“NtechLab” บริษัท AI ระดับโลกผู้พัฒนา “ระบบรู้จำใบหน้า ท่าทาง เลขทะเบียนรถ” อันทรงพลัง เตรียมตั้งฐานที่ไทย ลุยตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

อย่างที่รู้กันแล้วว่าเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) นั้นได้เติบโตขึ้นมาอย่างก้าวกระโดดในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ซึ่งหนึ่งในโซลูชันที่พิสูจน์ถึงพัฒนาการได้อย่างชัดเจน นั่นคือระบบรู้จำใบหน้าและวัตถุต่าง ๆ ที่ ณ ปัจจุบัน ระบบ AI ก็สามารถดำเนินการได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วมากขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างหลากหลาย เช่น การยืนยันตัวตนในแอปหรือตามร้านค้าปลีกต่าง ๆ  หรือว่าการทำ e-KYC ดังที่เห็นกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกวันนี้

ถ้าหากพูดถึงเรื่องระบบรู้จำใบหน้าแล้ว “NtechLab” คืออีกหนึ่งบริษัทระดับโลก (Global Company) ที่มีชื่อเสียงในด้านการวิเคราะห์วิดีโอและ เทคโนโลยีรู้จำใบหน้าอันทรงประสิทธิภาพที่มีชื่อว่า“FindFace Multi” แพลตฟอร์มวิเคราะห์วิดีโอสำหรับรู้จำใบหน้าและวัตถุ ซึ่งล่าสุดปี 2022 นี้เอง Financial Times ได้จัดลำดับ NtechLab เป็น 1 ใน 1,000 บริษัทที่เติบโตเร็วที่สุดในยุโรปอีกด้วย บทความนี้ ทีมงาน TechTalk Thai จะพามารู้จักกับ NtechLab ให้มากขึ้นกันครับ

เทคโนโลยีรู้จำใบหน้า ร่างกาย และเลขทะเบียนรถ
(Face, Body and License Plate Number Recognition)

ในวงการปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) งานประเภทหนึ่งที่กำลังมีพัฒนาการอย่างก้าวกระโดดนั่นคือการรู้จำวัตถุ (Object Recognition) จากภาพหรือวิดีโอที่มีความชาญฉลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นรู้จำเพื่อคัดแยกว่าวัตถุอะไรอยู่ตรงไหนแล้ว ยังสามารถแจกแจงรายละเอียดได้ด้วยว่าวัตถุนั้น ๆ มี “คุณลักษณะ” ภายนอกอย่างไรบ้าง เช่น การอธิบายว่าวัตถุนั้นคืออะไร สีอะไร และอยู่ตำแหน่งใดในภาพ

Credit : YOLO: Real-Time Object Detection

ด้วยพัฒนาการของเทคโนโลยีดังกล่าว จึงสามารถต่อยอดมาทำเป็นโซลูชันรู้จำสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย อย่างเช่น ใบหน้า (Face) ร่างกาย (Body) ไปจนถึงเลขทะเบียนรถยนต์ (License Plate Number) ซึ่งหลักการทั่วไปมักจะดำเนินการเป็น 2 ขั้นตอน ได้แก่ การตรวจหา (Detection) และการรู้จำ (Recognition) ซึ่งแปลว่าไม่ว่าจะค้นหาอะไรในภาพหรือวิดีโอ ขั้นแรกสุดคือต้องสามารถตรวจหาให้พบและคัดแยกได้ก่อนว่าวัตถุนั้นคืออะไร แล้วจึงค่อยรู้จำในขั้นตอนถัดไปว่ารายละเอียดของวัตถุนั้น ๆ คืออะไรในลำดับต่อไป

ตัวอย่างระบบรู้จำใบหน้า (Facial Recognition) ที่นิยมใช้กันมาก ๆ และน่าจะทำให้เห็นได้ชัดเจนขึ้น นั่นคือ Face ID ที่ใช้ปลดล็อกเครื่องโทรศัพท์ iPhone ซึ่งเป็นการใช้ใบหน้าของผู้ใช้มายืนยันแทนพาสเวิร์ดว่ามีสิทธิเข้าสู่โทรศัพท์ได้จริง ๆ ซึ่งไม่ว่าผู้ใช้จะอยู่ในอารมณ์ไหน เช่น เศร้า ร้องไห้ โมโห หรือว่าใส่แว่นตา ก็สามารถปลดล็อกได้อย่างแม่นยำ

NtechLab กับการเติบโตแบบก้าวกระโดด

NtechLab คือบริษัทปัญญาประดิษฐ์ที่เชี่ยวชาญในการวิเคราะห์วิดีโอและเทคโนโลยีรู้จำใบหน้า โดยก่อตั้งขึ้นมาเมื่อปี 2015 ซึ่งนับถึงวันนี้บริษัทมีอายุเพียงแค่ราว 7 ปีเท่านั้น หากแต่ปัจจุบัน NtechLab มีสาขาอยู่ตามมุมเมืองของโลกกว่า 23 ประเทศแล้วทั้งในโซนตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือ แอฟริกาใต้ ยุโรป รวมทั้งในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เรานี้ด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังมีกล้องที่เชื่อมโยงกับระบบรู้จำใบหน้าของทาง NtechLab อยู่ทั่วโลกกว่าสี่หมื่นตัวด้วย สิ่งนี้คือส่วนหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงการใช้งานระบบรู้จำใบหน้าอย่างแพร่หลายแทบทุกภูมิภาคแล้วในโลกใบนี้

ล่าสุด Financial Times ได้มีการจัดลำดับ FT 1000 หรือหนึ่งพันบริษัทที่มีการเติบโตเร็วที่สุดในยุโรปประจำปีเป็นครั้งที่ 6 ประจำปี 2022 นี้ ซึ่ง NtechLab ได้มีชื่ออยู่ในลิสต์นี้ด้วยในลำดับที่ 102 ตามที่บริษัทมีอัตราการเติบโตต่อปีทบต้นถึง 122% ในช่วงปี 2017 – 2020 ที่ผ่านมา โดยในปีที่ผ่านมานั้นส่วนที่เติบโตโดดเด่นที่สุดคือส่วนตลาดการค้าระหว่างธุรกิจ (Business to Business : B2B) ที่โตขึ้นถึง 202% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

นอกจากนี้ อัลกอริธึมรู้จำใบหน้าของ NtechLab ยังได้รับการจัดอันดับในการทดสอบรู้จำใบหน้า (Face Recognition Vendor Test) ที่ดำเนินการโดยสถาบันมาตรฐานและเทคโนโลยีแห่งชาติ (National Institute of Standards : NIST) ของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐอเมริกาหรือ FRVT 1:1 Verification ที่แข่งกันตรวจสอบว่า 2 ภาพนั้นเป็นบุคคลคนเดียวกันหรือไม่ โดยการแข่งขันในปี 2021 ที่ผ่านมานั้นโมเดล AI ของ NtechLab ก็ได้ถูกจัดลำดับไว้เป็น Top-3 ของโลกเลยทีเดียว ทั้งหมดนี้ จึงพูดได้เต็มปากเลยว่า NtechLab คือหนึ่งในบริษัทที่มีการเติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้อย่างแน่นอน 

FindFace Multi ระบบรู้จำใบหน้าและวัตถุลักษณะท่าทางอันทรงพลัง

สำหรับผลิตภัณฑ์อันโดดเด่นของ NtechLab นั่นก็คือ FindFace Multi ที่สามารถรู้จำใบหน้า ท่าทางของมนุษย์ และวัตถุโดยเฉพาะรถยนต์และป้ายทะเบียนจากวิดีโอหรือภาพได้อย่างรวดเร็วแม่นยำ ซึ่ง NtechLab เคลมด้วยว่า เทคโนโลยีรู้จำใบหน้าของบริษัทนั้นสามารถตรวจจับได้เร็วระดับ 0.1 วินาที และสามารถรู้จำใบหน้าได้แม่นยำถึง 99.99% เลยทีเดียว 

ที่สำคัญ ระบบรู้จำใบหน้าของ NtechLab ยังสามารถ “คาดการณ์” คุณลักษณะของบุคคลนั้น ๆ ออกมาได้ทันทีด้วย เช่น อายุประมาณเท่าไร มีหนวดหรือไม่ สีหน้าอารมณ์เป็นอย่างไร เพศอะไร ใส่แว่นตาไหม ใส่หน้ากากหรือไม่ อีกทั้งตรวจจับได้ด้วยว่าใบหน้านั้นเป็นคนจริง ๆ หรือเป็นภาพมาหลอก ซึ่งตามภาพด้านล่างจะเห็นว่าระบบของ NtechLab ตอบออกมาได้อย่างแม่นยำ ซึ่งจะมี “ค่าความมั่นใจ (Confidence)” ของระบบ AI แสดงออกมาด้วย

FindFace Multi ยังรู้จำใบหน้าได้ แม้ใส่หน้ากากอนามัยอยู่ก็ตาม

สำหรับเทคโนโลยีรู้จำใบหน้า ทีมงาน NtechLab ยังบอกด้วยว่า แม้แต่คนใส่หน้ากากหรือใส่แว่นตากันแดดมาจนอาจจะแทบมองไม่เห็นรายละเอียด คนที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วจนได้ภาพเบลอมารู้จำ หรือว่าคนที่อายุมากขึ้นจนมีรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าแล้วก็ตาม ดังภาพด้านล่างเหล่านี้จะเห็นได้ว่าเทคโนโลยี NtechLab ก็ยังสามารถรู้จำใบหน้าได้อย่างแม่นยำเช่นเคย ซึ่งถ้าหากอยู่ในสภาวะที่เหมาะสม ก็คงจะให้คำตอบออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบแน่นอน 

Credit : NtechLab

นอกจากนี้ NtechLab ยังมีระบบรู้จำท่าทางร่างกาย และเลขทะเบียนรถยนต์ที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ อีกด้วย โดยเฉพาะรถยนต์ที่สามารถบอกยี่ห้อ ประเภท (เช่น ซีดาน มินิแวน ฯลฯ) รุ่น สี ประเภทป้ายทะเบียนได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำ ซึ่งที่สำคัญคือสามารถรู้จำได้พร้อม ๆ กันหลายเลนรถยนต์อีกด้วย 

ตามวิดีโอด้านล่างจะเห็นได้ว่าระบบสามารถตรวจจับและรู้จำมนุษย์และรถยนต์ได้พร้อม ๆ กัน โดยโซลูชันลักษณะนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างหลากหลาย ซึ่งจะสามารถต่อยอดใช้งานในภาคธุรกิจได้ เช่น การจัดการกับประตูรักษาความปลอดภัยที่อนุญาตให้เฉพาะพนักงานให้สามารถเข้าพื้นที่ได้ หรือว่ารถยนต์เลขทะเบียนที่มีบันทึกเป็น Whitelist ในระบบให้ไม้กั้นเปิดขึ้นมาได้อัตโนมัติ หรือในร้านค้าปลีกที่รับชำระเงินด้วยการสแกนใบหน้าแทน เป็นต้น

สืบค้นข้อมูล ตรวจสอบ ติดตาม ได้อย่างรวดเร็ว

อีกจิ๊กซอว์หนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการใช้เทคโนโลยีรู้จำใบหน้าหรือเลขทะเบียนรถยนต์จากการวิเคราะห์วิดีโอมักจะต้องการด้วยนั้นคือ ระบบสืบค้นข้อมูล (Search Engine) ที่สามารถสืบค้นใบหน้าหรือว่าเลขทะเบียนรถยนต์ที่ต้องการตรวจสอบติดตามได้อย่างรวดเร็ว

โดยภายในโซลูชันแพลตฟอร์มของ NtechLab นั้นจะมีหน้าจอระบบสืบค้นรองรับความต้องการไว้แล้วเรียบร้อย ทำให้ผู้ใช้งานสามารถสืบค้น (Search) ตามเงื่อนไขที่ต้องการได้อย่างสะดวกรวดเร็ว เช่น การค้นหาใบหน้าผู้ที่เป็นพนักงานที่เข้าพื้นที่ในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ พร้อมทั้งสามารถกรองสีผม หนวดเครา หรือตามลักษณะภายนอกที่รู้จำได้เพิ่มเติม ทำให้ผู้ใช้สามารถลงลึกในรายละเอียดที่สนใจได้มากขึ้นกว่าเดิม

ตัวอย่างหน้าจอสืบค้นข้อมูล

การมีระบบรู้จำใบหน้าหรือทะเบียนรถยนต์ที่แม่นยำ และพร้อมให้สืบค้นได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ จะทำให้ผู้ใช้สามารถติดตามคนหรือรถยนต์ที่สนใจว่าได้ไปผ่านหรืออยู่ในบริเวณกล้องใด ณ เวลาใดบ้างได้อย่างสะดวก ทำให้การตรวจสอบเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วหากเกิดกรณีเหตุการณ์ใด ๆ ขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นการช่วยค้นหาบุคคลสูญหาย ปิดคดีความต่าง ๆ  หรือช่วยตรวจสอบเหตุการณ์ภายในร้านค้า โรงเรียน เป็นต้น

NtechLab กับมุมมองเรื่องความเป็นส่วนตัว

หลาย ๆ คนที่สนใจโซลูชันของ NtechLab อาจจะรู้สึกกังวลใจในเรื่องความเป็นส่วนตัว (Privacy) หรือว่ามีความกังวลเรื่องของข้อมูลส่วนตัวที่อาจจะไปตกอยู่ในมือของต่างชาติ หากแต่ทาง NtechLab ได้ให้ข้อมูลว่าโซลูชันจาก NtechLab นี้จะให้บริการเฉพาะตัวโซลูชันเท่านั้นในลักษณะของ Cloud-based ไม่ใช่การฝังระบบไว้ที่กล้อง ซึ่งส่วนของทรัพยากรต่าง ๆ อย่างเช่น เครื่องเซิร์ฟเวอร์ คลาวด์ ฐานข้อมูล หรือว่ากล้องต่าง ๆ นั้นจะขึ้นอยู่กับผู้ใช้เองว่าจะวางระบบไว้แบบ On Premises หรือว่าบน Private Cloud ซึ่งส่วนนี้จะถูกดูแลจัดการโดยผู้ใช้งานเองทั้งหมด ดังนั้น NtechLab จะไม่ได้มีข้อมูลของผู้ใช้ไปแต่อย่างใดทั้งสิ้น 

“มันเป็นเรื่องปกติที่มักจะมีข้อกังวลเรื่องของการใช้งานระบบรู้จำใบหน้า อย่างเช่นคนทั่วไปมักจะกลัวว่าคนเก็บข้อมูลจะสามารถสอดแนมใครก็ได้ แต่แท้จริงแล้วมันจะไม่เกิดขึ้น เพราะว่ามันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ทั้งเรื่องโซลูชันและราคาพื้นที่จัดเก็บที่ค่อนข้างแพง รวมทั้งการมีข้อมูลมหาศาลก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ทันทีข้ามคืน” Regional Director, International Business แห่ง NtechLab คุณ Dmitry Tameev กล่าว “หากเป็นภาครัฐที่มีศักยภาพก็อาจจะจัดเก็บเป็น Big Data เพื่อเอาไปวิเคราะห์ในลักษณะต่าง ๆ เช่นว่าพื้นที่ใด ๆ ในเดือนไหนมีผู้คนเพศใดเดินทางมากกว่ากัน เป็นต้น”

คุณ Dmitry Tameev
Regional Director,
International Business แห่ง NtechLab

นอกจากนี้ ระบบสืบค้นข้อมูลหลังจากตรวจจับและรู้จำได้นั้น ทาง NtechLab มีระบบพร้อม API รองรับไว้หมด ทำให้ผู้ใช้งานสามารถนำไปต่อยอดใช้งานได้ทันที ไม่ว่าจะใช้งานผ่านหน้าจอสืบค้นข้อมูลที่ให้บริการ หรือว่าจะสร้างเป็นหน้าจอใหม่ครอบ API ของทาง NtechLab เพื่อใช้งานในลักษณะที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นก็ทำได้สะดวก ซึ่งระบบนี้ก็จะเป็นการสืบค้นภายในทรัพยากรของผู้ใช้เช่นกัน

ทั้งหมดนี้ คือรูปแบบของโซลูชันจาก NtechLab ที่เชื่อว่าน่าจะตอบโจทย์ผู้ที่กังวลใจในเรื่องความเป็นส่วนตัวได้ เพราะข้อมูลทุกอย่างจะอยู่ภายในมือของผู้ใช้งานบริหารจัดการเองได้ทั้งสิ้น และเรื่องความมั่นคงปลอดภัย (Security) ต่าง ๆ ก็จะเทียบเท่ากับโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) ของผู้ใช้งานที่วางไว้อยู่แล้วนั่นเอง

บริการในไทยผ่านพาร์ตเนอร์ “Braiven” และกลยุทธ์ในอนาคต

Braiven (อ่านว่า “เบรเว่น”) คือบริษัทสัญชาติสิงคโปร์ผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม AI & IoT Orchestration สำหรับองค์กร โดยปัจจุบันมีสาขาในไทยให้บริการแล้วด้วยเช่นกัน ซึ่งปัจจุบัน Braiven คือหนึ่งในพาร์ตเนอร์ที่ NtechLab ไว้ใจให้ดูแลการขายโซลูชันและบริการหลังการขายของลูกค้าที่อยู่ในประเทศไทยอย่างครบวงจร

แม้ว่าระบบรู้จำใบหน้าอาจจะไม่ได้เป็นที่นิยมในประเทศไทยมากนัก หากแต่ปัจจุบัน NtechLab ก็เริ่มมีลูกค้าในไทยบ้างแล้ว ซึ่งปัจจุบันกำลังวางแผนที่จะเจาะตลาดกลุ่มภาครัฐซึ่งเป็นโครงการใหญ่มากขึ้นเรื่อย ๆ รวมทั้งการเข้ามาลุยตลาดในโซนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่อาจจะทำให้ NtechLab มีการเติบโตแบบก้าวกระโดดกว่าเดิมในไม่กี่ปีข้างหน้านี้

คุณณัฐกรณ์ ปัถพีสิน
Support Engineer, Braiven

“ตั้งแต่ได้ให้บริการโซลูชันของ NtechLab กับลูกค้าในประเทศไทยมา ก็ยังไม่เคยพบปัญหาว่าระบบจะตรวจจับใบหน้าได้ผิดพลาดแต่อย่างใด” คุณณัฐกรณ์ ปัถพีสิน Support Engineer แห่ง Braiven ผู้ดูแลระบบให้กับทาง NtechLab กล่าว “ระบบของ NtechLab มีความเสถียรมาก ๆ อยู่แล้ว แต่ถ้าหากมีปัญหาใด ๆ เกิดขึ้นก็สามารถแจ้งเข้ามาได้ที่ Braiven ทันที โดย Braiven มีทีมงานคอยสนับสนุนและแก้ไขปัญหาอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง”

“เรามองว่าประเทศไทยเป็นผู้นำในตลาดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พวกเรากำลังวางแผนจะมาเปิดสาขาที่ประเทศไทยด้วย รวมทั้งเตรียมจ้างพนักงานท้องถิ่นไม่ว่าจะตำแหน่ง Data Scientist หรือ Engineer เพื่อเสริมตัวตนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้ ซึ่งพวกเราได้ทำงานกับตลาดไทยมา 4-5 ปีแล้ว” คุณ Dmitry กล่าวเสริม

น่าสนใจมากว่า NtechLab มีแผนที่จะเปิดสาขาในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ซึ่งเผยว่า “น่าจะภายในปีนี้” อีกด้วย โดยมุ่งหวังที่จะใช้สาขาในไทยนี้เป็นเหมือนฮับ (Hub) ในการดูแลลูกค้าในโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เลยทีเดียว ซึ่ง NtechLab เผยว่าแค่ปี 2021 ที่ผ่านมาก็มีการเติบโตแบบปีต่อปี (Year on Year : YoY) กว่า 40% แล้ว และปีนี้แค่จนถึงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาก็โตขึ้นกว่าเดิมราว 40% เมื่อเทียบกับปี 2021 แล้วด้วย ซึ่งกลยุทธ์การมาลุยตลาดในแถบอาเซียนนี้คาดว่าน่าจะเติบโตขึ้นไปได้อีกไกลเลยทีเดียว

สนใจใช้ FindFace จาก NtechLab ติดต่อ Braiven ได้ทันที

เรียกได้ว่า NtechLab เป็นอีกหนึ่งบริษัทแพลตฟอร์มพัฒนาเทคโนโลยีรู้จำใบหน้าและวัตถุที่ล้ำสมัยมาก ๆ เจ้าหนึ่งของโลกที่ควรจะต้องจับตามองการเติบโตและกลยุทธ์ของทาง NtechLab ที่จะมาตีในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้ ซึ่งไม่แน่ว่า NtechLab อาจจะมาพลิกโฉมทั้งภูมิภาคนี้ให้กลายเป็นเมืองที่อัจฉริยะขึ้นในอีกขั้นหนึ่งได้อย่างรวดเร็วขึ้นกว่าเดิม ก็เป็นได้

มาจนถึงจุดนี้ สำหรับใครที่อยากจะติดตามทาง NtechLab หรือว่าดูรายละเอียดโซลูชัน FindFace Multi เพิ่มเติม สามารถตามได้ทั้งช่องทางเว็บไซต์, Facebook, YouTube, Twitter, หรือ LinkedIn และถ้าหากใครสนใจอยากใช้โซลูชัน FindFace Multi จากทาง NtechLab ติดต่อ Braiven Thailand เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับรายละเอียดความต้องการระบบและออกแบบ Use Case การใช้งานได้ทันที

About chatchai

Tech Writer แห่ง TechTalk Thai ที่สนใจในทุกนวัตกรรมและเทคโนโลยี

Check Also

NetApp ขาย Spot และ CloudCheckr ให้บริษัทบริหารค่าใช้จ่ายคลาวด์ Flexera

บริษัท NetApp ประกาศขายสินทรัพย์บางส่วนจากผลิตภัณฑ์ Spot และ CloudCheckr ให้แก่ Flexera Software ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายบนคลาวด์ ในข้อตกลงที่ไม่ได้เปิดเผยเงื่อนไขทางการเงิน แต่มีการประเมินว่ามูลค่าข้อตกลงนี้อยู่ที่ประมาณ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อ้างอิงจากรายงานของ …

AWS Backup พร้อมให้บริการใน AWS Thailand Region แล้ว

ล่าสุด Amazon Web Services (AWS) ผู้ให้บริการยักษ์ใหญ่ได้ประกาศความพร้อมให้บริการ AWS Backup ที่จะสนับสนุนการทำสำรองปกป้องข้อมูลแบบ Managed Service ใน AWS Thailand Region …