หลายประเทศในเขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต้องประสบปัญหาจากการใช้อินเทอร์เน็ตในช่วงไม่กี่วันมานี้ จากการตรวจสอบล่าสุดพบว่ามีสาเหตุมาจากสายเคเบิลใต้ทะเลที่เชื่อมต่อระหว่างเอเชียและประเทศต่างๆ ถูกตัดขาดหลายจุดอันเนื่องมาจากพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้อินเทอร์เน็ตของ ISP หลายรายในเขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทำงานได้ช้าลงหรือหยุดทำงาน
แหล่งข่าวหลายแห่งออกมาระบุว่า สายเคเบิลใต้ทะเลที่เป็นเกตเวย์ออกอินเทอร์เน็ตที่ได้รับความเสียหายในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาประกอบด้วย 4 สาย ได้แก่
- Asia-American Gateway (AAG) – สายเคเบิลที่เชื่อมระหว่างเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และสหรัฐฯ ระยะทางกว่า 20,000 กิโลเมตร ได้รับความเสียหาย 2 จุดห่างจากสถานีปลายทางที่ฮ่องกง 66 กิโลเมตร และ 85 กิโลเมตร
- Intra-Asia (IA) – สายเคเบิลของเครือข่าย Tata Global Network (TGN) ที่เชื่อมสิงคโปร์ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ฮ่องกง ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ เข้าด้วยกัน ได้รับความเสียหายห่างจากฮ่องกง 54 กิโลเมตร
- ASE (Asia Submarine-cable Express) – สายเคเบิลของ NTT, PLDT, Telekom Malaysia และ Starhub ที่เชื่อมญี่ปุ่น ฮ่องกง ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และสิงคโปร์ ได้รับความเสียหาย ณ จุดที่ห่างจากฮ่องกงประมาณ 63.5 กิโลเมตร
- SEA-ME-WE3 (SMW3) – ได้รับความเสียหายบริเวณระหว่างสิงคโปร์และเมืองเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย
จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนี้ ส่งผลให้ ISP ในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เกือบทั้งหมดประสบปัญหาการให้บริการอินเทอร์เน็ตล่าช้า หรือต้องหยุดให้บริการชั่วคราว ซึ่งผู้เชี่ยวชาญหลายรายออกมาให้ความเห็นว่า ต้องใช้เวลาประมาณ 1 เดือน (ประมาณกลางเดือนตุลาคม) จึงจะสามารถซ่อมแซมสายเคเบิลได้เสร็จ และอินเทอร์เน็ตจะกลับมาใช้งานได้ตามปกติ
ที่มา: https://snowtechstuff.com/confirmed-slow-internet-se-asia-countries-due-to-broken-undersea-cables/