- ดาต้า แฟบริค (Data Fabric) วิสัยทัศน์ของเน็ตแอพที่สนับสนุนนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และ เทรนด์ในอาเซียน
- เน็ตแอพ ประเทศไทยเพิ่มศักยภาพกลายเป็นศูนย์กลางของอาเซียน ดูแลประเทศต่างๆ ในภูมิภาค ได้แก่ ไทย พม่า มาเลเซีย บรูไน อินโดนีเซีย เวียดนาม กัมพูชา ลาว และฟิลิปปินส์
กรุงเทพฯ (7 มีนาคม 2560) – เน็ตแอพ บริษัทชั้นนำในการจัดการและบริหารข้อมูลระดับโลกเผยเทรนด์
ปริมาณการใช้ข้อมูลในประเทศไทยที่มีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศไทยและเอเชียแปซิฟิค อันเนื่องมาจากวิวัฒนาการและการใช้งานอย่างแพร่หลายของบิ๊กดาต้า ในยุคเศรษฐกิจดิจิตัลปัจจุบัน
วีระ อารีรัตนศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็ตแอพ ประจำประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย ไทย และภูมิภาค อินโดจีน กล่าวว่า “เน็ตแอพพร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์และวิสัยทัศน์ที่ช่วยส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ใช้งานในประเทศไทยและเอเชียแปซิฟิคเติบโตไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงไปสู่โมเดลทางเศรษฐกิจเช่นไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งเป็นนโยบายระยะยาวของประเทศที่จะนำพาประเทศไทยไปสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม”
“ในปีนี้ โครงสร้างพื้นฐานและการใช้งานบนคลาวด์ได้กลายมาเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับองค์กรทุกขนาด เพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของตลาดในปัจจุบัน เน็ตแอพได้นำเสนอ ‘ดาต้า แฟบริค’ (Data Fabric) วิสัยทัศน์และเทคโนโลยีที่ประสบความสำเร็จในการนำไปใช้ในประเทศต่างๆ โดยได้ร่วมมือกับผู้ให้บริการคลาวด์ชั้นนำจากทั่วโลก สำหรับในประเทศไทย เน็ตแอพได้ร่วมมือกับบริษัทอินเทอร์เน็ตประเทศไทย (INET) ซี่งเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ในประเทศไทย เพื่อเพิ่มศักยภาพในการรองรับความต้องการของหน่วยงานต่างๆ และช่วยลดค่าใช้จ่ายในองค์กรให้ลดน้อยลงอีกด้วย” วีระกล่าว
วีระกล่าวเพิ่มเติมว่า “เพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับรัฐบาลที่จะก้าวไปสู่ยุคเศรษฐกิจยุคดิจิตัลที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม เน็ตแอพเล็งเห็นว่าหลายองค์กรเริ่มหันมาใช้เทคโนโลยีคลาวด์เพื่อรองรับการบริหารจัดการข้อมูลให้ได้ตามความต้องการขององค์กร นอกจากนี้ความพร้อมของการใช้บริการบนคลาวด์
ช่วยให้หน่วยงานต่างๆ สามารถเข้าถึงระบบพื้นฐานทางเทคโนโลยีสารสนเทศได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ปริมาณการใช้ข้อมูลในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าอันเนื่องมาจากหลายปัจจัย อาทิ การทำธุรกรรมออนไลน์บนโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ในประเทศไทยมีการใช้งานระบบการบริหารจัดการข้อมูลเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก”
ล่าสุด ข้อมูลจากไอดีซีได้เผยว่า เน็ตแอพถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 1 ด้านรายได้ ในหมวดหมู่ของ Storage and Device Management Software market”
นอกจากนี้ นายวีระ อารีรัตนศักดิ์ ยังมีบทบาทเพิ่มเติมในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็ตแอพ ประจำประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย ไทย และภูมิภาค อินโดจีน ซึ่งรับหน้าที่ดูแลรับผิดชอบการบริหารงานและจัดการธุรกิจของเน็ตแอพในภูมิภาคอาเซียนยกเว้นสิงคโปร์ ซึ่งครอบคลุมประเทศไทย พม่า มาเลเซีย บรูไน อินโดนีเซีย เวียดนาม กัมพูชา ลาว และฟิลิปปินส์ โดยนายวีระให้ความสำคัญกับการวางกลยุทธ์และเพิ่มยอดขายด้วยการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดให้ทะลุเป้าที่ตั้งไว้ในแต่ละปี
นายวีระ กล่าวถึงเทรนด์เทคโนโลยีในแต่ละประเทศภายใต้ความรับผิดชอบว่า “ความต้องการของตลาดในภูมิภาคอาเซียนแตกต่างกัน อันเนื่องมาจากความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานและทรัพยากรไอทีที่ไม่เหมือนกัน อาทิ ในประเทศไทยซึ่งกำลังก้าวไปสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 ให้ความสำคัญด้านการค้นคว้าวิจัยเพื่อพัฒนา ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การใช้ความคิดสร้างสรรค์ตลอดไปจนถึงการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ”
กลุ่มลูกค้าของเน็ตแอพในประเทศไทยมีอยู่ในหลากหลายภาคธุรกิจ ได้แก่ อุตสาหกรรมน้ำมันและพลังงาน สถาบันการเงิน อุตสาหกรรมการผลิต และโทรคมนาคม นอกจากนี้เน็ตแอพยังได้ขยายธุรกิจไปยังภาครัฐ ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดที่มีการเติบโตสูงสุดในด้านการบริหารจัดการข้อมูล ทั้งนี้เน็ตแอพ ประเทศไทยยังมีอัตราการเติบโตสูงที่สุดในอาเซียน
เน็ตแอพพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือองค์กรต่างๆ ให้สามารถดึงประสิทธิภาพการใช้งานพื้นฐานทางไอทีที่มีอยู่ ด้วยผลิตภัณฑ์และบริการจากเน็ตแอพที่จะเพิ่มศักยภาพในการมองเห็นข้อมูลและเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารข้อมูลเพื่อเพิ่มประโยชน์ทางธุรกิจได้อย่างสูงสุด
###
เกี่ยวกับ เน็ตแอพ
บริษัทชั้นนำทั่วโลกต่างไว้วางใจซอฟต์แวร์ การวางระบบ และการบริหารจัดการข้อมูลจากเน็ตแอพ เรามุ่งมั่นในการให้ความช่วยเหลือลูกค้าในการบริหารข้อมูลที่มีค่าบนไฮบริด คลาวด์ผ่านแนวคิดและกลยุทธ์ของดาต้า แฟบริค ความเชี่ยวชาญในการบริหารจัดการข้อมูลและอื่นๆ สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.netapp.com