CDIC 2023

[PR] วีเอ็มแวร์ เผยกลยุทธ์คลาวด์ใหม่ ตอบโจทย์การจัดการด้านไอทีในองค์กรที่กระจายศูนย์มากขึ้น เพื่อช่วยเร่งผลักดันให้เกิดการสร้างสรรค์นวัตกรรมสำหรับธุรกิจดิจิตอล ในประเทศไทย

vmware_vforum_2016

  • จากผลวิจัย The State of the Cloud โดยวีเอ็มแวร์ พบว่า กว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของผู้เข้าร่วมตอบแบบสอบถามจากประเทศไทย ระบุว่าการจัดการด้านไอทีแบบกระจายศูนย์ (decentralization of IT) กำลังเกิดขึ้นในองค์กร ซึ่งนับเป็นสถิติที่สูงที่สุดในโลก
  • ผู้เข้าร่วมตอบแบบสอบถามระบุว่า ผลลัพธ์จากการจัดการด้านไอทีแบบกระจายศูนย์ ก่อให้เกิดผลกระทบในเชิงลบ เพราะทำให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัย เพิ่มค่าใช้จ่ายด้านไอที เพิ่มช่องว่างของทักษะด้านไอที รวมถึงสร้างความท้าทายต่อบทบาทหน้าที่ของแผนกไอทีในองค์กรให้ต้องปรับตัว
  • VMware Cross-Cloud Architecture™ ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับแผนกไอทีที่ต้องการมอบอิสระในการสร้างสรรค์นวัตกรรมให้แก่องค์กรของตนเอง แต่ยังสามารถรักษาระดับการควบคุมและความมั่นใจด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยไปในขณะเดียวกัน

 

ประเทศไทย, 29 พฤศจิกายน 2559 – วันนี้ที่งาน vForum Thailand  วีเอ็มแวร์ อิงค์ (NYSE: VMW) ผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์และบิสสิเนสโมบิลิตี้ เผยว่าอุปสรรคที่สำคัญที่สุดต่อการสร้างสรรค์นวัตกรรมธุรกิจดิจิตอลในประเทศไทย คือ การจัดการด้านไอทีแบบกระจายศูนย์ ซึ่งสามารถส่งผลกระทบในแง่ลบต่อการดำเนินงานขององค์กรได้  ด้วยข้อมูลเชิงลึกจากผลรายงานการวิจัย VMware State of the Cloud 2016 วีเอ็มแวร์เน้นย้ำว่า ประเทศไทยมีการจัดการด้านไอทีแบบกระจายศูนย์มากมากที่สุดจากกลุ่มประเทศที่ทำการสำรวจ ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยมากขึ้น เกิดค่าใช้จ่ายด้านไอทีที่ไม่จำเป็นเพิ่มขึ้น และเพิ่มช่องว่างของทักษะด้านไอที ปัจจุบันแผนกไอทีมักถูกละเลยความสำคัญโดยผู้นำธุรกิจขององค์กรต่างนำเทคโนโลยีคลาวด์มาใช้ด้วยตนเองเพื่อเร่งสร้างสรรค์นวัตกรรมและตอบสนองเป้าหมายการเติบโตต่างๆ ขององค์กร แต่แผนกไอทีกลับต้องรับผิดชอบหากมีสิ่งผิดพลาดใดๆ เกิดขึ้น ทำให้แผนกไอทีจำเป็นที่จะต้องสร้างสภาพแวดล้อมในการปฏิบัติงานร่วมกันสำหรับการจัดการคลาวด์ที่หลากหลาย เพื่อลดความซับซ้อน ความไร้ประสิทธิภาพและความเสี่ยงด้านความปลอดภัย และที่สำคัญที่สุดคือเพื่อให้องค์กรสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมได้อย่างต่อเนื่อง

จากผลวิจัย VMware State of the Cloud 2016 พบว่า องค์กรในประเทศไทยกำลังประสบกับการจัดการด้านไอทีแบบกระจายศูนย์ที่เพิ่มมากขึ้น ด้วยสัดส่วนผู้เข้าร่วมตอบแบบสอบถามกว่า 90 เปอร์เซ็นต์จากประเทศไทย ซึ่งนับเป็นจำนวนที่สูงที่สุดในโลก ต่างเห็นด้วยว่าการจัดซื้อและการบริหารจัดการด้านไอทีล้วนเกิดขึ้นโดยอยู่นอกเหนือขอบเขตการทำงานของแผนกไอที

 

เมื่อการเพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขันขององค์กร ทำให้ต้นทุนและความเสี่ยงต่อซิเคียวริตี้ขององค์กรเพิ่มมากขึ้น

จากความต้องการของผู้นำธุรกิจในประเทศ ที่ต้องการเร่งการพัฒนาองค์กรให้ทัดเทียมคู่แข่ง (50 เปอร์เซ็นต์) และสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ให้ได้เร็วขึ้น (46 เปอร์เซ็นต์) ส่งผลให้สถิติในการจัดการด้านไอทีแบบกระจายศูนย์ และการใช้งานระบบมัลติคลาวด์โดยไม่ได้รับอนุญาตในประเทศไทยเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ โดยมีการซื้อคลาวด์เซอร์วิสเพิ่มโดยเฉลี่ยถึง 7 เซอร์วิสต่อหนึ่งองค์กรโดยไม่ได้ปรึกษาแผนกไอทีก่อน

การจัดการด้านไอทีแบบกระจายศูนย์ในหน่วยงานต่างๆ ในองค์กร ช่วยให้ธุรกิจสามารถตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงของตลาดได้เพิ่มมากขึ้น (86 เปอร์เซ็นต์) ออกผลิตภัณฑ์และการบริการใหม่ๆ สู่ตลาดได้รวดเร็วขึ้น (89 เปอร์เซ็นต์) และสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆได้มากขึ้น (87 เปอร์เซ็นต์) อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าการจัดการด้านไอทีแบบกระจายศูนย์จะนำมาซึ่งประโยชน์จำนวนมาก สัดส่วนของผู้เข้าร่วมตอบแบบสอบถามเกือบ 3 ใน 4 กลับมีความเห็นว่าการจัดการด้านไอทีดังกล่าว จะทำให้ค่าใช้จ่ายด้านไอทีในทุกภาคส่วนของธุรกิจเพิ่มสูงขึ้น (70 เปอร์เซ็นต์) โดยทำให้เกิดความค่าใช้จ่ายด้านไอทีที่ซ้ำซ้อนทั่วทั้งองค์กร (66 เปอร์เซ็นต์) นอกจากนี้ 67 เปอร์เซ็นต์ ของผู้เข้าร่วมตอบแบบสอบถามยังชี้ให้เห็นว่าสายงานต่างๆ ของธุรกิจ (lines of businesses) มีการจัดซื้อโซลูชั่นที่ไม่มีความปลอดภัย  ซึ่งต่างเห็นพ้องต้องกันว่าจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการแฮ็คข้อมูลและการคุกคามด้านไซเบอร์ (80 เปอร์เซ็นต์)

 

ไอทีมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการดำเนินธุรกิจ

แผนกไอทีในประเทศไทยกำลังเผชิญกับแรงกดดันและความคาดหวังต่างๆ ด้วยสัดส่วน 91 เปอร์เซ็นต์ของผู้เข้าร่วมตอบแบบสอบถามชี้ให้เห็นว่า นอกจากที่จะต้องช่วยให้แต่ละฝ่ายในองค์กรสามารถผลักดันการสร้างสรรค์นวัตกรรม แผนกไอทีต้องให้ทิศทางกลยุทธ์และสร้างระบบความปลอดภัยที่มั่นคงได้ด้วยเช่นกัน โดยรวมแล้ว ผลการสำรวจดังกล่าวตอกย้ำถึงความจำเป็นของประเทศไทยที่ต้องรวมศูนย์การบริหารจัดการไอที (centralize IT) ให้มากขึ้น และลดจำนวนการจัดซื้อด้านไอทีในแต่ละสายธุรกิจให้น้อยลง (82 เปอร์เซ็นต์)

นางสาว อัศนีย์ วิภาตเวทย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการส่วนงานผลิตภัณฑ์ลูกค้าองค์กรและบริการระหว่างประเทศ เอไอเอส กล่าวว่า “ปัจจุบันองค์กรธุรกิจไทยกำลังเร่งพลิกโฉมองค์กรให้เป็นดิจิตอลมากขึ้น โดยองค์กรเหล่านี้ได้หันมาเลือกใช้ระบบคลาวด์และแอพพลิเคชั่นที่รันบนคลาวด์เพื่อสร้างความคล่องตัวและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน การใช้งานซอฟต์แวร์ดีฟายดาต้าเซ็นเตอร์และโซลูชั่นบิสสิเนสโมบิลิตี้ของวีเอ็มแวร์ช่วยให้เราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และทำให้เราสามารถใช้งานและทดสอบการทำงานของแอพพลิเคชั่นภายในองค์กรได้ดียิ่งขึ้น และพนักงานของเรายังได้รับการสนับสนุนที่ดียิ่งขึ้น ความร่วมมือกับวีเอ็มแวร์ได้ช่วยเสริมประสิทธิภาพและความแข็งแกร่งในการให้บริการคลาวด์ของเอไอเอสแก่ลูกค้าในประเทศไทยและช่วยสนับสนุนให้พวกเขาสามารถบรรลุเป้าหมายในการพัฒนานวัตกรรมทางธุรกิจดิจิตอล”

นายเอกภาวิน สุขอนันต์ ผู้อำนวยการฝ่ายขายประจำประเทศไทย บริษัท วีเอ็มแวร์ จำกัด กล่าวว่า “ธุรกิจต่างๆ ในประเทศไทยต่างต้องการอิสระและความคล่องตัวในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ แต่ในขณะเดียวกัน ธุรกิจเหล่านี้ยังต้องเผชิญกับความเสี่ยงด้านค่าใช้จ่ายและความไม่มั่นคงของความปลอดภัยด้านไซเบอร์ เนื่องจากการละเลยความสำคัญของแผนกไอทีเมื่อองค์กรมีการใช้งานเทคโนโลยี  โดยคลาวด์ คอมพิวติ้ง ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจ และเราเข้าใจถึงความจำเป็นในการเตรียมความพร้อมของแผนกไอทีและผู้นำธุรกิจด้วยเครื่องมือที่จะสามารถช่วยบริหารจัดการระบบคลาวด์ที่หลากหลายในปัจจุบันได้ Cross-Cloud Architecture™ จากวีเอ็มแวร์ถูกสร้างขึ้นเพื่อรับมือกับความท้าทายดังกล่าวโดยเฉพาะด้วยการมอบการทำงานบนระบบคลาวด์ที่มีอิสระและสามารถควบคุมได้”

 

VMware Cross-Cloud Architecture™ ช่วยให้องค์กรสามารถบริหารจัดการได้ทั้งไพรเวทและพับลิค คลาวด์

เพื่อช่วยให้ผู้นำธุรกิจและแผนกไอทีขององค์กรต่างๆ จัดลำดับความสำคัญและวัตถุประสงค์ในการทำงานร่วมกันในสภาพแวดล้อมของระบบคลาวด์ที่หลากหลายในปัจจุบัน วีเอ็มแวร์ได้ขยายกลยุทธ์ไฮบริดลาวด์ของบริษัทด้วย VMware Cross-Cloud Architecture™ โซลูชั่นซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถ บริหารจัดการ เชื่อมต่อ และรักษาความปลอดภัยแอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่ใช้งานทั้งบนคลาวด์และในดีไวซ์ต่างๆ ในสภาพแวดล้อมการทำงานแบบเดียวกัน Cross-Cloud Services ใหม่ที่วีเอ็มแวร์กำลังพัฒนาอยู่นี้ จะสามารถช่วยให้องค์กรสามารถบริหารจัดการและรักษาความปลอดภัย แอพพลิเคชั่นต่างๆ ที่ทำงานบนระบบพับลิคคลาวด์ที่แตกต่างกันได้พร้อมๆ กันไม่ว่าจะเป็นบริการ Cloud จาก Amazon Web Services (AWS), Azure หรือ IBM Cloud ก็ตาม

นอกจากนี้ โซลูชั่น VMware Cloud Foundation™ ยังมาในรูปแบบบริการเช่าใช้งาน หรือ “as-a-service” ใหม่ โดยมาพร้อมกับขุมพลังของซอฟต์แวร์ดีฟายดาต้าเซ็นเตอร์ (SDDC) เพื่อการใช้งานบนสภาพแวดล้อมไฮบริดคลาวด์

###

 

เกี่ยวกับผลวิจัย The State of the Cloud 2016

ผลวิจัย The State of the Cloud 2016 ได้ผลการวิจัยมาจากการทำผลสำรวจ 2 ชิ้น โดยผลสำรวจทั้งสองชิ้นนี้ วีเอ็มแวร์รับหน้าที่เป็นคณะกรรมการในการจัดทำ ในช่วงครึ่งปีแรกของปีที่ผ่านมา ผลที่ได้จากการทำสำรวจดังกล่าวได้บอกเล่าเรื่องราวของการจัดการด้านไอทีแบบกระจายศูนย์ซึ่งส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ให้กับองค์กร และผลักดันให้เกิดการสร้างสรรค์นวัตกรรมขึ้นมากมาย

การสำรวจชิ้นแรกเกิดขึ้นในเดือนมีนาคม 2559 โดยสถาบันวิจัย Economist Intelligence Unit (EIU) และมีกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด 726 คน ครอบคลุมทวีปอเมริกา เอเชียแปซิฟิก และกลุ่มประเทศในเขตเศรษฐกิจยูโรเมดิเตอร์เรเนียน (EMEA) โดยผู้เข้าร่วมการสำรวจทั้งหมดอยู่ในตำแหน่งระดับผู้อำนวยการหรือสูงกว่านั้น จากบริษัทต่างๆ ที่มีรายได้เฉลี่ยประมาณ 2.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 74,000 ล้านบาท ครอบคลุมทั้งหมด 20 กลุ่มอุตสาหกรรม ทั้งนี้ จำนวนครึ่งหนึ่งของผู้เข้าร่วมการสำรวจดังกล่าว เป็นผู้ที่มีสิทธิ์ในการตัดสินใจทางธุรกิจ ส่วนอีกครึ่งหนึ่งเป็นผู้ที่มีสิทธิ์ในการตัดสินใจด้านไอที

การสำรวจชิ้นที่สองโดย The Vanson Bourne เกิดขึ้นในเดือนกันยายน 2559 มีกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด 3,300 คน จาก 20 ประเทศ ครอบคลุมทวีปอเมริกา (24 เปอร์เซ็นต์) เอเชียแปซิฟิก (39 เปอร์เซ็นต์)  และกลุ่มประเทศในเขตเศรษฐกิจยูโรเมดิเตอร์เรเนียน (EMEA – 36 เปอร์เซ็นต์) ผู้เข้าร่วมการสำรวจเป็นตัวแทนจาก 20 กลุ่มอุตสาหกรรม ด้วยตัวเลขรายได้เฉลี่ยของบริษัทที่ประมาณ 3.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 131,000 ล้านบาท ทั้งนี้ จำนวนครึ่งหนึ่งของผู้เข้าร่วมการสำรวจดังกล่าว เป็นผู้ที่มีสิทธิ์ในการตัดสินใจทางธุรกิจ ส่วนอีกครึ่งหนึ่งเป็นผู้ที่มีสิทธิ์ในการตัดสินใจในด้านไอที

 

เกี่ยวกับวีเอ็มแวร์

วีเอ็มแวร์ คือผู้นำระดับโลกด้านโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์และบิสสิเนสโมบิลิตี้ ซึ่งช่วยให้องค์กรธุรกิจสามารถพลิกโฉมสู่การเป็นองค์กรดิจิทัลได้อย่างรวดเร็ว โดยช่วยให้องค์กรธุรกิจสามารถใช้เทคโนโลยีซอฟต์แวร์ดีฟาย สำหรับการดำเนินธุรกิจและการจัดการด้านไอที ด้วยโซลูชั่น Cross-Cloud Architecture™ รวมถึงโซลูชั่นสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ โมบิลิตี้ และ        ซิเคียวริตี้ ในปี 2558 วีเอ็มแวร์มีรายได้ 6.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ พาโลอัลโต แคลิฟอร์เนีย และมีลูกค้ากว่า 500,000 ราย และ 75,000 พาร์ทเนอร์ทั่วโลก

 

VMware, VMware Cross-Cloud Architecture™ และ VMware Cloud Foundation เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนหรือเครื่องหมายการค้าของ VMware, Inc. หรือ บริษัท ย่อยในประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ 


About techtalkthai

ทีมงาน TechTalkThai เป็นกลุ่มบุคคลที่ทำงานในสาย Enterprise IT ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้าน Network, Security, Server, Storage, Operating System และ Virtualization มารวมตัวกันเพื่ออัพเดตข่าวสารทางด้าน Enterprise IT ให้แก่ชาว IT ในไทยโดยเฉพาะ

Check Also

เดลล์ เทคโนโลยีส์ เปิดตัว Dell APEX Cloud Platform for Microsoft Azure ส่งมอบนวัตกรรมไฮบริดคลาวด์สำหรับองค์กร [Guest Post]

เดลล์ เทคโนโลยีส์ ประกาศความพร้อมของ Dell APEX Cloud Platform for Microsoft ระบบเทิร์นคีย์แบบบูรณาการที่ได้รับการพัฒนาขึ้นด้วยความร่วมมือกับไมโครซอฟท์ เพื่อเสริมเพิ่มเติมประสบการณ์ Microsoft Azure ไฮบริดคลาวด์ ไปยังสภาพแวดล้อมของดาต้าเซ็นเตอร์และระบบเอดจ์ปลายทาง

เชิญร่วมงานสัมมนาออนไลน์ Unlock the Limits of Your SAP System with Google Cloud โดย Tangerine [18 ต.ค. 2023]

พลาดไม่ได้! สำหรับองค์กรที่ใช้ระบบ SAP ซึ่งนับเป็นระบบสำคัญที่อยู่เบื้องหลังในการดำเนินธุรกิจให้สำเร็จ ซึ่งภายใต้การแข่งขันที่สูงขึ้นความสำคัญก็ยิ่งเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ฉะนั้นจะทำอย่างไร? ให้ธุรกิจสามารถรองรับการใช้งานตามความต้องการที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ และจะดีกว่าหรือไม่ หากสามารถนำข้อมูลภายใน SAP มาประยุกต์ใช้กับข้อมูลภายนอก สร้าง Analytics Dashboard ได้ง่ายและรวดเร็ว …