Microsoft Azure by Ingram Micro (Thailand)

สัมภาษณ์พิเศษคุณชาง ฟู จาก Tencent Cloud ในโลกที่ทุกอย่าง คือ ดิจิทัล ธุรกิจไทยจะสร้างโอกาสจากการใช้ศักยภาพของคลาวด์ให้เต็มที่ได้อย่างไร

เมื่อเทคโนโลยีได้ก้าวเข้ามาเป็นมาตรฐานใหม่ของธุรกิจในยุคปัจจุบัน และกลายเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเติบโตของธุรกิจ ยิ่งโลกมีความผันผวนมาก ธุรกิจก็ยิ่งต้องเตรียมพร้อมรับมือกับความไม่แน่นอน และจะต้องปรับตัวเองให้ทันท่วงที

ในบทความนี้ ทีมงาน TechTalkThai ได้มีโอกาสพูดคุยกับ คุณชาง ฟู ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ Tencent ประเทศไทย ถึงบริการของ Tencent Cloud ที่มีเป้าหมายในการขับเคลื่อน Digital Transformation ให้กับธุรกิจทุกขนาด ธุรกิจไทยจะสร้างโอกาสจากคลาวด์ได้อย่างไร Tencent Cloud มีเครื่องมือใดที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ รวมไปถึงเรื่องราวประสบการณ์การร่วมงานกับธุรกิจไทย เราถามมาให้ทุกท่านอ่านกันแล้วในบทความนี้

รู้จักกับคุณชาง ฟู ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ Tencent ประเทศไทย

ก่อนจะเข้ามารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการแห่ง Tencent ประเทศไทยนั้น คุณชาง ฟู มีประสบการณ์การทำงานเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทต่างๆ ในประเทศสหรัฐอเมริกา คุณชาง ฟู จึงมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงกระบวนการทำงาน ความท้าทาย และสิ่งที่บริษัทจะต้องเจอเมื่อเปลี่ยนผ่านเข้าสู่โลกของเทคโนโลยีดิจิทัล

คุณชางกล่าวว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำงานสำหรับเขาคือ ความโปร่งใส และการทำงานกันเป็นทีม ซึ่งเขาได้นำหลักการสองข้อนี้มาใช้ทั้งในการบริหารและการทำงานร่วมกับธุรกิจ เมื่อมีความเข้าใจถึงข้อดีและข้อจำกัดของเทคโนโลยีดิจิทัล รวมถึงมีการพูดคุย ออกไอเดีย และระดมสมองร่วมกันกับทีมงานผู้เชี่ยวชาญ ทำให้การพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลให้กับธุรกิจ และการใช้ศักยภาพของคลาวด์สามารถเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างความแตกต่างในการแข่งขันในยุคดิจิทัลได้

“ทำงานด้วยกัน ชนะด้วยกัน คือ คติการทำงานของผม”

Q: อยากให้คุณชาง ฟู แนะนำ Tencent Cloud และบริการของ Tencent Cloud ทั้งหมดที่มีอยู่ให้ผู้อ่านได้รู้จัก

Tencent Cloud นั้นเปิดให้บริการในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2562 โดยเราเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ชั้นนำระดับโลก ที่มีผลิตภัณฑ์และโซลูชันให้เลือกใช้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น IaaS, PaaS, SaaS รวมไปถึงโซลูชันเฉพาะสำหรับอุตสาหกรรม นอกจากนี้ เรายังได้ตั้งดาต้าเซ็นเตอร์ขึ้นในประเทศไทยถึง 2 แห่ง ซึ่งเมื่อรวมเข้ากับความแข็งแกร่งของเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานที่ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการกว่า 70 พื้นที่ ใน 26 ภูมิภาคทั่วโลก Tencent Cloud จึงเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ที่พร้อมให้บริการธุรกิจในประเทศไทยและรองรับการให้บริการในระดับนานาชาติ

บริการของ Tencent Cloud ครอบคลุมตั้งแต่ระดับรากฐานของสถาปัตยกรรม IT ขององค์กร โดยมีเป้าหมาย
ในการเป็นแพลตฟอร์มคลาวด์ Fullstack แบบเปิดกว้างที่ธุรกิจสามารถเลือกได้ทั้งการใช้บริการของ
Tencent Cloud ทั้งหมด หรือใช้งานเชื่อมต่อกับระบบหรือแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่ธุรกิจใช้งานอยู่

ภายในแพลตฟอร์ม Tencent Cloud นั้นมีเครื่องมือคลาวด์ต่างๆ รองรับสถาปัตยกรรม IT สมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานแบบ Hybrid หรือ Multicloud การใช้และจัดการ Container การทำแอปพลิเคชัน Big Data และ Data Analytics การประมวลผล AI ด้วย GPU และบริการ AI พร้อมใช้งาน รวมไปถึงบริการสำหรับเทคโนโลยี Internet of Things, Blockchain, และบริการเฉพาะสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆที่พร้อมให้ใช้งานได้ทันที

นอกจากนี้ ไฮไลท์หนึ่งที่สำคัญของ Tencent Cloud คือ บริการที่สามารถขยายธุรกิจเข้าไปในประเทศจีน และเชื่อมต่อกับผู้ใช้งานในประเทศจีนผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลอย่าง WeChat และ QQ โดย Tencent Cloud
นั้นมีบริการตั้งแต่การช่วยเหลือการจดทะเบียนบริษัท ไปจนถึงการให้บริการในประเทศจีน เช่น การเก็บข้อมูล
การเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มต่างๆ การทำ Localization และ Compliance ด้วยประสบการณ์และความเข้าใจในพฤติกรรมผู้ใช้ของประเทศจีน ทำให้ธุรกิจสามารถมั่นใจได้ว่าการให้บริการในประเทศจีนนั้นจะได้มาตรฐาน
อย่างแน่นอน

Q: อะไรที่ทำให้ Tencent Cloud แตกต่างจากผู้ให้บริการคลาวด์เจ้าอื่นๆ

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า Tencent Cloud มีดาต้าเซ็นเตอร์ภายในประเทศไทยถึง 2 แห่ง ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถรับส่งข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว และยังรองรับการปฏิบัติตามระเบียบและข้อกฎหมายของประเทศไทย
และในพื้นที่อื่นๆ ทั่วโลกที่ Tencent Cloud เปิดให้บริการเช่นกัน ลูกค้าหรือผู้ใช้บริการสามารถมั่นใจได้ว่าการเชื่อมต่อ การให้บริการ และการทำ Compliance นั้นจะไม่ใช่ปัญหาที่ต้องกังวลใจอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ Tencent Cloud ยังมีทีมซัพพอร์ตภายในประเทศไทยที่เชี่ยวชาญ พร้อมให้คำปรึกษาและคำแนะนำที่เหมาะสำหรับธุรกิจไทยอย่างเต็มที่ และรวดเร็ว โดยทีมงานของ Tencent Cloud ในประเทศไทย เป็นทีมที่มีประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับธุรกิจในอุตสาหกรรมต่างๆ ในด้านการออกแบบและพัฒนาระบบโครงสร้างดิจิทัลภายในองค์กรมามากมายลูกค้า จึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับคำแนะนำในการใช้งานคลาวด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

Q: ช่วยเล่าถึงภาพรวมของเทคโนโลยีคลาวด์ในประเทศไทยจากมุมมองของ Tencent Cloud

แน่นอนว่าในช่วง COVID-19 ที่ผ่านมา ธุรกิจในไทยต้องปรับตัว และนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาพัฒนาธุรกิจกันมากขึ้น ทำให้ปัจจุบันเทคโนโลยีกลายเป็นเครื่องมือจำเป็นที่จะช่วยให้ธุรกิจรับมือกับสภาวะที่ไม่แน่นอน และจะช่วยสร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจต่อไปในอนาคต โดยจากรายงาน Thailand Digital Transformation 2022
จาก Deloitte ชี้ให้เห็นว่าการใช้เทคโนโลยีของธุรกิจไทยนั้นมีวุฒิภาวะขึ้น ธุรกิจต่างก็เข้าใจดีว่าต้องเลือกใช้เทคโนโลยีดิจิทัลให้เหมาะสม และมุ่งเป้าไปที่การให้บริการแบบ Customer-centric และมีความปลอดภัย
ทางไซเบอร์ที่ดี

ในประเทศไทย การนำเทคโนโลยีคลาวด์เข้ามาใช้ในธุรกิจนั้นเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในทุกอุตสาหกรรม ตั้งแต่การใช้คลาวด์ เพื่อรองรับเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันซึ่งเป็นพื้นฐาน ไปจนถึงการส่งเสริมการดำเนินการภายใน
ของธุรกิจด้วยระบบวิเคราะห์ข้อมูล ระบบ Internet of Things การปรับปรุงโครงสร้างดิจิทัลของธุรกิจ หรือการนำเทคโนโลยีใหม่ เช่น AI หรือ Blockchain มาใช้งาน ซึ่ง Tencent Cloud ก็ได้มองเห็นการเติบโตที่ว่านี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของการใช้คลาวด์เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและความฉับไวในการดำเนินการ

จากมุมมองของ Tencent Cloud เชื่อว่าการใช้งานคลาวด์ในประเทศไทยจะเติบโตขึ้นอย่างแน่นอนในช่วง 2 ถึง 3 ปีข้างหน้า โดยจุดที่ธุรกิจไทยยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพขึ้นได้ คือ การใช้งานคลาวด์อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งในปัจจุบันธุรกิจจำนวนไม่น้อยยังใช้งานคลาวด์เพียงในส่วนงานเล็กๆ และไม่มีระบบที่เป็นดิจิทัลเต็มรูปแบบ ซึ่งเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายที่ Tencent Cloud ในฐานะ Digital Enabler สามารถเข้าไปช่วยได้ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและได้มาตรฐานระดับสากล

Q: Tencent Cloud มองไปที่อุตสาหกรรมไหนเป็นพิเศษ และมีประสบการณ์ในด้านใดบ้างกับธุรกิจไทย

คุณชาง ฟู ได้เล่าถึงเป้าหมายในการรุกตลาดไปยังอุตสาหกรรมสื่อและความบันเทิง อาหาร ค้าปลีก การเงิน และสุขภาพ ซึ่ง Tencent Cloud มีประสบการณ์การร่วมงานกับธุรกิจในอุตสาหกรรมเดียวกันมาแล้วทั่วโลก โดยมองไปถึงการมอบโซลูชันที่พร้อมใช้งานได้ทันทีและสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการ ทั้ง SaaS และ PaaS ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจที่ลงทุนในคลาวด์เห็นผลลัพธ์และความเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว ทั้งในแง่ของความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจและการเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ

อุตสาหกรรมสื่อ บันเทิง และเกม

Tencent Cloud นั้นมีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในด้านเทคโนโลยีการจัดการสื่อ วิดีโอ และเกม โดยเรามีโซลูชันที่หลากหลายสำหรับวิดีโอ ไม่ว่าจะเป็นการทำไลฟ์สตรีมมิง การประชุมทางวิดีโอ ระบบวิดีโอสตรีมมิ่ง ไปจนถึงการวางระบบเกมออนไลน์ ทำให้ธุรกิจสามารถต่อยอดบริการได้อย่างรวดเร็ว ให้บริการด้วยคุณภาพสูง และมีความเสถียร

Ookbee แพลตฟอร์มผู้ให้บริการหนังสือออนไลน์ก็เป็นหนึ่งในธุรกิจที่ใช้ประโยชน์จากคลาวด์ของ Tencent ได้อย่างเต็มศักยภาพ ซึ่งทำให้การให้บริการด้านคอนเทนท์ภาพและเสียง รวมถึงการพัฒนารูปแบบปฏิสัมพันธ์ใหม่ๆ ที่ช่วยให้ Ookbee ตอบโจทย์ผู้ใช้งานแพลตฟอร์มได้โดยไม่สะดุด

จะเห็นได้ว่า ด้วยประสบการณ์การทำธุรกิจด้านแพลตฟอร์มมาเป็นเวลานานนั้นช่วยให้ Tencent Cloud เข้าใจถึงปัญหาและธรรมชาติของกลุ่มธุรกิจนี้ พวกเขาจึงมีเทคโนโลยีและโซลูชันพร้อมใช้งานแบบต่างๆ นำเสนอให้กับผู้ให้บริการคอนเทนท์มากมายได้เลือกใช้งานได้ทันที เช่น บริการ AI เพื่อเพิ่มและแก้ไขคุณภาพของวิดีโอ การประมวลผลภาพ เสียงและวิดีโอประสิทธิภาพสูง และบริการอื่นๆ สำหรับจัดการคอนเทนท์ในแพลตฟอร์มโซเชียล

อุตสาหกรรมบริการด้านการเงิน

อุตสาหกรรมบริการด้านการเงินหรือ FSI นั้นเป็นอุตสาหกรรมที่ Tencent Cloud มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ และเป็นอุตสาหกรรมที่มีสัดส่วนการใช้งานและความตื่นตัวด้านเทคโนโลยีค่อนข้างสูง ในประเทศไทยที่มีการใช้บริการ Digital Banking สูงขึ้นมาก ธุรกิจการเงินจึงต้องปรับตัวตลอดเวลาเพื่อสร้างบริการที่สะดวก รวดเร็ว และตอบโจทย์พฤติกรรมการใช้งาน ซึ่งสอดคล้องกับคุณสมบัติของคลาวด์ที่สามารถมอบความยืดหยุ่น รวดเร็ว ปลอดภัย รองรับการจัดเก็บข้อมูลปริมาณมาก และเป็นเครื่องมือในการสร้างนวัตกรรมเพื่อรับมือกับสถานการณ์ต่างๆได้ดี

Tencent Cloud มีโซลูชันเฉพาะสำหรับธุรกิจการเงินมากกว่า 300 รายการ รวมไปถึงเทคโนโลยีใหม่ๆอย่าง AI และ Blockchain ซึ่งจะช่วยธุรกิจย่นระยะเวลาในการพัฒนาระบบใหม่ๆได้ค่อนข้างมาก รองรับบริการที่หลากหลายทั้งการให้บริการผู้บริโภคและธุรกิจ เช่น บริการการชำระเงิน บริการสำหรับการเงินสำหรับยานยนต์ การทำ Industry Chain Finance การบริหารความเสี่ยง การทำการตลาด การให้บริการลูกค้า

อุตสาหกรรมสุขภาพและการสาธารณสุข

คุณชาง ฟู มองว่าการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้นั้นจะช่วยสร้างรากฐานที่ดีให้กับระบบสาธารณสุขในระยะยาว โดยได้ยกตัวอย่างการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ ในการพัฒนาแพลตฟอร์ม Phuket Organizations COVID Care (POCC) ให้กับจังหวัดภูเก็ต ซึ่งถูกใช้งานในมาตรการเชิงรุกเพื่อรับมือกับการติดเชื้อและการดูแลผู้ป่วยอย่างรวดเร็ว ช่วยลดความหนาแน่นในสถานพยาบาลและลดความเสี่ยง อีกทั้งยังสามารถต่อยอดไปให้บริการสาธารณสุขด้านอื่นๆ ในอนาคต

แพลตฟอร์ม POCC ช่วยให้การรวบรวมข้อมูลและติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ดำเนินไปได้อย่างเป็นระบบ

Tencent Cloud กับการเป็น Digital Enabler ให้กับองค์กรไทย ในยุค Cloud-First

จากการพูดคุยกับคุณชาง ฟูในการสัมภาษณ์ครั้งนี้ ทำให้เราพอจะมองเห็นแล้วถึงศักยภาพของ Tencent Cloud ในการเข้ามาช่วยให้ธุรกิจเติบโตในยุคดิจิทัลได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นบริการคลาวด์พื้นฐานที่มีดาต้าเซ็นเตอร์และทีมซัพพอร์ตในประเทศ หรือบริการเฉพาะด้านที่พร้อมให้เลือกใช้งานได้ทันที ทั้งหมดนี้ตอกย้ำได้ชัดเจนยิ่งขึ้นว่า Tencent Cloud คือ หนึ่งในผู้ให้บริการชั้นนำและที่น่าสนใจและสามารถตอบโจทย์สำหรับธุรกิจไทยที่กำลังมองหาเทคโนโลยีดิจิทัลมาเสริมทัพให้กับตัวเอง

สำหรับท่านที่สนใจรายละเอียดบริการของ Tencent Cloud เพิ่มเติม สามารถเข้าไปศึกษาได้ในเว็บไซต์ https://cloud.tencent.co.th/th  หรือติดต่อกับทีมงานของ Tencent Cloud โดยตรงได้ที่นี่

Check Also

Cisco ปิดดีลเข้าซื้อ Splunk มูลค่า 1 ล้านล้านบาท

หลังจากผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มข้นจนได้รับอนุมัติเรียบร้อย ล่าสุดทาง Cisco ได้ประกาศถึงความสำเร็จในการเข้าซื้อกิจการของ Splunk ที่มูลค่า 28,000 ล้านเหรียญหรือราวๆ 1 ล้านล้านบาทอย่างเป็นทางการแล้ว

NVIDIA เปิดตัว NIM Microservices และ Cloud Endpoints ใหม่ ช่วยองค์กรพัฒนา Generative AI ใช้งานได้สะดวกขึ้น

NVIDIA เปิดตัว API และเครื่องมือใหม่สำหรับการพัฒนาและใช้งาน Generative AI ในงานสัมมนา NVIDIA GTC 2024 ซึ่งจะช่วยให้การพัฒนาและนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้งานสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้นตั้งแต่ขั้นตอนการจัดเตรียมข้อมูล ปรับแต่งโมเดล ไปจนถึงการรักษาความปลอดภัยด้วย Guardrails