อย่างที่รู้กันแล้วว่าเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) นั้นได้เติบโตขึ้นมาอย่างก้าวกระโดดในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ซึ่งหนึ่งในโซลูชันที่พิสูจน์ถึงพัฒนาการได้อย่างชัดเจน นั่นคือระบบรู้จำใบหน้าและวัตถุต่าง ๆ ที่ ณ ปัจจุบัน ระบบ AI ก็สามารถดำเนินการได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วมากขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างหลากหลาย เช่น การยืนยันตัวตนในแอปหรือตามร้านค้าปลีกต่าง ๆ หรือว่าการทำ e-KYC ดังที่เห็นกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกวันนี้
ถ้าหากพูดถึงเรื่องระบบรู้จำใบหน้าแล้ว “NtechLab” คืออีกหนึ่งบริษัทระดับโลก (Global Company) ที่มีชื่อเสียงในด้านการวิเคราะห์วิดีโอและ เทคโนโลยีรู้จำใบหน้าอันทรงประสิทธิภาพที่มีชื่อว่า“FindFace Multi” แพลตฟอร์มวิเคราะห์วิดีโอสำหรับรู้จำใบหน้าและวัตถุ ซึ่งล่าสุดปี 2022 นี้เอง Financial Times ได้จัดลำดับ NtechLab เป็น 1 ใน 1,000 บริษัทที่เติบโตเร็วที่สุดในยุโรปอีกด้วย บทความนี้ ทีมงาน TechTalk Thai จะพามารู้จักกับ NtechLab ให้มากขึ้นกันครับ
เทคโนโลยีรู้จำใบหน้า ร่างกาย และเลขทะเบียนรถ
(Face, Body and License Plate Number Recognition)
ในวงการปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) งานประเภทหนึ่งที่กำลังมีพัฒนาการอย่างก้าวกระโดดนั่นคือการรู้จำวัตถุ (Object Recognition) จากภาพหรือวิดีโอที่มีความชาญฉลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นรู้จำเพื่อคัดแยกว่าวัตถุอะไรอยู่ตรงไหนแล้ว ยังสามารถแจกแจงรายละเอียดได้ด้วยว่าวัตถุนั้น ๆ มี “คุณลักษณะ” ภายนอกอย่างไรบ้าง เช่น การอธิบายว่าวัตถุนั้นคืออะไร สีอะไร และอยู่ตำแหน่งใดในภาพ
ด้วยพัฒนาการของเทคโนโลยีดังกล่าว จึงสามารถต่อยอดมาทำเป็นโซลูชันรู้จำสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย อย่างเช่น ใบหน้า (Face) ร่างกาย (Body) ไปจนถึงเลขทะเบียนรถยนต์ (License Plate Number) ซึ่งหลักการทั่วไปมักจะดำเนินการเป็น 2 ขั้นตอน ได้แก่ การตรวจหา (Detection) และการรู้จำ (Recognition) ซึ่งแปลว่าไม่ว่าจะค้นหาอะไรในภาพหรือวิดีโอ ขั้นแรกสุดคือต้องสามารถตรวจหาให้พบและคัดแยกได้ก่อนว่าวัตถุนั้นคืออะไร แล้วจึงค่อยรู้จำในขั้นตอนถัดไปว่ารายละเอียดของวัตถุนั้น ๆ คืออะไรในลำดับต่อไป
ตัวอย่างระบบรู้จำใบหน้า (Facial Recognition) ที่นิยมใช้กันมาก ๆ และน่าจะทำให้เห็นได้ชัดเจนขึ้น นั่นคือ Face ID ที่ใช้ปลดล็อกเครื่องโทรศัพท์ iPhone ซึ่งเป็นการใช้ใบหน้าของผู้ใช้มายืนยันแทนพาสเวิร์ดว่ามีสิทธิเข้าสู่โทรศัพท์ได้จริง ๆ ซึ่งไม่ว่าผู้ใช้จะอยู่ในอารมณ์ไหน เช่น เศร้า ร้องไห้ โมโห หรือว่าใส่แว่นตา ก็สามารถปลดล็อกได้อย่างแม่นยำ
NtechLab กับการเติบโตแบบก้าวกระโดด
NtechLab คือบริษัทปัญญาประดิษฐ์ที่เชี่ยวชาญในการวิเคราะห์วิดีโอและเทคโนโลยีรู้จำใบหน้า โดยก่อตั้งขึ้นมาเมื่อปี 2015 ซึ่งนับถึงวันนี้บริษัทมีอายุเพียงแค่ราว 7 ปีเท่านั้น หากแต่ปัจจุบัน NtechLab มีสาขาอยู่ตามมุมเมืองของโลกกว่า 23 ประเทศแล้วทั้งในโซนตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือ แอฟริกาใต้ ยุโรป รวมทั้งในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เรานี้ด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังมีกล้องที่เชื่อมโยงกับระบบรู้จำใบหน้าของทาง NtechLab อยู่ทั่วโลกกว่าสี่หมื่นตัวด้วย สิ่งนี้คือส่วนหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงการใช้งานระบบรู้จำใบหน้าอย่างแพร่หลายแทบทุกภูมิภาคแล้วในโลกใบนี้
ล่าสุด Financial Times ได้มีการจัดลำดับ FT 1000 หรือหนึ่งพันบริษัทที่มีการเติบโตเร็วที่สุดในยุโรปประจำปีเป็นครั้งที่ 6 ประจำปี 2022 นี้ ซึ่ง NtechLab ได้มีชื่ออยู่ในลิสต์นี้ด้วยในลำดับที่ 102 ตามที่บริษัทมีอัตราการเติบโตต่อปีทบต้นถึง 122% ในช่วงปี 2017 – 2020 ที่ผ่านมา โดยในปีที่ผ่านมานั้นส่วนที่เติบโตโดดเด่นที่สุดคือส่วนตลาดการค้าระหว่างธุรกิจ (Business to Business : B2B) ที่โตขึ้นถึง 202% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
นอกจากนี้ อัลกอริธึมรู้จำใบหน้าของ NtechLab ยังได้รับการจัดอันดับในการทดสอบรู้จำใบหน้า (Face Recognition Vendor Test) ที่ดำเนินการโดยสถาบันมาตรฐานและเทคโนโลยีแห่งชาติ (National Institute of Standards : NIST) ของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐอเมริกาหรือ FRVT 1:1 Verification ที่แข่งกันตรวจสอบว่า 2 ภาพนั้นเป็นบุคคลคนเดียวกันหรือไม่ โดยการแข่งขันในปี 2021 ที่ผ่านมานั้นโมเดล AI ของ NtechLab ก็ได้ถูกจัดลำดับไว้เป็น Top-3 ของโลกเลยทีเดียว ทั้งหมดนี้ จึงพูดได้เต็มปากเลยว่า NtechLab คือหนึ่งในบริษัทที่มีการเติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้อย่างแน่นอน
FindFace Multi ระบบรู้จำใบหน้าและวัตถุลักษณะท่าทางอันทรงพลัง
สำหรับผลิตภัณฑ์อันโดดเด่นของ NtechLab นั่นก็คือ FindFace Multi ที่สามารถรู้จำใบหน้า ท่าทางของมนุษย์ และวัตถุโดยเฉพาะรถยนต์และป้ายทะเบียนจากวิดีโอหรือภาพได้อย่างรวดเร็วแม่นยำ ซึ่ง NtechLab เคลมด้วยว่า เทคโนโลยีรู้จำใบหน้าของบริษัทนั้นสามารถตรวจจับได้เร็วระดับ 0.1 วินาที และสามารถรู้จำใบหน้าได้แม่นยำถึง 99.99% เลยทีเดียว
ที่สำคัญ ระบบรู้จำใบหน้าของ NtechLab ยังสามารถ “คาดการณ์” คุณลักษณะของบุคคลนั้น ๆ ออกมาได้ทันทีด้วย เช่น อายุประมาณเท่าไร มีหนวดหรือไม่ สีหน้าอารมณ์เป็นอย่างไร เพศอะไร ใส่แว่นตาไหม ใส่หน้ากากหรือไม่ อีกทั้งตรวจจับได้ด้วยว่าใบหน้านั้นเป็นคนจริง ๆ หรือเป็นภาพมาหลอก ซึ่งตามภาพด้านล่างจะเห็นว่าระบบของ NtechLab ตอบออกมาได้อย่างแม่นยำ ซึ่งจะมี “ค่าความมั่นใจ (Confidence)” ของระบบ AI แสดงออกมาด้วย
สำหรับเทคโนโลยีรู้จำใบหน้า ทีมงาน NtechLab ยังบอกด้วยว่า แม้แต่คนใส่หน้ากากหรือใส่แว่นตากันแดดมาจนอาจจะแทบมองไม่เห็นรายละเอียด คนที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วจนได้ภาพเบลอมารู้จำ หรือว่าคนที่อายุมากขึ้นจนมีรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าแล้วก็ตาม ดังภาพด้านล่างเหล่านี้จะเห็นได้ว่าเทคโนโลยี NtechLab ก็ยังสามารถรู้จำใบหน้าได้อย่างแม่นยำเช่นเคย ซึ่งถ้าหากอยู่ในสภาวะที่เหมาะสม ก็คงจะให้คำตอบออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบแน่นอน
นอกจากนี้ NtechLab ยังมีระบบรู้จำท่าทางร่างกาย และเลขทะเบียนรถยนต์ที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ อีกด้วย โดยเฉพาะรถยนต์ที่สามารถบอกยี่ห้อ ประเภท (เช่น ซีดาน มินิแวน ฯลฯ) รุ่น สี ประเภทป้ายทะเบียนได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำ ซึ่งที่สำคัญคือสามารถรู้จำได้พร้อม ๆ กันหลายเลนรถยนต์อีกด้วย
ตามวิดีโอด้านล่างจะเห็นได้ว่าระบบสามารถตรวจจับและรู้จำมนุษย์และรถยนต์ได้พร้อม ๆ กัน โดยโซลูชันลักษณะนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างหลากหลาย ซึ่งจะสามารถต่อยอดใช้งานในภาคธุรกิจได้ เช่น การจัดการกับประตูรักษาความปลอดภัยที่อนุญาตให้เฉพาะพนักงานให้สามารถเข้าพื้นที่ได้ หรือว่ารถยนต์เลขทะเบียนที่มีบันทึกเป็น Whitelist ในระบบให้ไม้กั้นเปิดขึ้นมาได้อัตโนมัติ หรือในร้านค้าปลีกที่รับชำระเงินด้วยการสแกนใบหน้าแทน เป็นต้น
สืบค้นข้อมูล ตรวจสอบ ติดตาม ได้อย่างรวดเร็ว
อีกจิ๊กซอว์หนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการใช้เทคโนโลยีรู้จำใบหน้าหรือเลขทะเบียนรถยนต์จากการวิเคราะห์วิดีโอมักจะต้องการด้วยนั้นคือ ระบบสืบค้นข้อมูล (Search Engine) ที่สามารถสืบค้นใบหน้าหรือว่าเลขทะเบียนรถยนต์ที่ต้องการตรวจสอบติดตามได้อย่างรวดเร็ว
โดยภายในโซลูชันแพลตฟอร์มของ NtechLab นั้นจะมีหน้าจอระบบสืบค้นรองรับความต้องการไว้แล้วเรียบร้อย ทำให้ผู้ใช้งานสามารถสืบค้น (Search) ตามเงื่อนไขที่ต้องการได้อย่างสะดวกรวดเร็ว เช่น การค้นหาใบหน้าผู้ที่เป็นพนักงานที่เข้าพื้นที่ในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ พร้อมทั้งสามารถกรองสีผม หนวดเครา หรือตามลักษณะภายนอกที่รู้จำได้เพิ่มเติม ทำให้ผู้ใช้สามารถลงลึกในรายละเอียดที่สนใจได้มากขึ้นกว่าเดิม
การมีระบบรู้จำใบหน้าหรือทะเบียนรถยนต์ที่แม่นยำ และพร้อมให้สืบค้นได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ จะทำให้ผู้ใช้สามารถติดตามคนหรือรถยนต์ที่สนใจว่าได้ไปผ่านหรืออยู่ในบริเวณกล้องใด ณ เวลาใดบ้างได้อย่างสะดวก ทำให้การตรวจสอบเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วหากเกิดกรณีเหตุการณ์ใด ๆ ขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นการช่วยค้นหาบุคคลสูญหาย ปิดคดีความต่าง ๆ หรือช่วยตรวจสอบเหตุการณ์ภายในร้านค้า โรงเรียน เป็นต้น
NtechLab กับมุมมองเรื่องความเป็นส่วนตัว
หลาย ๆ คนที่สนใจโซลูชันของ NtechLab อาจจะรู้สึกกังวลใจในเรื่องความเป็นส่วนตัว (Privacy) หรือว่ามีความกังวลเรื่องของข้อมูลส่วนตัวที่อาจจะไปตกอยู่ในมือของต่างชาติ หากแต่ทาง NtechLab ได้ให้ข้อมูลว่าโซลูชันจาก NtechLab นี้จะให้บริการเฉพาะตัวโซลูชันเท่านั้นในลักษณะของ Cloud-based ไม่ใช่การฝังระบบไว้ที่กล้อง ซึ่งส่วนของทรัพยากรต่าง ๆ อย่างเช่น เครื่องเซิร์ฟเวอร์ คลาวด์ ฐานข้อมูล หรือว่ากล้องต่าง ๆ นั้นจะขึ้นอยู่กับผู้ใช้เองว่าจะวางระบบไว้แบบ On Premises หรือว่าบน Private Cloud ซึ่งส่วนนี้จะถูกดูแลจัดการโดยผู้ใช้งานเองทั้งหมด ดังนั้น NtechLab จะไม่ได้มีข้อมูลของผู้ใช้ไปแต่อย่างใดทั้งสิ้น
“มันเป็นเรื่องปกติที่มักจะมีข้อกังวลเรื่องของการใช้งานระบบรู้จำใบหน้า อย่างเช่นคนทั่วไปมักจะกลัวว่าคนเก็บข้อมูลจะสามารถสอดแนมใครก็ได้ แต่แท้จริงแล้วมันจะไม่เกิดขึ้น เพราะว่ามันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ทั้งเรื่องโซลูชันและราคาพื้นที่จัดเก็บที่ค่อนข้างแพง รวมทั้งการมีข้อมูลมหาศาลก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ทันทีข้ามคืน” Regional Director, International Business แห่ง NtechLab คุณ Dmitry Tameev กล่าว “หากเป็นภาครัฐที่มีศักยภาพก็อาจจะจัดเก็บเป็น Big Data เพื่อเอาไปวิเคราะห์ในลักษณะต่าง ๆ เช่นว่าพื้นที่ใด ๆ ในเดือนไหนมีผู้คนเพศใดเดินทางมากกว่ากัน เป็นต้น”
นอกจากนี้ ระบบสืบค้นข้อมูลหลังจากตรวจจับและรู้จำได้นั้น ทาง NtechLab มีระบบพร้อม API รองรับไว้หมด ทำให้ผู้ใช้งานสามารถนำไปต่อยอดใช้งานได้ทันที ไม่ว่าจะใช้งานผ่านหน้าจอสืบค้นข้อมูลที่ให้บริการ หรือว่าจะสร้างเป็นหน้าจอใหม่ครอบ API ของทาง NtechLab เพื่อใช้งานในลักษณะที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นก็ทำได้สะดวก ซึ่งระบบนี้ก็จะเป็นการสืบค้นภายในทรัพยากรของผู้ใช้เช่นกัน
ทั้งหมดนี้ คือรูปแบบของโซลูชันจาก NtechLab ที่เชื่อว่าน่าจะตอบโจทย์ผู้ที่กังวลใจในเรื่องความเป็นส่วนตัวได้ เพราะข้อมูลทุกอย่างจะอยู่ภายในมือของผู้ใช้งานบริหารจัดการเองได้ทั้งสิ้น และเรื่องความมั่นคงปลอดภัย (Security) ต่าง ๆ ก็จะเทียบเท่ากับโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) ของผู้ใช้งานที่วางไว้อยู่แล้วนั่นเอง
บริการในไทยผ่านพาร์ตเนอร์ “Braiven” และกลยุทธ์ในอนาคต
Braiven (อ่านว่า “เบรเว่น”) คือบริษัทสัญชาติสิงคโปร์ผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม AI & IoT Orchestration สำหรับองค์กร โดยปัจจุบันมีสาขาในไทยให้บริการแล้วด้วยเช่นกัน ซึ่งปัจจุบัน Braiven คือหนึ่งในพาร์ตเนอร์ที่ NtechLab ไว้ใจให้ดูแลการขายโซลูชันและบริการหลังการขายของลูกค้าที่อยู่ในประเทศไทยอย่างครบวงจร
แม้ว่าระบบรู้จำใบหน้าอาจจะไม่ได้เป็นที่นิยมในประเทศไทยมากนัก หากแต่ปัจจุบัน NtechLab ก็เริ่มมีลูกค้าในไทยบ้างแล้ว ซึ่งปัจจุบันกำลังวางแผนที่จะเจาะตลาดกลุ่มภาครัฐซึ่งเป็นโครงการใหญ่มากขึ้นเรื่อย ๆ รวมทั้งการเข้ามาลุยตลาดในโซนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่อาจจะทำให้ NtechLab มีการเติบโตแบบก้าวกระโดดกว่าเดิมในไม่กี่ปีข้างหน้านี้
“ตั้งแต่ได้ให้บริการโซลูชันของ NtechLab กับลูกค้าในประเทศไทยมา ก็ยังไม่เคยพบปัญหาว่าระบบจะตรวจจับใบหน้าได้ผิดพลาดแต่อย่างใด” คุณณัฐกรณ์ ปัถพีสิน Support Engineer แห่ง Braiven ผู้ดูแลระบบให้กับทาง NtechLab กล่าว “ระบบของ NtechLab มีความเสถียรมาก ๆ อยู่แล้ว แต่ถ้าหากมีปัญหาใด ๆ เกิดขึ้นก็สามารถแจ้งเข้ามาได้ที่ Braiven ทันที โดย Braiven มีทีมงานคอยสนับสนุนและแก้ไขปัญหาอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง”
“เรามองว่าประเทศไทยเป็นผู้นำในตลาดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พวกเรากำลังวางแผนจะมาเปิดสาขาที่ประเทศไทยด้วย รวมทั้งเตรียมจ้างพนักงานท้องถิ่นไม่ว่าจะตำแหน่ง Data Scientist หรือ Engineer เพื่อเสริมตัวตนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้ ซึ่งพวกเราได้ทำงานกับตลาดไทยมา 4-5 ปีแล้ว” คุณ Dmitry กล่าวเสริม
น่าสนใจมากว่า NtechLab มีแผนที่จะเปิดสาขาในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งเผยว่า “น่าจะภายในปีนี้” อีกด้วย โดยมุ่งหวังที่จะใช้สาขาในไทยนี้เป็นเหมือนฮับ (Hub) ในการดูแลลูกค้าในโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เลยทีเดียว ซึ่ง NtechLab เผยว่าแค่ปี 2021 ที่ผ่านมาก็มีการเติบโตแบบปีต่อปี (Year on Year : YoY) กว่า 40% แล้ว และปีนี้แค่จนถึงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาก็โตขึ้นกว่าเดิมราว 40% เมื่อเทียบกับปี 2021 แล้วด้วย ซึ่งกลยุทธ์การมาลุยตลาดในแถบอาเซียนนี้คาดว่าน่าจะเติบโตขึ้นไปได้อีกไกลเลยทีเดียว
สนใจใช้ FindFace จาก NtechLab ติดต่อ Braiven ได้ทันที
เรียกได้ว่า NtechLab เป็นอีกหนึ่งบริษัทแพลตฟอร์มพัฒนาเทคโนโลยีรู้จำใบหน้าและวัตถุที่ล้ำสมัยมาก ๆ เจ้าหนึ่งของโลกที่ควรจะต้องจับตามองการเติบโตและกลยุทธ์ของทาง NtechLab ที่จะมาตีในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้ ซึ่งไม่แน่ว่า NtechLab อาจจะมาพลิกโฉมทั้งภูมิภาคนี้ให้กลายเป็นเมืองที่อัจฉริยะขึ้นในอีกขั้นหนึ่งได้อย่างรวดเร็วขึ้นกว่าเดิม ก็เป็นได้
มาจนถึงจุดนี้ สำหรับใครที่อยากจะติดตามทาง NtechLab หรือว่าดูรายละเอียดโซลูชัน FindFace Multi เพิ่มเติม สามารถตามได้ทั้งช่องทางเว็บไซต์, Facebook, YouTube, Twitter, หรือ LinkedIn และถ้าหากใครสนใจอยากใช้โซลูชัน FindFace Multi จากทาง NtechLab ติดต่อ Braiven Thailand เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับรายละเอียดความต้องการระบบและออกแบบ Use Case การใช้งานได้ทันที