หนึ่งในงานนิทรรศการด้านเทคโนโลยีชั้นนำของโลก คือ COMPUTEX ที่ปี 2025 นี้มาในธีม AI Next ซึ่งแสดงให้เห็นชัดเจนว่า AI ยังคงเป็นเทรนด์โลกที่แทบทุกแบรนด์ ผลิตภัณฑ์ โซลูชัน จะมีคำว่า AI ผสานอยู่ภายในทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของทางฝั่ง Enterprise เช่น Data Center, Robotics, IoT, Data Protection หรือว่าฝั่ง Consumer เช่น เครื่องโน้ตบุ๊ก, พีซี, กล้องวงจรปิด, พื้นที่จัดเก็บข้อมูล ฯลฯ

สำหรับปีนี้ ทีมงานได้มีโอกาสไปเข้าร่วมงาน COMPUTEX 2025 โดย Synology ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งภายในงานนี้ Synology ได้เปิดตัวโซลูชันหลากหลายรูปแบบ พร้อมกับได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้บริหารที่ตอกย้ำชัดเจนว่า “NAS ไม่ใช่แค่ Storage แต่เป็นโซลูชันแล้ว” มีอะไรจากทาง Synology ในงาน COMPUTEX 2025 นี้บ้าง ติดตามได้ในบทความนี้











PAS7700 หนุน Data Protection ระดับองค์กรสำหรับงาน Mission Critical
ภายในงาน COMPUTEX 2025 ทาง Synology ได้เปิดตัวโซลูชัน Storage เรือธงใหม่ล่าสุด “PAS7700” โซลูชัน Active-Active NVMe All-Flash Storage ประสิทธิภาพสูง ที่พร้อมสนับสนุนองค์กรระดับ Enterprise ที่มี Workload แบบ Mission Critical

ไม่ว่า Workload ที่องค์กรใช้งานจะเป็นจะเป็น Container, Hypervisor, Database หรือ Electronic Design Automation (EDA) โซลูชัน PAS7700 นี้ สามารถรองรับได้อย่างครอบคลุมผ่านขุมพลังจาก AMD EPYC ที่ทำให้มี Throughput แรงเร็วระดับ 2 ล้าน IOPS รองรับได้ 48 NVMe SSD ตัวภายในขนาด 4U ที่สามารถ Scale Up ได้ระดับเพตะไบต์ (Petabyte หรือ PB)


PAS7700 ของ Synology นี้พร้อมรองรับได้ทั้งการจัดเก็บที่เป็น File Storage และ Block Storage ในหลากหลายรูปแบบ โดย Synology ชูจุดเด่นใน PAS Series ใน 3 ส่วน ได้แก่
บริการแบบไม่มีหยุดชะงัก (Non-Disruptive Service)
ทุกส่วนภายในซีรีส์นี้จะสามารถจัดการได้หมด ผ่าน 5 Tiers ที่จะมีการปกป้อง เข้ารหัส การควบคุมสิทธิ หรือการ Failover ได้ภายใน 5 วินาที รวมทั้งสามารถ Synchronous Replication ทำซ้ำข้อมูลไปอีกที่หนึ่งได้ในระดับวินาที พร้อมรองรับแนวทาง 3-2-1-1-0 (3 Copies 2 Media 1 Off-site 1 Immutable และ 0 Error) ได้อย่างมั่นใจ


สมรรถนะระดับเรือธง (Flagship Performance)
Synology PAS7700 มาพร้อมประสิทธิภาพระดับเรือธงแบบ End-To-End NVMe Architecture ที่มีประสิทธิภาพเหนือกว่ารุ่น Synology SA6400 หรือ Synology FS6400 ก่อนหน้าราว 3 เท่า ซึ่งภายในงานทาง Synology ได้จำลองสถานการณ์การบูท VDI พร้อม ๆ กัน 1,000 เครื่องได้เสร็จภายในเวลาเพียง 1 นาที รวมทั้งการอ่านเขียน SQL ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นการจำลองสภาพแวดล้อมการทำงานของพนักงานองค์กรขนาดใหญ่ที่มาเริ่มงานพร้อมกันในช่วงเช้าได้และการทำงานจริงบางส่วนได้อย่างไหลลื่น


ประสิทธิภาพการจัดเก็บข้อมูล (Storage Efficiency)
พื้นที่จัดเก็บบน PAS7700 สามารถรองรับความจุ NVMe Storage ได้ระดับ Petabyte-Scale สูงสุดถึง 1.65 PB รวมทั้งยังสามารถทำ Data Duplication ทั้งแบบ Inline และ Offline ในอัตราส่วน 5:1 ซึ่งจะทำให้อายุการใช้งานของพื้นที่จัดเก็บนานมากขึ้น ประหยัดพื้นที่มากขึ้น อีกทั้งยังมีโซลูชันแบบ Smart Data Tiering ที่สามารถกำหนด Policy ในการย้ายข้อมูลไปจัดเก็บไว้ในที่อื่น ๆ ได้ตามความถี่ของการใช้งาน



หากองค์กรใดที่มี Workload แบบ Mission Critical ที่ต้องปกป้องข้อมูลและต้องใช้งานในระดับที่พลาดไม่ได้ PAS Series คือหนึ่งในทางเลือกที่ควรพิจารณานำไปปรับใช้ตามวิธี 3-2-1-1-0 ซึ่งท้ายเซสชัน ทาง Synology เผยว่าบริษัทมีโซลูชันที่ครอบคุลมในแทบทุกตลาดแล้ว และ PAS7700 นี้มีประสิทธิภาพโดยรวมดีที่สุดของบริษัท ณ ตอนนี้ โดยคาดว่าจะเริ่มปล่อยออกมาในช่วง Q1 2026 ที่จะถึงนี้


C2 Surveillance ระบบบริหารจัดการวีดีโอผ่าน Cloud ของ Synology
Synology ไม่ได้มีแค่เฉพาะโซลูชัน Storage เพียงเท่านั้น แต่ยังมีโซลูชันอื่น ๆ หลากหลายรูปแบบ เช่น Office Suite ซอฟต์แวร์สำหรับเสริม Productivity การทำงานต่าง ๆ ที่ใช้งานได้ฟรี รวมทั้งโซลูชันกล้องวงจรปิดหรือ Surveillance ที่มีผลิตภัณฑ์ครบทั้ง Ecosystem

ภายในงานนี้ Synology ได้เปิดตัว Synology C2 Surveillance ซึ่งเป็นบริการ Video Surveillance-as-a-Service (VSaaS) ผ่าน Cloud ของ Synolopgy ที่จะทำให้ผู้ที่ต้องการระบบกล้องวงจรปิดสามารถเริ่มต้นได้อย่างรวดเร็วที่สุดและง่ายดายที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับองค์กรที่ไม่มีผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีที่จะมาสนับสนุนการบริหารจัดการหรือดูแลอุปกรณ์สำหรับโซลูชันกล้องวงจรปิดต่าง ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง

สำหรับผู้ใช้งานมีกล้องวงจรปิดอยู่แล้วแต่ยังไม่มีอุปกรณ์ NVR หรือ DVA สามารถเลือกใช้งาน Synology C2 Surveillance เพื่อเริ่มต้นบริหารจัดการวีดีโอจากกล้องต่าง ๆ ได้อย่างงง่ายดายและทันที โดย C2 Surveillance ที่จะเป็นเสมือน Portal กลางให้สามารถเชื่อมโยงกล้องต่าง ๆ ที่มีในแต่ละไซต์ มาบริหารจัดการรวมศูนย์ได้ในที่เดียว

โดย Synology ได้ชูจุดเด่น 3 Component หลักที่อยู่ภายใน C2 Surveillance ใหม่นี้ ได้แก่
- Plug-and-play Deployment สามารถเพิ่มกล้องจากไซต์ต่าง ๆ มาบริหารจัดการได้อย่างง่ายดาย ภายในไม่กี่นาทีก็สามารถเพิ่มกล้องใหม่เข้าไปได้ทันที รวมทั้งมี Multi-View Dashboard ที่สามารถเปรียบเทียบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละไซต์ได้แบบ Real-Time อีกด้วย

- Continuity-first Infrastructure การดำเนินการยังคงเดินไปได้อย่างต่อเนื่องด้วย Failover Offline Mode ประกอบกับมี microSD ระดับอุตสาหกรรมที่จะช่วยทำให้จัดเก็บข้อมูลที่กล้องได้ต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง ดังนั้น แม้ว่าอินเทอร์เน็ตจะหายไป กล้องวงจรปิดก็ยังสามารถทำงานและบันทึกเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง

- Smarter Scaling สามารถบริหารจัดการสิทธิการเข้าถึงของผู้ใช้ได้อย่างไร้รอยต่อ ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดสิทธิการใช้งานตามไซต์หรือตาม Role ซึ่งสามารถจัดการได้อย่างยืดหยุ่น รวมทั้งการมีฟีเจอร์ Bandwidth Optimization เพื่อช่วยประหยัด Bandwidth ได้ราว 50% ในกรณีที่มีจำนวนกล้องเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ได้ในขณะที่รายละเอียดของภาพวีดีโอยังคงครบถ้วนเช่นเดิม


และในช่วงท้ายเซสชัน ทาง Synology ได้เผยแนวทางที่จะทำให้การทำ Surveillance ของทุกคนมีทางเลือกที่หลากหลายมากมาย โดยอนาคตอันใกล้ บริษัทเตรียมที่จะเปิดตัวโซลูชันที่เป็นลักษณะ Hybrid Surveillance ที่จะทำให้มีอิสระในตัวเลือก (Freedom of Choice) ได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะต้องการใช้งานในลักษณะ On-Premises หรือ On-Cloud หรือว่าจะใช้กล้องยี่ห้อใด PoE Switch แบบใดก็ตาม Synology พร้อมรองรับได้ในทุก ๆ รูปแบบโดยแท้จริง

Synology ตอกย้ำ NAS ไม่ใช่แค่ Storage แต่เป็น “โซลูชัน”
ภายในงานได้มีโอกาสพูดคุยกับ คุณธัชวรรณ ชินชนากานต์ ผู้จัดการฝ่ายการขายระดับภูมิภาคแห่ง Synology และ คุณรหัท บุญตันจีน ผู้จัดการฝ่ายขายประเทศไทยแห่ง Synology ที่ตอกย้ำชัดเจนว่า NAS ในปัจจุบันของบริษัทนั้นไม่ใช่แค่พื้นที่จัดเก็บหรือ Storage อีกต่อไปแล้ว แต่จะมาเป็นโซลูชันที่มีเครื่องมือสนับสนุนต่าง ๆ ให้อย่างครบวงจร

“อยากให้ทุกคนเปลี่ยนภาพจำ ว่า NAS ไม่ใช่แค่ Storage แล้ว แต่เป็นโซลูชันแล้ว” คุณธัชวรรณ ชินชนากานต์ ผู้จัดการฝ่ายการขายระดับภูมิภาคแห่ง Synology กล่าว
เพราะข้อมูลใหม่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก โซลูชันบริหารจัดการข้อมูลและพื้นที่จัดเก็บจึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญกับทั้งองค์กรและผู้ใช้งานทั่วไป ทั้งในตลาดไทยและในเอเชียยังคงเป็นภูมิภาคที่สำคัญสำหรับ Synology ซึ่งด้วยราคา ความยืดหยุ่น และโซลูชันที่ครบวงจรของ Synology จึงทำให้กลายตัวเลือกที่ทุกคนเลือกใช้ช่วงที่วิกฤตต่าง ๆ เกิดขึ้นทั่วโลก

“การเพิ่มขึ้นของข้อมูลที่ไม่มีวันลดลง จึงทำให้ผู้คนให้ความสำคัญกับเรื่อง Storage, File Management และ Data Protection มากขึ้นเรื่อย ๆ” คุณรหัท บุญตันจีน ผู้จัดการฝ่ายขายประเทศไทยแห่ง Synology กล่าว “หนึ่งในกรณีที่เหนือกว่าของ Synology คือการ Scale เวลาในการจัดเก็บข้อมูลจากกล้องหลายร้อยตัว ซึ่ง Synology สามารถรองรับการเก็บข้อมูลวีดีโอย้อนหลังจาก 30 วันเป็น 700 วันจากกล้องราว 800 ตัวได้อย่างง่ายดาย”
ก่อนจบเซสชัน ทั้งสองได้เน้นย้ำถึง 3 เทรนด์ของโลกที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ได้แก่ ข้อมูลจะมีมากขึ้นเรื่อย ๆ ข้อมูลจำเป็นจะต้องมีการปกป้อง (Protection) และการแชร์ข้อมูลจะต้องมีความมั่นคงปลอดภัย ซึ่งทั้ง 3 สามารถเกิดขึ้นได้อย่างมั่นใจผ่านโซลูชันของ Synology
บทส่งท้าย
ทั้งหมดนี้คือโซลูชันต่าง ๆ ที่ Synology เปิดตัวภายในงาน COMPUTEX 2025 ล่าสุดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมกับแนวคิดและวิสัยทัศน์ที่ Synology มองว่าโลกอนาคตเรื่องข้อมูลจะเป็นสิ่งที่สำคัญ ที่ไม่ว่าจะเป็นองค์กรหรือผู้ใช้ทั่วไปก็ควรให้ความสำคัญทั้งสิ้น ดังนั้น Synology จึงเป็นทางเลือกที่มั่นใจในการปกป้องข้อมูลองค์กรหรือส่วนบุคคล ที่สำคัญยังสามารถประยุกต์ใช้ทำ Surveillance ได้อย่างง่ายดายอีกด้วย
สุดท้ายนี้ สำหรับองค์กรหรือผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์โซลูชันใด ๆ ของ Synology ติดต่อขอข้อมูลเพิ่มเติมจาก Synology ได้ที่ https://sy.to/j2lvu ได้ทันที