นักวิเคราะห์จาก Seagate ได้ออกมาเผยถึงข้อมูลการประเมินในอนาคต ว่า Hard Disk Drive (HDD) นั้นจะยังคงมีราคาต่อความจุ ($/TB) ที่ถูกกว่า Solid State Drive (SSD) ไปอีกอย่างน้อย 15 ปี

ด้วยเทคโนโลยี Heat-Assisted Magnetic Recording หรือ HAMR ของ Seagate นั้น ทำให้การเพิ่มจำนวน Bit ที่จัดเก็บข้อมูลบนพื้นผิวของ Disk ได้นั้นยังคงสามารถเติบโตเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต โดย Seagate ประเมินว่าในปี 2020 จะเริ่มมี HDD ความจุ 20TB ในตลาด และภายในปี 2026 จะมี HDD ความจุสูงถึง 50TB อีกทั้งเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างเช่น Multi-Actuator Technology ก็จะช่วยให้การเข้าถึงข้อมูลบน HDD นั้นมีความเร็วที่สูงยิ่งขึ้น ซึ่งแนวโน้มของความจุที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วบน HDD นี้ก็จะยังคงดำเนินต่อไปจนถึงปี 2034
Seagate เชื่อว่าความจุที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วของ HDD นี้จะยังคงนำ SSD ที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ อย่าง QLC Flash (4 bits/cell) หรือ 3D NAND ที่มีจำนวนชั้นสูงขึ้นเรื่อยๆ ได้ และถึงแม้จะมีนักวิเคราะห์บางรายที่เชื่อว่าเมื่อราคาต่อความจุของ SSD นั้นสูงกว่า HDD ไม่ถึง 5 เท่าแล้ว ผู้ใช้งานจำนวนมากจะย้ายไปใช้งาน SSD กัน แต่ Seagate เองก็ยังเชื่อมั่นว่า HDD จะยังคงมีความจำเป็นต่อตลาดในอนาคตอยู่

Dave Mosley ผู้ดำรงตำแหน่ง CEO แห่ง Seagate นั้นได้แบ่งยุคของ IT ออกเป็น 4 ช่วงด้วยกัน โดยปัจจุบันนี้เราได้ก้าวสู่ยุค IT 3.0 ในช่วงปี 2005-2025 ซึ่งมีอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อเครือข่ายบนโลกแล้วประมาณ 7,000 ล้านอุปกรณ์และเป็นยุคสมัยแห่ง Mobile-Cloud ส่วนในอนาคตอันใกล้หลังปี 2020 เป็นต้นไป เราจะมีอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อเครือข่ายบนโลกมากถึง 42,000 ล้านอุปกรณ์เลยทีเดียว ซึ่งภายในปี 2025 การจัดเก็บข้อมูลทั่วโลกนั้นจะมีปริมาณมหาศาลถึง 17 Zettabyte หรือราวๆ 17 ล้าน Petabyte เลยทีเดียว
Mosley เชื่อว่าตลาดของ HDD นั้นจะเติบโตจาก 21,800 ล้านเหรียญในปี 2019 ไปสู่ 24,000 ล้านเหรียญในปี 2025 และ 80% ของ Storage นั้นจะเป็นระบบที่ออกแบบมาเพื่อรองรับความจุมหาศาลโดยเฉพาะ และนั่นเองที่จะเป็นตลาดสำคัญของ Nearline HDD
แนวคิดของ Seagate นี้ถือว่าสวนทางกับ Toshiba และ WD ที่เริ่มหันไปผลิต SSD แล้ว ในขณะที่ Seagate นั้นไม่สนใจที่จะผลิต NAND Chip ของตัวเอง และมีธุรกิจด้าน SSD ที่ขนาดยังไม่ใหญ่นัก
ที่มา: https://blocksandfiles.com/2019/09/23/seagate-assumes-ssds-wont-kill-disk-drives/