นักวิจัยด้านความปลอดภัยจากมหาวิทยาลัย Surrey สหราชอาณาจักร ประสบผลสำเร็จในการพัฒนาการเชื่อมต่อระบบเครือข่ายไร้สายแบบ 5G โดยการทดสอบได้ทำลายสถิติความเร็ว 4G ในปัจจุบันลงอย่างสิ้นเชิง ด้วยความเร็วสูงสุดที่ 1 Tbps !!
การทดสอบ 5G นี้ จัดทำขึ้นที่ศูนย์นวัตกรรม 5G ของมหาวิทยาลัย Surrey (5GIC) ซึ่งร่วมกันก่อตั้งโดยบริษัทโทรคมนาคมขนาดใหญ่หลายเจ้า ได้แก่ Huawei, Fujitsu, Samsung, Vodafone, EE, Aircom, BT, Telefonica, Aeroflex, BBC และ Rohde & Schwarz

ดาวน์โหลดหนัง 100 เรื่องภายในเวลา 3 วินาที
ด้วยความเร็ว 1 Tbps ที่มากกว่าการทดสอบของ Samsung ก่อนหน้านี้ที่มีความเร็วสูงสุดที่ 7.5 Gbps ซึ่งเร็วกว่า 4G-LTE ถึง 30 เท่า แต่ด้วยความเร็วของทีมวิจัย Surrey ทำให้สามารถดาวน์โหลดที่ขนาดใหญ่กว่าหนัง 100 เท่าได้ด้วยความเร็วเพียง 3 วินาทีเท่านั้น ซึ่งเร็วกว่าความเร็วในการดาวน์โหลด 4G ในขณะนี้ถึง 65,000 เท่า
คาดว่าพร้อมใช้งานในปี 2020
การทดสอบจัดทำขึ้นบนระยะห่าง 100 เมตรโดยใช้อุปกรณ์ที่จัดทำขึ้นภายในมหาวิทยาลัย ประธานของ 5GIC ระบุว่า เขาวางแผนที่จะเดโมระบบ 5G ต่อหน้าสาธารณชนในปี 2018 และเชื่อว่า 5G จะพร้อมใช้งานในสหราชอาณาจักรภายในปี 2020
Ofcom ผู้ออกระเบียบทางด้านโทรคมนาคมของสหราชอาณาจักร ได้สนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยี 5G ออกสู่สาธารณะ โดยคาดหวังว่าจะได้ความเร็วในการใช้งานจริงที่ 10 – 50 Gbps เทียบกับ 4G ในปัจจุบันที่มีความเร็วในการดาวน์โหลดโดยเฉลี่ยที่ 15 Mbps
5G ช่องทางใหม่สำหรับการโจมตีบนโลกไซเบอร์
5G ช่วยให้ทุกคนสามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้เร็วขึ้น แน่นอน รวมไปถึงแฮ็คเกอร์ด้วยเช่นกัน โดยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 5G แฮ็คเกอร์สามารถล่มเว็บไซต์ได้ง่ายๆด้วยการโจมตีแบบ DDoS ซึ่งในยุคที่ความเร็วในการเชื่อมต่อสูงถึง 50 Gbps แฮ็คเกอร์ไม่จำเป็นต้องสร้าง Botnets เป็นร้อยเป็นพันเครื่องอีกต่อไป เพียงแค่ใช้คอมพิวเตอร์ไม่กี่เครื่องก็สามารถโจมตีแบนวิธด์ได้สูงถึง 1 Tbps ดังนั้นแล้ว ทาง ISP และหน่วยงานทางด้านโทรคมนาคมควรเตรียมติดตั้งระบบติดตามการใช้งานแบบเรียลไทม์ รวมทั้งระบบในการควบคุมและจำกัดการใช้งานเพื่อต่อต้านการโจมตีแบบ DDoS ในอนาคตด้วย

ที่มา: http://thehackernews.com/2015/02/5g-high-speed-internet-service.html