Microsoft Azure by Ingram Micro (Thailand)

เลือกอุปกรณ์ Storage สำหรับงาน AI และ Data อย่างไร ให้ตอบโจทย์เชิงธุรกิจ ฉบับผู้บริหาร IT โดย Computer Union

เมื่อเทคโนโลยีได้กลายมาเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจ การตัดสินใจเลือกลงทุนในเทคโนโลยีต่างๆ ที่จะนำมาใช้งานนั้นจึงไม่ใช่เรื่องของฝ่าย IT เพียงฝ่ายเดียวอีกต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ข้อมูลหรือ Data ได้กลายมาเป็นทรัพย์สินสำคัญชิ้นใหม่ของธุรกิจองค์กร การลงทุนใดๆ เกี่ยวกับข้อมูลนั้นก็ได้กลายเป็นการตัดสินใจสำคัญในระดับกลยุทธ์ของธุรกิจไปแล้ว ดังนั้นผู้บริหารในทุกวันนี้จึงควรต้องเข้าใจเบื้องต้นในเรื่องของระบบ Enterprise Storage ซึ่งเป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลสำหรับธุรกิจ และเลือกใช้ให้เหมาะสมกับงาน ในความสำคัญระดับเดียวกับการตัดสินใจซื้อเครื่องจักรมาเสริมสายการผลิตนั่นเอง

ในบทความนี้เราจะพาผู้บริหารธุรกิจทุกท่านไปรู้จักกับเทคโนโลยีของ Enterprise Storage อย่างสุดอย่าง All Flash Storage ไปจนถึงคุณค่าที่จะเกิดขึ้นต่อธุรกิจ และประเด็นสำคัญในการตัดสินใจเลือกใช้เทคโนโลยี All Flash Storage

Enterprise Storage หัวใจสำคัญของการจัดเก็บข้อมูลเพื่อต่อยอดงาน AI และ Analytics

ในเอกสารผลการศึกษาจาก The Enterprise Strategy Group หรือ ESG ที่ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นจากผู้บริหารที่มีสิทธิ์ตัดสินใจทางด้าน IT นั้นระบุว่าปัจจัยอันดับหนึ่งที่ทำให้ระบบ IT ของธุรกิจองค์กรมีความซับซ้อนสูงที่สุดนั้นก็คือการที่ธุรกิจมีข้อมูลปริมาณมหาศาล ซึ่งเกิดจากการที่ธุรกิจนั้นให้คุณค่ากับข้อมูลมากขึ้นกว่าในอดีตอย่างก้าวกระโดดนั่นเอง

อย่างไรก็ดี การลงทุนด้านระบบโครงสร้างเพื่อการจัดเก็บและจัดการข้อมูลเหล่านี้ก็ยังถือเป็นสิ่งสำคัญของการดำเนินกลยุทธ์ทางธุรกิจ โดยกว่า 25% ของผู้บริหารในการสำรวจของ ESG นั้นระบุว่าฝ่าย IT นั้นได้กลายเป็นหน่วยงานที่ริเริ่มธุรกิจในภาคส่วนใหม่ๆ ไปแล้ว ในขณะที่อุปสรรคที่มักพบในเชิงเทคโนโลยีนั้น ก็คือความล่าช้าและความซับซ้อนของระบบและการเริ่มเปิดให้บริการใหม่ๆ

จากข้อมูลเหล่านี้ จะเห็นได้ว่าการวางระบบจัดเก็บข้อมูลที่ดีแต่แรกนั้นจะช่วยให้ธุรกิจสามารถใช้งานข้อมูลได้อย่างเต็มที่ ลดความซับซ้อนที่จะเกิดขึ้น และเพิ่มความยืดหยุ่นในการสร้างโอกาสใหม่ๆ จากข้อมูลที่ธุรกิจองค์กรมีอยู่ได้

โดยทั่วไปแล้ว ภายใน Data Center ของธุรกิจองค์กรนั้น จะมีอุปกรณ์กลุ่มหนึ่งที่เรียกว่า Enterprise Storage ซึ่งทำหน้าที่ในการจัดเก็บข้อมูลโดยเฉพาะ โดยอุปกรณ์เหล่านี้มักจะต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้

  1. มีพื้นที่ความจุเพียงพอต่อการใช้จัดเก็บข้อมูลทั้งในปัจจุบันและอนาคต
  2. มีประสิทธิภาพในการเขียนอ่านข้อมูลที่เพียงพอต่อการใช้งาน และเหมาะสมต่อรูปแบบของระบบงานที่ต้องการ
  3. มีความสามารถในการปกป้องข้อมูลไม่ให้สูญหายจากความเสียหายของ Hardware หรือระบบไฟฟ้า
  4. มีความสามารถอื่นๆ ตามที่องค์กรต้องการ เช่น การสำรองข้อมูลภายในหรืออกไปยังภายนอกระบบ, การทำงานร่วมกับระบบงานอื่นๆ ที่มีอยู่เดิม, การบริหารจัดการร่วมกับระบบอื่นๆ ได้ เป็นต้น
  5. อยู่ในงบประมาณที่เหมาะสมต่อการลงทุน และในระยะยาวมีค่าใช้จ่ายแอบแฝงเกิดขึ้นน้อยที่สุด

แน่นอนว่าแต่ละธุรกิจองค์กรนั้นก็ย่อมแตกต่างกันออกไป บางระบบอย่างเช่นระบบสำรองข้อมูลบางระบบนั้นอาจต้องการเพียงแค่พื้นที่จัดเก็บข้อมูลปริมาณมากเพื่อให้สำรองข้อมูลของระบบเดียวย้อนหลังได้หลายชุด หรือระบบฐานข้อมูลนั้นก็อาจต้องการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลไม่มากนัก แต่มุ่งเน้นที่ความเร็วเป็นหลัก ในขณะที่บางระบบที่อยู่บน Cloud เป็นหลักนั้นก็อาจใช้เพียงแค่ Cloud Storage ก็พอ แต่บางระบบที่มีความต้องการเฉพาะทางด้านข้อมูลมากหน่อยและต้องการลดต้นทุนการเช่าใช้ Cloud ก็อาจพิจารณาระบบ Enterprise Storage เพิ่มเติมได้ เป็นต้น

แต่สำหรับงานทางด้าน AI และ Analytics นั้น โจทย์โดยหลักคือการจัดเก็บข้อมูลปริมาณมหาศาลย้อนหลังเป็นเวลานาน และสามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นได้อย่างรวดเร็วทั้งในเชิงของการเขียนและการอ่านข้อมูล รวมถึงจะต้องยังสามารถทำการย้ายข้อมูลได้ง่ายเพื่อให้มีความคล่องตัวในการนำข้อมูลเหล่านั้นไปใช้งาน ซึ่งในบรรดาเทคโนโลยี Enterprise Storage ที่มีด้วยกันหลากหลายนี้ All NVMe Flash Storage ก็เป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่จะมาตอบโจทย์ความต้องการดังกล่าวนี้ได้เป็นอย่างดี

All NVMe Flash Storage เทคโนโลยี Enterprise Storage ล่าสุดที่เต็มเปี่ยมด้านประสิทธิภาพ

Non-volatile Memory Express หรือ NVMe นั้นคือชื่อของเทคโนโลยีใหม่ที่ใช้ในการเชื่อมต่อเข้าถึงข้อมูลภายในอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลล่าสุด ที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานกับ Flash Storage ซึ่งเป็นอุปกรณ์ Storage ชนิดที่มีความเร็วสูง โดยนอกจากจะมีความเร็วในการเชื่อมต่อเข้าถึงข้อมูลที่สูงแล้ว NVMe ก็ยังทำงานแบบคู่ขนานได้ ทำให้ในระบบ Enterprise Storage ที่ต้องการความเร็วสูงในการใช้งานอย่างเช่นระบบสำหรับ AI และ Analytics นั้น All NVMe Flash Storage จึงมักกลายเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ไป

ในผลสำรวจของ ESG นั้นยังระบุด้วยว่าสาเหตุอันดับหนึ่งที่ธุรกิจองค์กรตัดสินใจเลือกใช้ All NVMe Flash Storage นั้น ก็คือการต้องการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบ Enterprise Storage ให้สามารถจัดเก็บและนำข้อมูลมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นทั้งสำหรับปัจจุบันและอนาคต ตามมาด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ระบบ Application ที่มีอยู่เดิม ไปจนถึงการลดค่าใมช้จ่ายทั้งในแง่ของการลงทุนระบบในภาพรวมและการดูแลรักษาระบบ IT

ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าในการลงทุน All NVMe Flash Storage มากขึ้น อีกคุณสมบัติหนึ่งที่ ESG ได้ระบุถึงก็คือการทำ Storage Virtualization ซึ่งเป็นความสามารถที่จะช่วยให้สามารถทำการบริหารจัดการอุปกรณ์ Storage เดิมที่ธุรกิจองค์กรมีอยู่ก่อนหน้าได้จากศูนย์กลางร่วมกับ All NVMe Flash Storage นี้ ทำให้ไม่ต้องทิ้งหรือยกเลิกการใช้งานอุปกรณ์ที่มีอยู่เดิมไปทั้งหมด แต่ยังคงสามารถเก็บไว้ใช้งานเพื่อเป็นทางเลือกในการจัดเก็บ, สำรอง หรือย้ายข้อมูลชั่วคราวได้ และทำให้การจัดการกับข้อมูลนั้นมีความยืดหยุ่นคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น ซึ่งความสามารถนี้อาจจะไม่ได้มีในทุกระบบ Enterprise Storage ที่มีให้เลือกใช้ในวงการ

ในภาพรวมแล้ว การเลือกใช้ All NVMe Flash Storage จะช่วยให้ธุรกิจองค์กรได้รับประโยชน์ดังนี้

  • มีระบบ Enterprise Storage กลางสำหรับรองรับงาน AI โดยเฉพาะซึ่งมีประสิทธิภาพสูง วางใจได้ ไม่ต้องกังวลว่าระบบจะมีประสิทธิภาพไม่เพียงพอต่องานในอนาคต
  • มีระบบ Enterprise Storage ที่มีความยืดหยุ่นสูง รองรับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ดีโดยไม่ต้องลงทุนใหม่ซ้ำๆ และยังนำอุปกรณ์เก่าที่มีอยู่เดิมมาใช้งานร่วมกันได้ด้วยการทำ Storage Virtualization เพิ่มความคุ้มค่ามากขึ้นไปอีก
  • มีความมั่นคงปลอดภัยและมีความเสี่ยงที่ข้อมูลจะสูญหายน้อย ด้วยประสิทธิภาพที่สูงของระบบก็ทำให้การเข้ารหัสข้อมูลและเสริมความมั่นคงปลอดภัยให้กับข้อมูลสำคัญทางธุรกิจนั้นเกิดขึ้นได้ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการทำงานของระบบ อีกทั้งเทคโนโลยีเหล่านี้มักมาพร้อมกับความสามารถในการสำรองข้อมูลเบื้องต้นในตัว ลดความเสี่ยงที่ข้อมูลจะสูญหายไปทั้งหมดจาก Ransomware ได้

IBM FlashSystem: ระบบ All NVMe Flash Storage ที่ไม่เพียงแต่เร็วเท่านั้น แต่ยังง่ายดาย ทนทาน และตอบโจทย์การก้าวไปสู่ Hybrid Multicloud

IBM ในฐานะของผู้นำทางด้าน AI, Analytics, Cloud และ Enterprise Data Center ได้ทำการพัฒนาโซลูชัน IBM FlashSystem ซึ่งเป็นอุปกรณ์ All NVMe Flash Storage ออกมาสู่ตลาดเพื่อให้ธุรกิจองค์กรได้นำไปใช้งานได้อย่างมั่นใจ โดยมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้

  • ใช้สถาปัตยกรรม All NVMe ทั้งหมด และยังรองรับการใช้งาน Storage Class Memory (SCM) ทำให้มีความเร็วสูงกว่า All NVMe Flash Storage ทั่วๆ ไป โดย IBM FlashSystem รุ่น 9200 นั้นสามารถเขียนอ่านข้อมูลได้มากที่สุดถึง 18 ล้านครั้งต่อวินาทีเลยทีเดียว
  • รองรับการจัดเก็บข้อมูลปริมาณมหาศาลได้ โดย IBM FlashSystem รุ่น 9200 มีความจุได้สูงสุดถึง 32PB (32,000 TB) และยังมีเทคโนโลยี Data Reduction เพื่อลดพื้นที่ที่ต้องใช้ในการจัดเก็บข้อมูลลงได้ในตัว ช่วยให้เกิดความคุ้มค่าในการจัดเก็บข้อมูลมากยิ่งขึ้น พร้อมเทคโนโลยีในการปกป้องข้อมูลภายในตัวด้วย
  • เพิ่มขยายประสิทธิภาพและความจุได้ง่าย รองรับได้ทั้งการเพิ่มขยายแบบ Scale-Up และ Scale-Out
  • สามารถย้ายข้อมูลจากระบบจัดเก็บข้อมูลเดิมมาสู่ IBM FlashSystem ได้อย่างง่ายดายด้วยเครื่องมือที่มีให้พร้อมใช้งานได้ทันที ไม่ว่าข้อมูลเดิมนั้นจะถูกจัดเก็บอยู่บน Storage ของ IBM หรือผู้ผลิตรายอื่นก็ตาม
  • มี AI ช่วยทำการบริหารจัดการการจัดเก็บข้อมูลให้โดยอัตโนมัติ ทำให้เกิดความคุ้มค่าสูงสุดในประสิทธิภาพระดับที่เหมาะสมอยู่เสมอ
  • มี AI ช่วยทำการดูแลรักษาแจ้งเตือนแนวโน้มการเกิดปัญหาให้ล่วงหน้า ช่วยลด Downtime ที่อาจเกิดขึ้นกับระบบลงได้
  • สามารถทำการย้ายข้อมูลไปยัง Cloud ได้อย่างง่ายดาย เชื่อมต่อระบบเข้ากับ VMware, Kubernetes และ OpenShift ได้ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์การทำ Hybrid Multicloud ได้เป็นอย่างดี

และเพื่อให้สอดคล้องต่อความคล่องตัวของธุรกิจในแง่ของการลงทุน IBM จึงมีทางเลือกให้สามารถเช่าใช้งานอุปกรณ์ IBM FlashSystem โดยคิดค่าใช้จ่ายตามพื้นที่การใช้งานจริงรายเดือนได้ และสามารเปลี่ยนรุ่นของอุปกรณ์เพื่อเพิ่มความคุ้มค่าในการใช้งานได้เมื่อถึงรอบของการอัปเกรด

สำหรับผู้ที่สนใจเทคโนโลยี IBM Flash Storage สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.ibm.com/it-infrastructure/storage/flash

สนใจโซลูชันของ IBM ติดต่อ Computer Union ได้ทันที

ผู้ที่สนใจโซลูชันจาก IBM หรือต้องการให้ทาง Computer Union นำเสนอข้อมูลเพิ่มเติม หรือทำ workshop สามารถติดต่อทีมงาน Computer Union ได้ที่ cu_mkt@cu.co.th หรือโทร 02-311-6881 #7158

About nattakon

จบการศึกษา ปริญญาตรีและโท สาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ KMITL เคยทำงานด้าน Engineer/Presale ดูแลผลิตภัณฑ์ด้าน Network Security และ Public Cloud ในประเทศ ปัจจุบันเป็นนักเขียน Full-time ที่ TechTalkThai

Check Also

ผสาน Automation และ Intelligence เข้าไปยังความสามารถของงานด้านการผลิต โดย Infor

การนำเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาใช้งานในธุรกิจนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และแต่ละอุตสาหกรรมก็มีความท้าทายเฉพาะตัวที่ต้องเผชิญหน้า ในอุตสาหกรรมการผลิตเองก็เช่นกันที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ความต้องการของลูกค้า Supply Chain และอื่นๆ 

Cisco ปิดดีลเข้าซื้อ Splunk มูลค่า 1 ล้านล้านบาท

หลังจากผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มข้นจนได้รับอนุมัติเรียบร้อย ล่าสุดทาง Cisco ได้ประกาศถึงความสำเร็จในการเข้าซื้อกิจการของ Splunk ที่มูลค่า 28,000 ล้านเหรียญหรือราวๆ 1 ล้านล้านบาทอย่างเป็นทางการแล้ว