ทำไม Access Point มาตรฐาน 802.11ac Wave 2 แบบ 2×2 MIMO จึงไม่เวิร์ก

Wi-Fi เป็นหนึ่งในปัจจัยพื้นฐานที่เกือบทุกองค์กรมีให้บริการแก่พนักงานและลูกค้า และแน่นอนว่าทุกองค์กรต่างต้องการเลือกใช้เทคโนโลยี Wi-Fi ล่าสุดที่มีความเร็วสูงสุด ซึ่งก็คือมาตรฐาน 802.11ac Wave 2 อย่างไรก็ตาม ใหม่สุดและล่าสุด ใช่ว่าจะโอเคที่สุดเสมอไป ตัวอย่างล่าสุดที่พบก็คือ 802.11ac Wave 2 Access Point แบบ 2×2 MIMO อุปกรณ์น้องเล็กสุดที่ Vendors หลายรายให้บริการ

Credit: Diego Schtutman/ShutterStock

บทความนี้ Network World ได้สรุปเนื้อหาว่าทำไม 802.11ac Wave 2 AP แบบ 2×2 MIMO จึงไม่โอเค และแนะนำให้ทุกองค์กรเลือกใช้ Spec แบบอื่นแทน แต่ก่อนอื่นเลย เราควรทำความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับมาตรฐาน 802.11ac Wave 1 และ Wave 2 กันก่อน จุดเด่นที่ Wave 2 เหนือกว่า Wave 1 มีดังนี้

  • Spatial Stream ที่เพิ่มขึ้น – Wave 2 AP ณ ตอนนี้มีจำนวน Spatial Stream สูงสุดที่ 4 ในขณะที่ Wave 1 AP มีแค่ 3 ซึ่งจำนวน Spatial Stream ที่เพิ่มขึ้นมานั้นช่วยให้สามารถรับส่งข้อมูลกับอุปกรณ์ปลายทางได้เร็วขึ้น (เปรียบเทียบตัวเลขง่ายๆ ก็คือ 33%)
  • รองรับช่องสัญญาณขนาด 160 MHz – Wave 2 AP รองรับการทำ Channel Bonding เพื่อขยาย Bandwidth ในการรับส่งข้อมูลเพิ่ม 2 เท่า
  • Multi-User MIMO – ช่วยให้ Wave 2 AP สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ปลายทางได้หลายเครื่องพร้อมกัน เช่น Wave 2 AP แบบ 4×4 MIMO สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ปลายทางแบบ 1×1 ได้ถึง 4 เครื่อง หรือ 2×2 ได้ 2 เครื่องในเวลาเดียวกัน อย่างไรก็ตาม Wave 1 AP แบบ 3×3 สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ปลายทางแบบ 1×1 หรือ 2×2 ได้ทีละเครื่องเท่านั้น เพราะรองรับแค่ Single-User MIMO
ภาพเปรียบเทียบ SU-MIMO และ MU-MIMO จาก Qualcomm

จากความสามารถด้านบน จะเห็นได้ชัดว่า 802.11ac Wave 2 ดีกว่า Wave 1 … ถ้าคิดแบบนั้นแล้วล่ะก็ บอกได้เลย “ไม่ใช่เสมอไป” ด้วยคุณสมบัติที่กล่าวมา Wave 2 จะให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่า Wave 1 ก็ต่อเมื่อเป็น AP แบบ 3×3 หรือ 4×4 เท่านั้น อย่างไรก็ตาม AP เหล่านั้นมักมีราคาค่อนข้างสูง ทำให้ Vendors หลายรายออก Wave 2 AP แบบ 2×2 ซึ่งมีราคาต่ำกว่าเข้าสู่ตลาด เพื่อตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรที่มีงบประมาณไม่มากนัก

ทำไม Wave 2 AP แบบ 2×2 จึงอาจจะไม่ได้ดีกว่า Wave 1 AP

  • Spatial Stream เท่าเดิม – หนึ่งในคุณสมบัติที่เด่นที่สุดของ 802.11ac Wave 2 เทียบกับ Wave 1 คือจำนวน Spatial Stream ที่เพิ่มมากขึ้น แต่สิ่งนี้จะไม่ส่งผลใดๆ ถ้า AP รองรับแค่ 2×2 MIMO ซึ่งทั้ง Wave 2 และ Wave 1 ต่างมี Throughput เท่ากัน
  • 160 MHz ไม่ดีเสมอไป – Wave 2 AP หลายยี่ห้อยังไม่รองรับช่องสัญญาณขนาด 160 MHz และถึงแม้ว่าจะรองรับ เงื่อนไขการใช้งานก็มีจำกัด เนื่องจากช่องสัญญาณขนาดใหญ่ทำให้จำนวนช่องสัญญาณที่ใช้ได้ลดลง ส่งผลให้อาจเกิดการชนกันของคลื่นสัญญาณได้ง่าย หลาย Vendors จึงยังคงแนะนำให้ใช้ช่องสัญญาณขนาด 80 MHz
  • Multi-User MIMO – อีกหนึ่งคุณสมบัติเด่นของ 802.11ac Wave 2 แต่ต้องเข้าใจก่อนว่า MU-MIMO ไม่ได้ช่วยให้ Bandwidth สูงสุดเพิ่มขึ้น แต่เป็นเรื่องของการบริหารจัดการ Bandwidth โดยรวมให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น ถึงแม้ว่า Wave 2 AP แบบ 2×2 จะสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ปลายทางแบบ 1×1 ได้ 2 เครื่องพร้อมกัน แต่ส่วนใหญ่อุปกรณ์ปลายทางในปัจจุบันต่างรองรับ 2×2 ทั้งสิ้น ส่งผลให้สุดท้าย Wave 2 AP ก็จะเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ปลายทางทีละเครื่องอยู่ดี นอกจากนี้ สถิติล่าสุดในปี 2016 จาก IHS ระบุว่า มีเพียง Mobile PC เพียง 1% สมาร์ทโฟน 7% และแท็บเล็ต 0.6% เท่านั้นที่รองรับมาตรฐาน 802.11ac Wave 2 ซึ่ง Vendor รายใหญ่หลายราย เช่น Apple และ Samsung ต่างมองข้าม 802.11ac Wave 2 เตรียมกระโดดไปรองรับมาตรฐาน 802.11ax ในอนาคตอันใกล้นี้ทั้งสิ้น

นอกจากนี้ เทียบกับ Wave 1 AP แล้ว Wave 2 AP มักราคาแพงกว่าประมาณ 2 เท่า ดังนั้น ทีมงาน TechTalkThai แนะนำว่าถ้าองค์กรมีงบประมาณจำกัด และต้องการเลือกใช้ AP มาตรฐาน 802.11ac Wave 2 แบบ 2×2 MIMO จริงๆ แล้วล่ะก็ ให้สอบถามคุณสมบัติกับทาง Vendors ให้แน่ชัดเสียก่อน บางที่การใช้ Wave 1 AP อาจได้ประสิทธิภาพที่ไม่แพ้กันในราคาที่ถูกกว่าก็เป็นได้

ที่มา: http://www.networkworld.com/article/3193058/mobile-wireless/why-2×2-wave-2-access-points-make-no-sense.html

About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

HwaCom Systems เปิดตัว Fiber Monitor โซลูชันใหม่สำหรับการจัดการเครือข่ายไฟเบอร์ออปติก [PR]

HwaCom Systems Inc. ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันเครือข่าย ประกาศเปิดตัว Fiber Monitor ซึ่งเป็นโซลูชันนวัตกรรมใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อปฏิวัติการจัดการเครือข่ายใยแก้วนำแสง ระบบอันล้ำสมัยนี้มอบการตรวจสอบแบบเรียลไทม์ พร้อมการตรวจจับข้อผิดพลาดอัตโนมัติและการแปลความผิดพลาดที่แม่นยำ ช่วยให้มั่นใจได้ว่าเครือข่ายมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และคุ้มค่าในการใช้งาน

Meta เตรียมลงทุนกว่า 10 พันล้านดอลลาร์ในสายเคเบิลอินเทอร์เน็ตใต้ทะเลความยาวรอบโลก

มีรายงานว่า Meta Platforms บริษัทแม่ของ Facebook เตรียมลงทุนกว่า 10 พันล้านดอลลาร์ในโครงการสายเคเบิลอินเทอร์เน็ตใต้ทะเลที่มีความยาวรอบโลก