การวิจัยล่าสุดของแคสเปอร์สกี้ แลป และ บีทูบี อินเตอร์เนชั่นแนล เรื่อง “From Scared to Aware: Digital Lives in 2015” พบว่า ผู้ปกครองกว่า 30% รู้สึกว่า ตัวเองไม่สามารถควบคุมลูก ๆ เรื่องกิจกรรมออนไลน์ได้เลย อีก 38 % กังวลว่าลูก ๆ พึ่งพาอินเทอร์เน็ตมากเกินไปจนกลายเป็นการเสพติด และยังพบว่าผู้ใหญ่ยังกังวลใจว่ารุ่นใหญ่อย่างพ่อแม่ปู่ย่าตายายอาจจะเสี่ยงติดด้วยเช่นกัน
ผู้ให้สัมภาษณ์มากกว่าครึ่ง ( 52% ) เชื่อว่าภัยคุกคามออนไลน์ที่เด็กต้องเจอมีมากขึ้นเรื่อย ๆ ความกังวลใจสูงสุดคือ ความเสี่ยงที่เด็ก ๆ จะเจอเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ( 45% ) เด็กจำนวนเกือบสองในสามไม่ได้ถูกจำกัดในการเข้าถึงเนื้อหาไม่เหมาะสมดังกล่าว
ความกังวลอื่นนั้น คือ มีความเป็นไปได้ที่เด็ก ๆ เริ่มที่จะสื่อสารกับคนแปลกหน้าที่อันตราย ( 41% ) และเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวมากเกินไปมากมาย ( 40% ) และอีก 38% กลัวว่าเด็ก ๆ จะติดอินเทอร์เน็ตและใช้เวลากับการออนไลน์มากเกินไป
ผู้ปกครองจำนวน 37% กังวลมากที่สุดเรื่องมัลแวร์ ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่เด็ก ๆ ต้องเจอและไม่สามารถแยกแยะผิดถูกได้ นอกจากนี้ สิ่งที่ทำให้กังวลใจอย่างหนึ่งคือ พวกอันธพาลในโลกไซเบอร์ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายและส่งผลกระทบต่อไปในระยะยาวแก่ชีวิตของเด็ก ๆ คิดเป็น 35%
เมื่อพิจารณาถึงภัยคุกคามที่เด็กได้รับโดยตรง ผู้ปกครองยังกังวลว่าสมาชิกคนอื่น ๆ ในครอบครัวจะได้รับผลกระทบจากพฤติกรรมทางออนไลน์ของเด็กที่ไม่ได้รับการป้องกัน ยกตัวอย่างเช่น การลบหรือสูญเสียข้อมูลโดยไม่ตั้งใจ ( 27% ) หรือการเสียค่าใช้จ่ายที่คาดไม่ถึงในการซื้อเกมส์หรืออื่น ๆ ทางออนไลน์ ( 25% )
ภาระที่เพิ่มขึ้นที่ผู้ใหญ่ต้องกังวลคือ ผู้ใหญ่จำนวนกว่า 52% ที่มีพ่อแม่ใช้อินเทอร์เน็ต และผู้ใหญ่มากกว่าครึ่ง ( 29% ) กังวลว่าพ่อแม่จะเจอความเสี่ยงและไม่สามารถจัดการได้ ผู้ให้สัมภาษณ์ 19% มีพ่อแม่ที่สามารถใช้ชีวิตดิจิตอลได้อย่างคล่องแคล่ว ผู้ให้สัมภาษณ์จำนวนสองในสามหรือ 13% กังวลว่าพวกญาติผู้ใหญ่จะเข้ามาวุ่นวาย
สิ่งที่น่ากังวลที่สุดสำหรับผู้ใช้อินเทอร์เน็ต คือ ความเสี่ยงที่จะเผชิญหน้ากับมัลแวร์ ( 52% ) หรือเว็บไซต์และอีเมลปลอม ( 50% ) สูญเสียเงินจากการโกงและอาชญากรรม ( 45% ) โดนสแกมโจมตี ( 28% ) หรือโดนสอดแนม ( 37% ) ในส่วนของความกลัวที่เด็กเล่นออนไลน์ คือ อันตรายจากคนแปลกหน้า ( 25% ) พบเจอเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ( 20% ) ซึ่งเป็นอันดับที่สูงมากสำหรับผู้ใหญ่ที่ออนไลน์เช่นกัน

แคสเปอร์สกี้ แลป เร่งกระตุ้นให้ผู้ปกครองมีความเข้าใจอย่างครอบคลุมในการแก้ไขปัญหาโดยผสมผสานระหว่างการศึกษาและการสื่อสาร ครอบครัวที่เพ่งความสนใจไปยังซอฟต์แวร์โซลูชั่น นั่นคืออินเทอร์เน็ตที่มีความปลอดภัยสูงสุด ช่วยป้องกันเด็ก ๆ เมื่อผู้ปกครองไม่อยู่ใกล้ ๆ ขณะออนไลน์ หรือป้องกันภัยคุกคามที่แม้แต่ผู้ใหญ่ยังคาดไม่ถึง แต่สิ่งที่สำคัญคือทั้งเด็กและญาติผู้ใหญ่ต้องเข้าใจว่าควรจะป้องกันตัวเองได้อย่างไร ความรู้ที่ควรจะศึกษาคือบล๊อกสิ่งที่ไม่ต้องการและหลีกเลี่ยงข้อมูลที่เป็นภัย เหนือสิ่งอื่นใดแคสเปอร์สกี้ แลป แนะนำให้ผู้ปกครองและเด็กโตรวมซอฟต์แวร์และการศึกษาเข้าด้วยกัน โดยการเริ่มการพูดคุยเกี่ยวกับพฤติกรรมและความเสี่ยงทางโลกออนไลน์
แคสเปอร์สกี้ แลป พัฒนาโซลูชั่น Safe Kids เพื่อป้องกันเด็ก ๆ โดยผู้ปกครองสามารถสอดส่องว่าบุตรหลานของตนว่าทำกิจกรรมออนไลน์ใดบ้าง และแสดงให้เด็ก ๆ เห็นว่าอะไรที่อันตรายหรือไม่เหมาะสมโดยปราศจากความเสี่ยง
ข้อมูลเพิ่มเติม
- Consumer Security Risk Survey เรื่อง From Scared to Aware: Digital Lives in 2015 https://press.kaspersky.com/files/2015/08/Kaspersky_Lab_Consumer_Security_Risks_Survey_2015_ENG.pdf
- Safe Kids solution http://www.kaspersky.com/safe-kids
เกี่ยวกับแคสเปอร์สกี้ แลป
แคสเปอร์สกี้ แลป คือหนึ่งในบริษัทระบบความปลอดภัยไซเบอร์ที่เติบโตเร็วที่สุดของโลก และเป็นบริษัทที่ไม่ได้อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด โดยติดอันดับหนึ่งในสี่ของโลกในลำดับผู้ให้บริการโซลูชั่นเพื่อความปลอดภัยด้านไอที ( ไอดีซี ปี พ.ศ. 2557 ) นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 เป็นต้นมา แคสเปอร์สกี้ แลป นับเป็นผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมด้านความปลอดภัยไซเบอร์ และนำเสนอโซลูชั่นเพื่อความปลอดภัยทางดิจิตอลที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับภัยคุกคามสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ เอสเอ็มอี และคอนซูมเมอร์ แคสเปอร์สกี้ แลป เป็นบริษัทสากล ปฏิบัติงานกระจายอยู่ 200 ประเทศและเขตท้องที่ทั่วโลก คอยให้การปกป้องดูแลความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้มากกว่า 400 ล้านคนทั่วโลก ท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.kaspersky.com