TechTalkThai ศูนย์รวมข่าว Enterprise IT ออนไลน์แห่งแรกในประเทศไทย
ในงาน Veritas: Redefine Enterprise Resilience เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทีมงาน TechTalkThai ได้มีโอกาสร่วมพูดคุยกับผู้บริหาร Veritas เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยข้อมูลในปัจจุบัน ทั้งเทรนด์ความสนใจของธุรกิจทั่วโลก ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยไซเบอร์ ความหมายของคำว่า Resilience ที่ถูกพูดถึงบ่อยๆ โซลูชันใหม่ๆจาก Veritas รวมไปถึงมุมมองต่อการดำเนินธุรกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลที่กำลังแพร่หลาย และในบทความนี้เราได้สรุปเนื้อหา คำแนะนำ และข้อคิดที่น่าสนใจมาให้ทุกท่านอ่านกันดังต่อไปนี้
โดยผู้บริหาร Veritas ที่เข้าร่วมพูดคุยในครั้งนี้มี 3 ท่าน ได้แก่
- คุณแกรี ซีเวอรส์ รองประธานฝ่ายช่องทางการจำหน่ายและพันธมิตร ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น
- คุณดาร์ริค ฮอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายช่องทางการจำหน่ายและพันธมิตร ประจำภูมิภาคเอเชียใต้และแปซิฟิก
- คุณประมุท ศรีวิเชียร กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทยและอินโดไชน่า
Veritas Alta แพลตฟอร์มจัดการข้อมูลบนคลาวด์ครบวงจร เฝ้าระวังความเสี่ยง ป้องกันการโจมตี และพร้อมแก้ไขสถานการณ์อย่างรวดเร็ว
Veritas นั้นเริ่มต้นจากการเป็นผู้ให้บริการโซลูชันรักษาความปลอดภัยข้อมูลประสิทธิภาพสูง โดยได้รับการจัดให้อยู่ในกลุ่ม Leader ใน Gartner Magic Quadrant มายาวนานถึง 17 ปีซ้อน โซลูชัน NetBackup และ Backup Exec นั้นเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับจากองค์กรทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นสถาบันการเงิน บริษัทเทคโนโลยี สายการบิน และธุรกิจอื่นๆอีกมากมาย
แต่เมื่อโลกธุรกิจเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคดิจิทัลที่มีการจัดเก็บและพึ่งพาการใช้ข้อมูลมากขึ้น Veritas จึงได้พัฒนาแพลตฟอร์มคลาวด์ Veritas Alta ที่มีความสามารถในการจัดการกับข้อมูลทั้งหมดเต็มรูปแบบเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจที่นอกจากจะต้องรักษาความปลอดภัยข้อมูลแล้ว ยังต้องดำเนินการขั้นตอน Governance ที่หลากหลายกับข้อมูล คุณประมุทเล่าให้เราฟังถึง Veritas Alta ที่ประกอบไปด้วย 3 เสาหลักที่จะช่วยจัดการข้อมูลอย่างครอบคลุม เพื่อให้องค์กรมี Reselience ซึ่งหมายถึงความสามารถในการพลิกฟื้นธุรกิจกลับมาดำเนินการเป็นปกติได้ในสถานการณ์ไม่คาดคิด ได้แก่
- Data Protection – ปกป้องข้อมูลและเฝ้าระวังจากความเสี่ยง ตรวจสอบง่ายด้วย Dashboard แสดงผลที่เชื่อมต่อระบบและแหล่งข้อมูลทั้งหมดในองค์กร และใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยตรวจจับและเสริมความปลอดภัยของระบบ
- Application Resiliency – ดูแลระบบขององค์กรให้เสถียรอยู่เสมอ ทั้งการทำ High Availability และ Disaster Recover และการแก้ไขและกู้คืนข้อมูลเมื่อมีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้น
- Data Compliance & Governance – จัดการ Data Governance อย่างมีประสิทธิภาพไม่ตกหล่น เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลนั้นถูกจัดเก็บและเข้าถึงอย่างถูกต้องตามข้อบังคับท้องถิ่น
คุณประมุทเชื่อว่า Veritas Alta คือแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์การจัดการข้อมูลในองค์กรสมัยใหม่ได้อย่างครบถ้วน อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อเข้ากับระบบทั้งแบบ On-premise และบนคลาวด์ทำให้ยืดหยุ่นและง่ายต่อการนำไปใช้งาน ช่วยลดความกังวลถึงการสูญหายของข้อมูลหรือการโจมตีทางไซเบอร์
ความปลอดภัยทางไซเบอร์เมื่อระบบต้องเตรียมพร้อมสำหรับทุกสถานการณ์ความเสี่ยง และกลับมาทำงานเหมือนปกติให้ได้เร็วที่สุด
ประเด็นถัดมาที่ได้พูดคุยกับคุณแกรีคือความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เป็นความกังวลลำดับต้นๆของธุรกิจที่มีการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในปัจจุบัน คุณแกรีกล่าวว่าการถูกโจมตีแต่ละครั้งนั้นธุรกิจต้องคำนึงถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นอย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นการสูญหายของข้อมูล การรั่วไหลของข้อมูล การที่ระบบ เว็บ หรือแอปพลิเคชันเข้าใช้งานไม่ได้ และความเสี่ยงทางกฎหมายที่อาจตามมาจากการโจมตีดังกล่าว
โซลูชันของ Veritas มีการรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานสากล เป็นไปตาม NIST Framework และการกลไกต่างๆเข้ามาลดความเสี่ยง รวมไปถึงเทคโนโลยี AI ที่ถูกนำมาใช้ตรวจจับความผิดปกติ อย่างไรก็ตามความผิดพลาดนั้นเกิดขึ้นได้เสมอ อีกส่วนหนึ่งที่ธุรกิจต้องให้ความสำคัญไม่แพ้กันคือทำอย่างไร Operation ของธุรกิจจะสามารถฟื้นตัวขึ้นมาดำเนินการตามปกติได้อย่างรวดเร็ว ไม่เกิดความเสียหายขึ้นในข้อมูล และรักษาข้อมูลที่มีความสำคัญสูงที่สุดไม่ให้ถูกลบหรือโยกย้ายออกไปได้
ในกรณีเช่นนี้ ธุรกิจจึงจำเป็นจะต้องมีระบบ High Availability และ Disaster Recovery ที่เข้มแข็ง เสริมเข้าไปจากการสำรองข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการจำแนกการจัดเก็บข้อมูลให้เหมาะสมกับลักษณะของข้อมูล และอาจมี Immutable Storage สำหรับข้อมูลที่มีความสำคัญมาก ซึ่งหากธุรกิจเริ่มต้นวางระบบเองทั้งหมดอาจมีการตกหล่น นี่จึงเป็นหนึ่งเหตุผลที่ Veritas พัฒนาแพลตฟอร์ม Veritas Alta ขึ้นเพื่อดูแลขั้นตอนการจัดการข้อมูลทั้งหมดในแพลตฟอร์มเดียว
เล่าถึง Veritas ในประเทศไทย และแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงในยุค Digital Transformation
ในมุมมองของคุณแกรีและคุณดาร์ริค ธุรกิจในประเทศไทยนั้นมีความตื่นตัวเรื่อง Digital Transformation และข้อมูลสูง และมีองค์กรใหญ่หลายรายในอุตสาหกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมการเงิน ค้าปลีก หรือการบริการที่เลือกใช้โซลูชันของ Veritas มายาวนาน ยิ่งในระยะหลังที่มีการขยับธุรกิจไปดำเนินการบนคลาวด์อย่างแพร่หลายและการบังคับใช้กฎหมาย PDPA ก็ยิ่งเห็นได้ชัดถึงการให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลมากขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าธุรกิจในประเทศไทยนั้นเข้าใจถึงประโยชน์ของการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และปรับตัวต่อความเปลี่ยนแปลงนี้อย่างกระตือรือร้น
ในส่วนของธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก Veritas เห็นถึงความสนใจที่เพิ่มมากขึ้นผ่านทางพาร์ทเนอร์ในประเทศไทยที่ได้พูดคุยกับธุรกิจโดยตรง โดยทาง Veritas เชื่อว่าจุดแข็งของพวกเขาในประเทศไทยคือโซลูชันประสิทธิภาพสูงที่ทำงานรักษาความปลอดภัยข้อมูลได้อย่างครบวงจร มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และใช้งานร่วมกับระบบหรือคลาวด์ได้อย่างหลากหลาย อีกทั้งยังได้รับความไว้วางใจจากธุรกิจขนาดใหญ่ในประเทศจำนวนมาก
Veritas ดำเนินการอย่างไรจึงได้รับความไว้วางใจและตอบโจทย์ลูกค้าได้ทุกกลุ่มอุตสาหกรรม
Veritas ในหลายพื้นที่ทั่วโลกนั้นเน้นไปที่การให้บริการผ่านพาร์ทเนอร์ตัวแทนซึ่งเป็นผู้ติดต่อและช่วยธุรกิจออกแบบและติดตั้งโซลูชันใช้งานโดยตรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ดำเนินการผ่านพาร์ทเนอร์เกือบทั้งหมด Veritas ให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของพาร์ทเนอร์ เช่น Rebate สูงสุดถึง 24% และเน้นคุณภาพการดำเนินงานและความเชี่ยวชาญของพาร์ทเนอร์เพื่อให้ลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่าการพิจารณานำโซลูชันจัดการและรักษาความปลอดภัยไปใช้ในองค์กรนั้นเป็นไปอย่างเหมาะสม ตอบโจทย์ความต้องการและมีประสิทธิภาพที่สุด
คุณดาร์ริคเล่าว่าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนั้นมีความตื่นตัวเป็นอย่างมากด้านการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลในช่วงที่ผ่านมา และมีการนำ Cloud เข้ามาใช้ในธุรกิจสูงมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น Veritas จึงพัฒนาโซลูชันที่สามารถทำงานร่วมกับคลาวด์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เชื่อมต่อเป็นระบบ Hybrid Cloud ได้ และสามารถเริ่มใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งในปัจจุบันก็มีโซลูชันให้เลือกทั้งแบบ On-premise เช่าใช้ผ่านคลาวด์ รวมถึงการพาร์ทเนอร์กับผู้ให้บริการคลาวด์สาธารณะระดับโลก
ปัจจุบัน Veritas ได้รับการไว้วางใจจากองค์กรขนาดใหญ่จำนวนมากในโลกและประเทศไทย และด้วยความน่าเชื่อถือนี้ องค์กรขนาดกลางและขนาดเล็กก็เริ่มให้ความสนใจในโซลูชันรักษาความปลอดภัยของ Veritas กันมากขึ้น จึงมีโซลูชันและแพลนการใช้งานที่ตอบโจทย์ SMEs เพิ่มเติมด้วย โดยในปีที่ผ่านมามีลูกค้า SMEs ในประเทศไทยเพิ่มกว่า 130% ในบริการแบบ Subscription
ป้องกันรัดกุม แก้ไขข้อผิดพลาดไว คือคุณสมบัติของธุรกิจยุคใหม่
ก่อนจากกัน ผู้บริหารทั้ง 3 ของ Veritas ได้ฝากมุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับธุรกิจในยุคปัจจุบัน ว่าการป้องกันความเสี่ยงอย่างแน่นหนานั้นแน่นอนว่าเป็นเรื่องสำคัญอย่างไม่ต้องสงสัย แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือการทำให้ธุรกิจมี Resilience ที่มากพอที่จะรับมือกับความไม่แน่นอน หากปรับตัวและแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว มีเครื่องมือที่พร้อมช่วยธุรกิจที่สะดุดล้มกลับมาเดินหน้าได้อย่างราบรื่น ความไม่แน่นอนต่างๆก็จะไม่กระทบการดำเนินการของธุรกิจมากนัก
Veritas มีพาร์ทเนอร์ให้บริการในไทยผู้มากประสบการณ์อยู่มากมาย หากสนใจศึกษาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของ Veritas เพิ่มเติม สามารถติดต่อเพื่อพูดคุยกับพวกเขาได้ หรือติดต่อทีมงาน Veritas Thailand โดยตรงได้ที่อีเมล sales@veritasthailand.com หรือไลน์ไอดี @veritasthailand
อ่านรายละเอียดของและโซลูชันจาก Veritas และความรู้เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.veritas.com
