500 อันดับแรกรวมกัน สหรัฐอเมริกาจะเป็นอันดับหนึ่งที่สัดส่วน 38.4% (Summit และ Sierra ที่ครองสองอันดับแรกมีส่วนแบ่งรวมกัน 15.6%) ตามมาด้วยจีนที่ 29.9%
ในมุมของผู้ผลิต Lenovo นั้นเป็นอันดับหนึ่งที่ 173 ระบบ ตามมาด้วย Inspur 71 ระบบ, Sugon 63 ระบบ, HPE 40 ระบบ, Cray (ก่อนโดน HPE เข้าซื้อกิจการ) 39 ระบบ, Bull 21 ระบบ, Fujitsu 13 ระบบ, IBM 12 ระบบ
ทางด้านหน่วยประมวลผล Intel นั้นมีสัดส่วนการใช้งานมากถึง 95.6% ใน 500 อันดับแรก ตามมาด้วย IBM Power 7 ระบบ, AMD 3 ระบบ และ ARM 1 ระบบ ส่วนระบบที่มีการใช้งาน Accelerator หรือ Coprocesor นั้นมีจำนวน 133 ระบบ เป็น NVIDIA ทั้งสิ้น 125 ระบบ
สำหรับการเชื่อมต่อ Ethernet ยังคงได้รับความนิยมสูงสุดที่ 54.2% ใน 500 อันดับแรก ตามมาด้วย InfiniBand 25% และระบบ Proprietary 10.8% และ Intel Omni-Path 9.8% แต่หากนับเฉพาะ 50 อันดับแรก Proprietary จะมีส่วนแบ่งสูงสุดที่ 40% ตามมาด้วย InfiniBand 38%, Intel Omni-Path 10% และ Ethernet 2%
สำหรับรายชื่อแบบเต็มๆ สามารถตรวจสอบได้ที่ https://www.top500.org/lists/2019/06/ ครับ
ที่มา: https://www.top500.org/news/top500-becomes-a-petaflop-club-for-supercomputers/