Microsoft Azure by Ingram Micro (Thailand)

ทำ Work from Home ให้เป็นเรื่องง่ายและมั่นคงปลอดภัย ด้วยบริการ VDI by CSL

การทำงานจากภายนอกสถานที่หรือ Work from Home กลายเป็นวิถีการทำงานใหม่ (New Normal) ของหลายองค์กรทั่วโลก เพื่อให้การ Work from Home เป็นเรื่องง่าย ทำงานได้อย่างมั่นคงปลอดภัยโดยไม่ต้องกังวลว่าข้อมูลจะรั่วไหล และยังคุ้มค่าต้องการลงทุน CSL จึงเปิดให้บริการ Virtual Desktop Infrastructure (VDI) by CSL ซึ่งสนับสนุนโดยเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกอย่าง HPE SimpliVity และ Citrix Virtual Apps and Desktops ภายใต้โครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงของ CSL โดยเริ่มต้นใช้งานขั้นต่ำเพียง 100 ผู้ใช้เท่านั้น

โปรโมชันพิเศษ!! ซื้อ VDI by CSL รับฟรี พื้นที่ Colocation* สำหรับวางระบบ VDI เป็นเวลา 1 ปี

การทำงานจากภายนอกสถานที่ – วิถีการทำงานใหม่ของหลายองค์กรทั่วโลก

ภายใต้สถานการณ์ที่เชื้อ COVID-19 กำลังแพร่ระบาดทั้งยังไม่มียารักษาและวัคซีนป้องกันอย่างในขณะนี้ การเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เป็นมาตรการสำคัญที่สาธารณสุขทั่วโลกต่างให้การยอมรับว่าช่วยลดความเสี่ยงและชะลอการแพร่ระบาดของโรคได้ ส่งผลให้หลายบริษัททั่วโลก รวมไปถึงประเทศไทย สนับสนุนให้พนักงานสามารถทำงานจากที่บ้านหรือ Work from Home เพื่อหลีกเลี่ยงการพบเจอหรือสัมผัสกับกลุ่มคนหมู่มาก ในขณะที่ยังทำให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้ สอดคล้องกับกับการสำรวจด้าน HR ของ Gartner ซึ่งระบุว่า 88% ขององค์กรสนับสนุนหรือกำหนดให้พนักงานทำงานจากที่บ้านได้ภายใต้สถานการณ์ที่ผิดปกติแบบนี้

แน่นอนว่าหัวใจสำคัญของการ Work from Home คือ “การนำงานกลับไปทำที่บ้านได้” ซึ่งในโลกยุคดิจิทัลนี้คงหนีไม่พ้นการนำ Laptop บริษัทกลับบ้าน หรือใช้คอมพิวเตอร์ส่วนตัวที่บ้านเชื่อมต่อกลับมายังระบบของบริษัทผ่าน VPN หรือ Cloud เมื่ออุปกรณ์จำนวนมากของบริษัทกระจายออกไปสู่ภายนอกองค์กร ย่อมยากต่อการบริหารจัดการและดูแลรักษา ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งซอฟต์แวร์หรืออัปเดตแพตช์ ที่สำคัญคือ พนักงานจำเป็นต้องคัดลอกข้อมูลลง Laptop หรือดาวน์โหลดไปเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ส่วนตัวที่บ้านเพื่อใช้งาน อาจเสี่ยงต่อการที่ข้อมูลจะสูญหายหรือรั่วไหลสู่สาธารณะได้

VPN vs. VDI

แม้ระบบประสานงานกันภายในทีม (Collaboration Tools) อย่าง Microsoft Teams, Cisco Webex หรือ Zoom จะถูกนำมาใช้สำหรับประชุมออนไลน์ แชต แชร์ไฟล์ข้อมูล หรือโทรหากัน อย่างแพร่หลายมากขึ้นในช่วงนี้ แต่ก็ช่วยตอบโจทย์เรื่องการทำงานร่วมกันเท่านั้น การเข้าถึงแอปพลิเคชันธุรกิจและข้อมูลของบริษัทซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการทำงานยังคงต้องอาศัยเทคโนโลยีอย่าง Virtual Private Network (VPN) หรือ Virtual Desktop Infrastructure (VDI)

เทคโนโลยี VPN ช่วยให้พนักงานสามารถเชื่อมต่อกลับมายังระบบของบริษัทผ่านเครือข่ายส่วนบุคคลเพื่อเข้าถึงทรัพยากรต่างๆ เมื่อต้องทำงานกับข้อมูล ส่วนใหญ่จำเป็นต้องดาวน์โหลดไฟล์มาไว้ที่เครื่องก่อน ค่อยทำการประมวลผล แล้วส่งไฟล์กลับคืนไป เมื่อมีการประมวลผลบนเครื่อง จึงจำเป็นต้องมี Laptop/PC ที่มีประสิทธิภาพสูงตามประเภทของงาน และต้องมีลิงค์อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสำหรับรับส่งข้อมูลด้วยเช่นกัน แต่ VPN ก็มีข้อดีตรงที่เริ่มใช้งานได้ง่าย ไม่ต้องลงทุนสูง เพียงแค่เปิดใช้งาน VPN บน Firewall หรืออุปกรณ์เครือข่าย (ซึ่งปัจจุบันมีพร้อมให้ใช้บริการอยู่แล้ว) และติดตั้ง VPN Client ลงบน Laptop/PC เท่านั้น

ในขณะที่ VDI ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ประยุกต์นำการทำ Virtualization มาใช้กับ Desktop เพื่อแชร์ให้พนักงานใช้ระบบปฏิบัติและซอฟต์แวร์จากระยะไกลได้บนฮาร์ดแวร์เดียวกัน ทำให้ง่ายต่อการบริหารจัดการและสามารถใช้ประสิทธิภาพของอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ได้อย่างเต็มที่ ที่สำคัญคือคอมพิวเตอร์ปลายทางทำหน้าที่แสดงผลและส่ง Input เท่านั้น จึงใช้ผ่านอุปกรณ์ได้หลากหลาย รวมไปถึงสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ต ทั้งยังไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดข้อมูลมาเก็บไว้ เนื่องจากการประมวลผลข้อมูลจะเกิดขึ้นที่ Data Center ลดความเสี่ยงที่ข้อมูลจะรั่วไหลสู่ภายนอก ช่วยตอบโจทย์เรื่องการปฏิบัติตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่จะบังคับใช้ในปีหน้าอีกด้วย

ทำ Work from Home ให้เป็นเรื่องง่ายด้วยบริการ VDI by CSL

เพื่อให้การ Work from Home เป็นเรื่องง่าย พนักงานสามารถทำงานได้เหมือนนั่งอยู่ที่ออฟฟิสของตนเอง ทั้งยังคงความมั่นคงปลอดภัยโดยไม่ต้องกังวลว่าข้อมูลจะรั่วไหล โดยที่ผู้ดูแลระบบสามารถบริหารจัดการและดูแลระบบได้จากศูนย์กลาง CSL ผู้ให้บริการ Data Center, ระบบ Cloud และ ICT Services แบบครบวงจร จึงเปิดให้บริการ Virtual Desktop Infrastructure (VDI) by CSL โดยมีจุดเด่นที่การใช้เทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกอย่าง HPE SimpliVity และ Citrix Virtual Apps and Desktops ภายใต้ Cloud Infrastructure ของ CSL ที่มีความพร้อมใช้งาน (Availability) ระดับ 99.99%

VDI by CSL ช่วยรวมศูนย์การบริหารจัดการ Desktop ไว้ยังส่วนกลาง (Data Center) ทำให้สามารถควบคุมสิทธิ์ในการเข้าถึง กำหนดนโยบายการสำรองข้อมูล อัปเดตแพตช์และเวอร์ชันของซอฟต์แวร์ได้อย่างอัตโนมัติจากศูนย์กลาง รองรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ Bring Your Own Device (BYOD) ของพนักงานเอง ช่วยให้การ Work from Home ทำได้ง่ายโดยไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อ VPN ให้ยุ่งยาก ที่สำคัญคือช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายเรื่อง Software License ที่จะคิดตามจำนวนที่ใช้จริง ณ เวลานั้นๆ แทนที่จะคิดตามจำนวนอุปกรณ์ของพนักงาน

นอกจากนี้ CSL ยังให้บริการเทคโนโลยีอื่นๆ เพื่อสนับสนุนการ Work from Home อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น VPN, Office 365, 4G/5G, AIS Fiber และระบบประสานงานกันภายในทีม (Collaboration Tools) เป็นต้น

VDI by CSL บนระบบ HPE SimpliVity

ก่อนหน้านี้โซลูชัน VDI เข้าถึงได้ยากเพราะต้องลงทุนทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และเครือข่าย ส่งผลให้มีราคาสูงและประสิทธิภาพไม่ดีนัก แต่ VDI by CSL เป็นโซลูชันที่ทำงานบน HPE SimpliVity ซึ่งเป็นระบบ Hyperconverged Infrastructure ของ HPE ที่รวมส่วน Compute, Storage และ Network เข้าด้วยกัน ลดการลงทุนด้านฮาร์ดแวร์ลง ทั้งยังมีโซลูชันการสำรองและกู้คืนข้อมูลความเร็วสูงมาให้พร้อมใช้งาน หมดกังวลเรื่องการถูก Ransomware โจมตี

นอกจากนี้ HPE SimpliVity ยังมีซอฟต์แวร์ Business Continuity Plan (BCP) สำหรับทำ Disaster Recovery โดยใช้เทคโนโลยี WAN Optimization ระหว่าง Data Center และ DR Site ช่วยให้การรับส่งข้อมูลทำได้เร็วขึ้น ลดปริมาณแบนด์วิดท์ที่ต้องใช้ลง

เริ่มต้นใช้ VDI by CSL ขั้นต่ำเพียง 100 ผู้ใช้เท่านั้น

VDI by CSL เป็นโซลูชันที่ Virtual Desktop Infrastructure ที่ถูกออกแบบมาให้รองรับความต้องการของวิถีการทำงานใหม่ (New Normal) สนับสนุนโดยเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกอย่าง Citrix Virtual Apps and Desktops สำหรับให้พนักงานเชื่อมต่อมายังระบบ Cloud จากระยะไกลได้อย่างมั่นคงปลอดภัย พร้อมมีแอปพลิเคชันต่างๆ รองรับการทำงาน และใช้งานบน HPE SimpliVity ซึ่งเป็นระบบ HCI ประสิทธิภาพสูง นอกจากนี้ CSL ยังมีทีมผู้เชี่ยวชาญสำหรับช่วยติดตั้งและวางระบบ VDI พร้อมสนับสนุนหลังการขายด้วย MA นานถึง 3 ปี หมดกังวลเรื่องอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์มีปัญหาหรือซอฟต์แวร์ไม่อัปเดต โดยเริ่มต้นการใช้งานขั้นต่ำที่ 100 ผู้ใช้เท่านั้น

ลูกค้าสามารถเลือกติดตั้งระบบ VDI ที่ไซต์ของลูกค้าเองหรือที่ Colocation ภายใน Data Center ของ CSL เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อผ่านโครงข่ายอินเทอร์เน็ตเกตเวย์ขนาดใหญ่ของ CSL และลดปัญหาเรื่องระบบ VDI หยุดชะงักการให้บริการด้วยระบบไฟฟ้าของ Data Center ที่ถูกออกแบบมาเป็นระบบ Redundancy ครบวงจร

โปรโมชั่นพิเศษ!! ซื้อ VDI by CSL รับฟรี พื้นที่ Colocation* สำหรับวางระบบ VDI เป็นเวลา 1 ปี

* บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการกำหนดพื้นที่ให้ตามความเหมาะสม

ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโดยติดต่อผ่านทางอีเมล presales@csl.co.th หรือโทร 02-263-8185

“Enhance agility of new normal with CSL digital transformation Solution”

About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

เอชพี เปิดตัวพอร์ตโฟลิโอที่หลากหลายที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ AI PCs [PR]

เอชพี เปิดตัวพอร์ตโฟลิโอที่หลากหลายที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ AI PCs ขับเคลื่อน ด้วยขุมพลัง AI ยกระดับประสิทธิภาพการทำงาน การสร้างสรรค์ และประสบการณ์ของผู้ใช้ในสภาพแวดล้อม การทำงานแบบไฮบริด

Microsoft ยกเลิกการใช้ 1024-bit RSA Key บน Windows แล้ว

Microsoft ประกาศยกเลิกการใช้กุญแจเข้ารหัส 1024-bit RSA Key บน Windows แล้ว เปลี่ยนไปใช้กุญแจเข้ารหัสความยาว 2048-bit เป็นอย่างน้อย